• http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/.StawHat%20%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%9F%E0%B8%B2%E0%B8%87%20N.
  • http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Yonkou%20Lord%20White
  • http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Wanted%20Pir.D.Q.X.T
  • http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Yonkou%20Lord%20Red
  • http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Yonkou%20Lord%20Black
  • http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Wanted%20Pir.KingPirate
  • http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Wanted%20Pir.Sunny
....

One Piece วันพีช เก็กโค โมเรีย_Gecko Moria ★ ゲッコー・モリア

WANTED 7 เทพโจรสลัด Gecko Moria 
ฉายา ราชาแห่งเงา
(KING OF SHADOW)
 - ราชาโลกคนตาย - 
(KING OF THE DEPTH)
ค่าหัววันพีช 320,000,000
อายุ 48 ปี/ 5 กันยายน  
ส่วนสูง  692 cm.
เรือ  ธริลเลอร์บาร์ค 
ตำแหน่ง  7 เทพโจรสลัด(Shichibukai) : ถูกปลด
-  กัปตันกลุ่มโจรสลัด เก็กโค โมเรีย(ดินแดนธริลเลอร์บาร์ค)
จ้าวแห่งเงาผู้ควบคุมซากศพและซอมบี้
ผลปีศาจ คาเงะคาเงะ(KageKage)พารามิเซีย/เหนือมนุษย์
ผลบงการเงา : ควบคุมเงาของตนและสามารถขโมยเงาของผู้อื่นมาใช้งานได้
ธาตุปฏิปักษ์-จุดอ่อน  เกลือและแพ้แสง(พิเกะ พิเกะ)
อาวุธ  กรรไกรตัดเงา (Gecko Moria Scissor)
สมาชิกกลุ่ม  ดอกเตอร์ ฮอกแบค (Hogback) ,อับซารอมเจ้าแห่งสุสาน (Absalom) ,โกสต์พริ้นเซส เพโรน่า (Perona),ซามูไรริวมะ(Ryuuma)
เผ่าพันธุ์ มนุษย์

              เก็กโคโมเลีย(Gecko Moria) เป็นคนที่ความสูงที่สุดในบรรดา 7เทพโจรสลัดด้วยกันเป็นมนุษย์ที่มีรูปร่างดูแปลกประหลาดที่ดูคล้ายหอมหัวใหญ่แฃละมีเขา2อันที่ข้างหน้าผาก มีหูและจมูกแหลม โมเลียมีนิสัยขี้เกียจและชอบนอนหลับในที่มืดเป็นเวลานานหลายวัน เค้ามีความฝันในการจะก้าวขึ้นเป็นจ้าวแห่งโจรสลัดโดยใช้พละกำลังจากลูกน้องจำนวน มากเพียงอย่างเดียวและมักพูดอยู่เสมอว่าลูกน้องก็เหมือนแขนขายิ่งมีมากก็ยิ่งดีและดูเหมือนบรรดาลูกน้องระดับหัวหน้าจะมีความเชื่อมั่นในตัว โมเลียอยู่มากทีเดียวว่าจะได้เป็นราชาโจรสลัดในอนาคตได้อย่างแน่นอน
       - 7 เทพโจรสลัดถูกกล่าวขวัญกันว่าเป็นดั่งอัศวินทั้ง 7 แห่งท้องทะเลหรืออีกนัยหนึ่งอาจถูกเปรืยบเป็นเงาของบาปทั้ง 7  ที่มีอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกคน
        Moria ถูกเปรียบเป็น ความเกียจคร้าน(sloth/laziness) สัญลักษณ์ของเกียจคร้านคือแพะ สีประจำบาปคือสีคราม : ความไม่สนใจใยดีต่อการเปลี่ยนแปลงต่อสิ่งรอบข้าง ไม่ต้องการจะทำอะไรปล่อยให้ผู้อื่นทำงานแทนตนเอง 
............................
เปิดตำนานบาปแห่ง ความเกียจคร้าน(SLOTH)  ภายใต้บัญชาจากจอมมาร เบลฟิวเกอร์ Belphegor - จอมปีศาจแห่งการหลอกใช้มนุษย์
 
http://pirateonepiece.blogspot.com/2010/02/7_26.html







  
 

 

 
        เก็กโค โมเลีย ผู้เป็นดั่งราชาแห่งเงามืด แม้จะมีร่างกายที่ใหญ่โตแต่เค้าก็สามารถใช้พลังจากผลปีศาจได้ถึงขีดสุดด้วยพลังจาก ผลปีศาจ คาเงะ คาเงะ  Kage Kage : Shadow ผลเงา มีความสามารถในการนำเงาของผู้อื่นมาใส่ร่างซอมบี้ของตนและจะได้ความ สามารถของเจ้าของเงาติดตัวมาด้วยแต่ซอมบี้เหล่านี้จะถูกเกลือไม่ได้ไม่เช่น นั้นเงาจะออกจากร่างและกลับไปหาเจ้าของ ส่วนผู้ที่ถูกชิงเงาไปก็จะไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้อีกเพราะหากถูกแสงแดด ร่างจะสลายไปในทันทีด้านฝีมือและพละกำลังบวกกับผลเงาที่ต้องใช้ชีวิตในความมืดตลอดเวลา ทำให้เค้ายิ่งดูเหมือนปีศาจร้ายเข้าไปใหญ่ มีร่างแยกเป็นเงาของตนเองชื่อ ด็อบเพลแมนและมีร่างแยกอีกขั้นชื่อ บริคแบ็ท
           จุดอ่อน : เงาเปรียบเสมือนปีศาจร้ายที่แฝงร่างมนุษย์การใช้เกลือในการขับไล่ภูติผีสมัยโบราณนิยมใช้กันอย่างมากนอกจากนี้การไล่เงาออกจากร่างที่โมเลียสร้างขึ้นปริมาณเกลือจะต้องสมดุลกับขนาดของร่างกาย
  -   การบังคับเงาของผู้อื่นที่ชิงมาได้นั้นหากเจ้าของแข็งแกร่งกว่า โมเลีย การบังคับบันชาจะทำได้ยากหรืออาจไม่ทำตามคำสั่งโดยสมัครใจทำ ขัดขืนบ้างในบางครั้ง
  -   เงาที่ถูกตัดดออกมาจากร่างต้นแล้วครั้งหนึ่งจากเมื่อถูกชำระล้างด้วยเกลือแล้วเงาจะกลับไปคืนร่างอัตโนมัตินอกเสียจากว่าจะจับไว้ใช้งานต่อแต่โมเลียจะไม่สามารถชิงเงานั้นมาจากร่างต้นได้อีก
  -  ร่างที่เอามาใส่เงาจะมีเงาได้เพียง 1เงา 1 ร่างเท่านั้นแต่หากนำเงาไปใส่ยังผู้มีชีวิตจะสามารถใส่ได้หลายเงาขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของวิญญาณผู้นั้นแต่จะมีเวลาจำกัดเพียง 10นาทีเท่านั้น
   -  การชิงเงาจะชิงเอามาจากผู้มีชีวิตเท่านั้น เงาคนตายไม่สามารถทำได้

http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Wanted%20Pir.Gecko
เก็กโคโมเลีย - King of the Depth
"ไม่มีสิ่งใดจะทำให้เวลาหยุดเดินได้ ...........
สุดท้ายทุกคนต่างยอมแพ้ให้กับความตาย ....แต่สำหรับฉันเวลา
ช่วยให้ฉันแข็งแกร่งขึ้นและความตายทำให้มีลูกน้องมากมาย.." 

          เก็กโค โมเลียเป็น1ใน7 เทพโจรสลัดที่จัดว่าเก่าแก่ที่สุดในบรรดา 7เทพโจรสลัดรุ่นปัจจุบันเค้าสามารถควบคุมเหล่าซอมบี้โดยการนำเงาไปใส่ไว้ในร่างซอมบี้และใช้การควบคุมเงาด้วยพลังจากผลปีศาจ ทำให้เค้าเป็นราชาเงาที่สมบูรณ์แบบ ครั้งหนึ่งเมื่อกว่า10ปีก่อนในตอนนั้นสมาชิกในกลุ่มของ โมเลีย ยังคงเป็นมนุษย์ปกติแต่แล้วความทเยอทยานของเก็กโค โมเลียถึงจุดที่ต้องการทาบรัศมี 4จักรพรรดิ ไคโด (Kaidou) แต่ผลจากการสู้รบที่โลกใหม่กลับพ่ายแพ้ไม่เป็นท่าซ้ำลูกน้องทั้งหมดยังถูกยึดไปทั้งหมดอีกด้วย  ทำให้การพ่ายแพ้ในครั้งนั้นเปลี่ยนชีวิตของ โมเลียไปเลยก็ว่าได้ทำให้เค้าคิดว่าลูกน้องที่มีชีวิตนั้นช่างเปราะบางและง่ายที่จะถูกช่วงชิงแต่หากเป็นลูกน้องที่เป็นซอมบี้จะไม่ตายและไม่มีใครแย่งชิงไปได้เค้าเซาะหาผู้ที่จะมาทำร่างซอมบี้ให้เค้าและได้พบด็อกเตอร์ฮอกแบ็คที่กำลังต้องการหาหมายในชีวิตเข้าพอดีจึงชวนมาร่วมกลุ่มและให้เป็นรองหัวหน้าดูแลการผลิตกำลังรบ

 โมเลีย(MORIA) วัยหนุ่ม 26 ปี
               ในเหตุการณ์แห่งประวัติศาสตร์การประหารราชาโจรสลัด โกล โรเจอร์ โมเลียที่มีอายุเพียง 26 ปี ก็อยู่ในเหตุการณืครั้งนั้นด้วยโดยความคิดในขณะนั้นของเค้ารู้ในทันทีว่าจุดเริ่มต้นที่จะก้าวขึ้นเป็นราชาโจรสลัดคนต่อไปของเค้าได้เริ่มขึ้นแล้วโดยเค้าเริ่มสร้างชื่อให้ตนเองใน โลกใหม่ก่อนจะมาเป็น 7เทพโจรสลัดในภายหลัง
                 ปรากฏตัวครั้งแรกโลกวันพีช บนเกาะลอยน้ำส่วนตัวของเค้าธริลเลอร์บาร์ค( Thriller Bark )โดยลูกน้องมาปลุกให้ตื่นและรายงานถึงการบุกรุกของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางซึ่งแม้ว่าจะส่ง เจเนรัลซอมบี้ไปจัดการแล้วแต่ดูเหมือนและพ่ายแพ้ทั้งหมดทำให้ โมเลียต้องนำซอมบี้ที่แข็งแกร่งที่สุด มนุษย์ปีศาจออซ(Oars)เข้าต่อสู้แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะลูฟี่ในร่างที่ผนึกเงา100ร่างไว้กับตัว(Nightmare)ทำให้โมเลียต้องออกมาสู้เองแต่ก็พ่ายแพ้ให้กับลูฟี่และพวกสร้างรอยแผลแห่งความพ่ายแพ้ให้โมเลียได้จดจำไปตลอดชีวิต


.........................................

【】 นอกเรื่องวันพีชความรู้รอบตัว 【】
        เปิดตำนานบาปร้ายแรงแห่ง ความเกียจคร้านความไม่เชื่อสิ่งต่างๆรอบตัว ภายใต้บัญชาจากจอมมาร เบลฟีเกอร์ Belphegor - จอมปีศาจที่เห็นมนุษย์เป็นของเล่น

                บาป 7 ประการ  เป็นหลักคำสอนของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิคใน อดีตกาล ให้มนุษย์ไม่ทำตามสัญชาตญาณของตนมากจนเกินไป ทางศาสนาคริสต์ได้แบ่งบาปออกเป็น 2 ประเภทคือ แบบที่สามารถยกโทษให้ได้ และ แบบรุนแรง ในต้นศตวรรษที่ 14 หลักคำสอนนี้เป็นที่นิยมในหมู่ศิลปิน (หรือแม้กระทั่งในปัจจุบัน) ผลงานศิลปะมากมายที่สื่อถึงบาป 7 ประการแพร่ไปทั่ววัฒนธรรมต่างๆทั่วโลก

       6/  เกียจคร้าน (ภาษาละติน: acedia อาซีเดีย ; ภาษาอังกฤษ: sloth/laziness) 
        ความไม่สนใจใยดีต่อการเปลี่ยนแปลง ต่อสิ่งรอบข้าง ใช้เวลาอย่างไร้ค่า ความไม่ต้องการที่จะทำอะไร โดยปล่อยให้ผู้อื่นเป็นผู้ทำงานหนักเพื่อตนเองเท่านั้น การปล่อยปละละเลยต่อหน้าที่ของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการละเลยที่จะทำดีรวมถึงการละเลยที่จะเคารพต่อพระเจ้าด้วย ผู้ที่เกียจคร้านจะอยู่เฉยๆ รักษาสภาพความเป็นอยู่ของตนเองในภาวะเดิมตลอดเวลา ไม่ทำอะไรมาก แต่ก็ไม่ใช้อะไรมากเช่นกัน "เบลฟีเกอร์" ปีศาจผู้ไม่ยอมทำอะไร  เพียงแต่บอกให้มนุษย์คอยทำสิ่งเหล่านั้นให้เป็นปีศาจประจำบาปข้อนี้ สัญลักษณ์ของเกียจคร้านคือแพะ สีประจำบาปคือสีคราม บทลงโทษของผู้เกียจคร้านคือการถูกโยนลงไปในบ่องูพิษ

           ผู้หลงในบาปข้อนี้จะถูกจองจำในนรกขุมที่ 1 (First Circle :Limbo) นรกขุมนี้เป็นนรกคนเป็นที่ที่วิญญาณทุกดวงต้องมารวมกัน และจะกักเหล่าวิญญาณที่ไม่ทำอะไรเลย ไม่คิดไม่เชื่ออะไรแม้กระทั่งศาสนา คนพวกนี้จะถูกสาปให้ใช้ชีวิตอยู่ในปราสาทที่มีประตู 7 ประตูซึ่งแสดงให้เห็นถึง 7 คุณธรรมของมนุษย์ซึ่งโดยสวนใหญ่ผู้ที่อยู่ที่ี่จะเป็นผู้มีความรู้หรือนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งเบลฟีเกอร์ชอบหลอกใช้คนพวกนี้เป็นอย่างมาก
ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดเกียจคร้านคือ ความกระตือรือร้น ความทะเยอทะยาน 

"เบลฟีเกอร์" ปีศาจขี้เกียจจ้าวแห่งการหลอกลวง Belphegor
"ข้าคือจอมปีศาจประจำเดือน เมษายน 
ผู้บูชาข้าจะได้รับซึ่ง  สติปัญญาอันปราดเปรื่อง"

            BELPHEGOR จอมปีศาจแห่งความเกียจคร้าน มหาบาปข้อที่ 6 : ชื้ออื่นที่ปรากฏ: Baal Davar, Baal-Peor, Baalam, Baalberith, Baalphegor, Baalsebul, Baalzephon, Bael, Baell, Balam, Balan, Balberith, Beal, Belberith, Beleth, Belfagor, Belial, Beliar, Belphegor, Berith, Bileth, Bilet, Byleth, Elberith, BA'AL  ความหมายของชื้อ: จ้าวแห่งการเปิดโปง , Baal แห่งเขา Phegor  
              Belphegor หรือชื้อที่คุ้นหูกันดี Baal (บาร์ล หรือ บา-อัล) ซึ้งปรากฏในนวนิยาย หรือ กวี หลายๆเรื่อง เกมส์หลายๆเกมส์ และวงค์ร๊อกบูชาซาตาน ซึ้นเป็นชื้อเดียวกัน กับเทพ Baal เทพแห่งสายฟ้าแห่งอียิปต์ ซึ้งยังไม่แน่ชัดว่าเกี่ยงข้องกันรึป่าว โดยเบลเฟกอร์ ตามพระคัมภีร์ เป็นตัวแทนของความขี้เกียจ ไม่ทำการทำงาน ไม่ทำหน้าที่รับผิดชอบ สัปเพร่า ทำงานขาดตกบกพร่อง บาปนี้ ปรากฏต่อมนุษย์ทุกคน ไม่สิ..... ต้องบอกว่าปรากฏต่อสิ่งมีชีวิตที่มีสติทุกอย่าง ปรกติแล้วจะเกิดกับคนที่หลับในเวลา ทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ้ง ถ้าเป็นงานของพระ ซึ้งพอโดนมันครอบงำเข้าละก็ ไม่มีทางที่จะทำงานหรอก  
                 เบลเฟกอร์ จ้าวแห่งความไร้ศีลธรรม ซึ้งอดีดเคยเป็นเทวฑูต มีหน้าที่ในการจัดตำแหน่ง (อาจจะเกี่ยวข้องกับการจัดตำแหน่งอย่างไร้ศิลธรรมในสมัยก่อนก็ได้ อย่างน้อยผมก็คิดว่างั้นนะ) ในนรก เบลเฟกอร์ เป็นปีศาจนักประดิษฐ์ที่ชาญฉลาด และการค้นพบสิ่งของแปลกๆ มักจะปราฏกตัวให้คนที่ชอบโกง และชั่วร้าย ซึ้งมันจะให้สิ่งประดิษฐ์ที่พิศดารแก่คนผู้นั้น เมื่อปรากฏร่าง มันมักจะออกมาในรูปของหญิงสาว หรือไม่ก็ปรากฏในร่างของปีศาจเครายาวปากกว้างมีเขาและเล็บยาว มันชอบที่ยั่วยวน ผู้ชายให้หลงไหลในกามรส  

ตราเวทอัญเชิญมาร Belphegor
ร่างจริงของมาร เบลเฟเกอร์













            อีกชื้อหนึ่งของมันคือ จอมเปิดโปง ซึ้งก็คือ ถ้าที่ใหนมีความลับ มันจะไปเปิดโปงให้คนเค้ารู้กันทั่ว ซึ้งส่วนมากจะไม่ค่อยดีนัก และอาจจะเพราะเหตุนี้ เมื่อมันปรากฏตัว มันจึงมักจะไม่ใส่เสื้อผ้า ประวัติความเป็นมาของปีศาจตนนี้ ตามชื้อจองมัน Belphegor ซึ้งก็คือ Baal จากภูเขา Phogor หรือ ภูเขาPeor ภูเขาในแถบอนาจักร Moab (ผมก็ไม่แน่ใจว่าที่ใหน) ซึ้ง Baal น่าจะเป็นผู้ครอบครองภูเขา Phegor แห่งอนาจักร Moabite (ม้อไบ? เกี่ยวป่ะ??) บางคนก็บอกว่ามันคือเทพ Chamos (Chemosh) เทพ ประจำประเทศ Moab ซึ้งก็แน่นอนว่ามันพิสูจน์ไม่ได้ว่ามันมีรากฐานจริงๆที่ใหน ซึ้งนักโบราณคดีก็ต้องเดากันไปต่างๆนาๆ ไม่ว่าจะเป็นคน หรือ เทพ แต่ที่รู้แน่ๆคือเป็นผู้ที่ได้ปกครองภูเขา Phogor และได้รับการบูชา ชาวบ้านจะต้องนำเครื่องเซ่นจากผลผลิตมาถว่าย ซึ้งมีปรากฏในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล  
               Baalมักจะมีการค้า ผู้หญิงของ Moab แลกกับเงินทองและผลผลิต และคนที่ขัดขืนจะโดนประหาร และก็เลนเกิดเป็นลัทธิบูชา Baal (คล้ายๆกับสมัยที่ฮิตเลอร์ขึ้นปกครองเยอร์มันน่ะแหละ) ความเลวทรามของ Baal กระฉ่อนไปทั่วหล่า แล้วจะมีจอมยุทคนใหนจะมาจัดการละนี้? 555 .....ใช่แล้ว ในที่สุดก็มีจอมยุท ซึ้งเป็นทะหารชาวอาหรับ (?) และก็ได้ เป็นสงคราขึ้นในอิสราเอล ซึ้งได้ปรากฏขึ้นหลายต่อหลายครั้งในไบเบิล.....และนักบุญพอลเลยหยิบเอามา อ้างอิงในคำสอนของท่านหลายบท และก็เลยกลายเป็น Belphegor ทุกวันนี้
............................