
ฉายา อีริคผู้ใช้เคียวแห่งสายลม (Erik the Whirlwind)สังกัด กองทัพเรือรัฐบาลโลก
อายุ ---
ส่วนสูง ประมาณ 187 cm.
ตำแหน่ง นักฆ่ารับจ้าง (Mercennary)
- กองเรือที่ 8 กองทัพโรยัล ของพลจัตวาเนลสัน (8th Marine Division) ตำแหน่ง นักฆ่ารับจ้าง (Mercennary)
ผลไม้ปีศาจ คามะ คามะ(Kama Kama)
ผลเคียว: สามารถปล่อยเคียวสายลมออกจากปลายนิ้วทั้ง 10ได้
อาวุธ กรงเล็บอันแหลมคมทั้ง 10 นิ้ว
เพื่อน นายจ้าง นายพลจัตวา เนลสัน
เผ่าพันธุ์ มนุษย์
ปรากฏตัวใน One Piece :Thousand-Year Dragon Filler
- การผจญภัยดินแดนลอสไอร์แลนตำนานเกาะมังกรพันปี - ชื่อ อิริค มาจากชื่อโจรสลัดที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้ายนาม Erik Cobham เป็นชาวแคนาดาที่สร้างชื่อเสียงในชื่อ “คู่โหด”ที่ออกปล้นพร้อมกับภรรยาของเค้า
............................
【】 เปิดตำนานโจรสลัดสุดโหด สวรรค์สร้างมาให้คู่กันกับโจรสลัดคู่สามีภรรยา อิริคและมาเรีย (Eric Cobham and Maria Linsey) 【】
【】 เปิดตำนานโจรสลัดสุดโหด สวรรค์สร้างมาให้คู่กันกับโจรสลัดคู่สามีภรรยา อิริคและมาเรีย (Eric Cobham and Maria Linsey) 【】 มือสังหารรับจ้าง อีริค เป็นผู้มีพลังจาก ผลไม้ปีศาจ ผลคามะ คามะ Kama Kama :Sickle Sickle ผลเคียวสายพารามิเซีย เค้าเป็นมนุษย์เคียวสายลม มีพลังที่ทำให้ผู้ครอบครองมีพลังเหมือน "จิ้งจอกลม คาไมทาจิ" โดยหลักพลังนี้ต้องใช้ควบคู่ไปกับพลังของนิ้วมือซึ่งจะสร้าง ใบมีดสูญญากาศได้คมกริบขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับพลังของผู้ที่ครอบครองว่าจะแข็ง แกร่งเพียงใด อีริคสามารถใช้นิ้วทั้งสิบองเค้าได้อย่างเชี่ยวชาญเพราะเค้าเป็นนักฆ่าที่ ใช้มือเปล่าในการสังหารศัตรู โดยเค้าใช้ความสามารถที่มีผสานกับพลังของผลเคียวในการกรีดอากาศให้เกิดเป็น เคียวสายลมที่แหลมคมพุ่งเข้าใส่ศัตรูโดยที่ศัตรูไม่อาจ รู้ตัวได้ว่า เคียวสายลมจะพุ่งมาจากทิศทางไหนเพราะเป็นมีเพียงเสียงลมแหวกอากาศแต่กว่าจะ รู้ตัวก็ถูกอากาศที่คมกริบบาดผิวหนังจนเกิดเป็นบาดแผลคร้ายถูกดาบที่แหลมคม ฟาดฟัน มีท่าไม้ตาย ชื่อว่า พายุหมุนจิ้งจอกลม คาไมทาจิ
จุดอ่อน : พลังของผลเคียวยิ่งโจมตีในระยะไกลยิ่งมีพลังโจมตีที่กว้างและรุนแรงเป็นทวีคูณแต่หากเป็นการโจมตีระยะปะชิดพลังก็จะยิ่งน้อยตามไปด้วย
![]() |
| อีริค เดอะ ไวร์วินด์ (Erik the Whirlwind) |
..........................
【】 นอกเรื่องความรู้รอบตัว 【】
เปิดตำนานโจรสลัดสุดโหด สวรรค์สร้างมาให้คู่กันกับโจรสลัดคู่สามีภรรยา อิริคและมาเรีย (Eric Cobham and Maria Linsey)
.............................







