• http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/.StawHat%20%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%9F%E0%B8%B2%E0%B8%87%20N.
  • http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Yonkou%20Lord%20White
  • http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Wanted%20Pir.D.Q.X.T
  • http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Yonkou%20Lord%20Red
  • http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Yonkou%20Lord%20Black
  • http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Wanted%20Pir.KingPirate
  • http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Wanted%20Pir.Sunny
....

One Piece วันพีช จูลาคีล มิฮอว์ค_Juracule Mihawk ★ ジュラキュール・ミホー

WANTED 7 เทพโจรสลัด Juracule Mihawk 
http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/MARINE.%20.World%20Nobฉายา 7 เทพโจรสลัด มิฮอว์ค
 -  มิฮอว์ค ตาเหยี่ยว - 
( HAWK EYES MIHAWK )
ค่าหัววันพีช ประมาณ 
600,000,000 เบรี
ปราการ อาณาจักรคุรากานะ (Kuraigana Island) 
อายุ 41 ปี/ เกิด 9 มีนาคม
 ส่วนสูง  198 cm.  
เรือ  คอฟฟิน (Coffin) 
 ตำแหน่ง  1 ใน 7 เทพโจรสลัด(Shichibukai)
- นักดาบอันดับหนึ่งของโลก(Greatest Swordsman in the World) 
ผลปีศาจ  - 
อาวุธ ดาบระดับ 1:ดาบดำ โคคุโตะ โยรุ (The Black Blade Night)
เพื่อน แชงครูส(Shanks) 
เผ่าพันธุ์ มนุษย์

"หากผู้ใช้ดาบไม่รู้ซึ้งถึงคุณค่าและความสำคัญของดาบ........
ดาบนั้นก็เป็นเพียงแค่เศษเหล็ก...ไร้ค่า"
กล่าวโดย จูลาคีล มิฮอว์ค

           จูลาคีล มิฮอว์ค ตาเหยี่ยว (Juracule Mihawk)หรือในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษเรียกว่าดราคีล มิฮอว์ค(Dracule Mihawk)  มีชื่อเสียงในฐานะ 1ใน7เทพโจรสลัด และนักดาบอันดับหนึ่งลักษณะสง่างามสวมเสื้อผ้าหรูหราที่เน้นสีแดงและดำ ในแบบทหารของประเทศสเปนสมัยโบราณและสวมหมวกแบบฉบับชาวสเปนห้อยจี้ที่เป็นกางเขนโดยภายในมีมีดขนาดเล็กซ่อนอยู่และมีจุดเด่นอยู่ที่ดาบที่ด้านหลังที่มีลักษณะคล้ายกางเขนด้วยนิสัยที่เงียบขลึมของมิฮอว์คทำให้ดูสมกับเป็นนักดาบอันดับหนึ่งที่ไม่เคยแพ้ใครและสมกับเป็นเพื่อนของแชงครูสชอบความท้าทายที่ได้สู้กับศัตรูที่แข็งแรงและเป็นคนซื่อตรงต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 
         - 7 เทพโจรสลัดถูกกล่าวขวัญกันว่าเป็นดั่งอัศวินทั้ง 7 แห่งท้องทะเลหรืออีกนัยหนึ่งอาจถูกเปรืยบเป็นเงาของบาปทั้ง 7  ที่มีอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกคน 
          Mihawk ถูกเปรียบเป็น อัตตา(Vanity/pride) สัญลักษณ์ของอัตตาคือ สิงโต หรือ นกยูง สีประจำบาปคือสีม่วง : ความต้องการเป็นผู้ที่มีความสำคัญผักใฝ่ในอำนาจที่เหนือผู้อื่น เป็นหนึ่งไม่เป็นรองใคร
...................................







            มิฮอว์คเมื่อครั้งอดีตมีความสนใจในความสามารถของ แชงครูสมากถึงขั้นจัดเป็นคู่แข่งคนสำคัญที่ต้องเอาชนะให้ได้แต่เมื่อแชงครูสเสียแขนข้างหนึ่งไปความสนใจในตัวแชงครูสก็หมดไปและมองว่าการเอาชนะแชงครูสในขณะนี้เป็นการเอาเปรียบและเสียเกียจที่เอาชนะคนที่มีแขนเพียงข้างเดียวทำให้ในปัจจุบันตำแหน่งนักดาบอันดับหนึ่งยังคงไร้คู่ต่อสู้ ฉายาของเค้าได้มา จากดวงตาสีทอง ดั่งเหยี่ยวของเค้าประวัติของเค้าไม่เป็นที่เปิดเผยรู้เพียงแต่ว่าเป้นสหาย แชงครูสและเคยปะมือกันบ่อยครั้งแต่ก็อาจเป็นไปได้ว่าเค้าเป็นทายาทผู้เคยปกครองเกาะคุรากานะในสมัยโบราณซึ่งอาณาจักรนี้ครั้งในอดีตเกิดการสู้รบกันอย่างรุนแรงทำให้ผู้คนล้มตายมากมายหลงเหลือไว้เพียงซากปรักหักพังเท่านั้นหรืออาจเป็นเพียงว่าเค้าชอบในความสงบจึงมาอาศัยอยู่เพียงชั่วคราว

มิฮอว์ค ตาเหยี่ยว - Hawk Eyes
"ในบางครั้ง....เหมือนกับว่าตัวเราเองยืนอยู่เพียงลำพังในโลกกว้าง 
แต่ทุกครั้งที่เราหันหลัง...จะพบว่ามีเงาของเรายืนอยู่เคียงข้างเสมอ" 

               ในฐานะ 7เทพโจรสลัดในโลกวันพีช ผู้ยึดมั่นในคำสัตว์ที่ให้ไว้กับรัฐบาลโลกโดยจะทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดโดยจะไม่ทำนอกเหนือคำสั่งเด็ดขาด เปิดตัวในฐานะ7เทพโจรสลัดเป็นคนแรกโดยการแสดงเพลงดาบตัดเรือ กาเลออนยักษ์ของดอนครีกให้ขาดเป็นสองท่อนด้วย ดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก  โคคุโตะ โยรุ (The Black Blade Night) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 12 สุดยอดแห่งดาบ   ดาบอันดับหนึ่ง เป็นการแสดงพลังให้เห็นถึงความกว้างใหญ่และน่ากลัวของโลกแห่งโจรสลัดวันพีชนอกจากความสามารถในเพลงดาบและกระแสครื่นแห่งดาบที่ร้ายกาจ มิฮอว์คยังเป็นมีความสามารถที่น่าทึ่งในการเดินเรือด้วยโลงไม้ขนาดเล็กและเทียนเพียงเล่มเดียวผ่านทั้งทะเลน้อยใหญ่รวมทั้งแกรนไลน์ที่มีคลื่นมหาสมุทรที่น่ากลัวและจ้าวแห่งท้องทะเลคุมพื้นที่อยู่มาได้อย่างง่ายดาย 

มิฮอว์ค(Mihawk)วัยหนุ่ม 19 ปี  
                ในเหตการณ์ครั้งประวัติศาสตร์การประหารราชาโจรสลัด โกล โรเจอร์นั้นมิฮอว์คเองก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยด้วยวัยเพียง 19ปีเค้าเฝ้ามองวาระสุดท้ายของราชาโจรสลัดโกล โรเจอร์อย่างเงียบสงบและรับรู้ได้ในทันทีถึงกลิ่นอายของยุคสมัยแห่งความบ้าคลั่งที่กำลังจะมาถึงมีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด 
                   ปรากฏตัวครั้งแรกโลกวันพีช ในการตามมาปิดบัญชีโจรสลัดดอนครีกที่ย่างกายเข้า แกรนไลต์เพื่อหวังจะเป็นโจรสลัดที่โด่งดังแต่ต้องมาพบกับมิฮอว์คที่ได้รับคำสั่งจาก รัฐบาลโลกให้จัดการโจรสลัดหน้าใหม่ที่พบในแกรนไลต์ได้ทันที โดยมิฮอว์คติดตามดอนครีกออกมาจากแกรนไลต์จนถึงทะเลอิสบลูต์แต่กลับมาพบโซโลนักดาบฝึกหัดที่เข้ามาท้าดวลถึงแม้ว่ามิฮอว์คจะรู้ว่าโซโลนั้นอ่อนหัดแต่ก็ไม่ปฏิเสธที่จะปะมือด้วยโดยเห็นว่าการตายด้วยฝีมือนักดาบอันดับหนึ่งก็ถือเป็นเกียรอย่างหนึ่งของนักดาบแต่เมื่อได้ปะมือกับโซโลก็พบว่านักดาบคนนี้มีจิตใจที่เข้มแข็งยิ่นักและในอนาคตอาจเป็นคู่ต่อสู้ที่เค้าตามหามานานจึงฝากรอยแผลไว้ให้โซโลได้จดจำถึงความพ่ายแพ้และเร่งฝึกฝนตนให้แข็งแกร่งคู่ควรกับที่เค้าไว้ชีวิต


............................. 
 
【】 นอกเรื่องวันพีชความรู้รอบตัว 【】
        เปิดตำนานบาปร้ายแรงความหลงในอำนาจ ภายใต้บัญชาจากจอมมาร ลูซิเฟอร์ LUCIFER -เจ้าชายแห่งนรกผู้เย่อหยิ่ง

                บาป 7 ประการ  เป็นหลักคำสอนของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิคใน อดีตกาล ให้มนุษย์ไม่ทำตามสัญชาตญาณของตนมากจนเกินไป ทางศาสนาคริสต์ได้แบ่งบาปออกเป็น 2 ประเภทคือ แบบที่สามารถยกโทษให้ได้ และ แบบรุนแรง ในต้นศตวรรษที่ 14 หลักคำสอนนี้เป็นที่นิยมในหมู่ศิลปิน (หรือแม้กระทั่งในปัจจุบัน) ผลงานศิลปะมากมายที่สื่อถึงบาป 7 ประการแพร่ไปทั่ววัฒนธรรมต่างๆทั่วโลก
1/  อัตตา (ภาษาละติน: superbia ซูเปอร์เบีย ; ภาษาอังกฤษ: Vanity/pride)
             อัตตาเป็นยอดแห่งบาปทั้งปวง หมายถึงความต้องการเป็นผู้ที่มีความสำคัญและอำนาจเหนือผู้อื่น (เช่นต้องการเป็นพระราชา) การที่รักตนเองมากจนเกินไป หลงในอำนาจและรูปลักษณ์ของตัวเอง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปรียบตนเองเทียบเท่ากับพระเจ้า) ซึ่งบาปประการนี้ทำให้  "ลูซิเฟอร์" ปีศาจประจำบาปนี้  ถูกขับไล่ออกจากสวรรค์ เนื่องจากลูซิเฟอร์เห็นว่าตนมีอำนาจเท่ากับพระเจ้าและสามารถสร้างพรรคพวกของ ตัวเองเพื่อต่อต้านและไม่เคารพพระเจ้า คนที่มีความโอหังจะสนใจเฉพาะตนเองเท่านั้น ไม่สนใจว่าผู้อื่นจะเป็นเช่นไร สัญลักษณ์ของอัตตาคือ ม้า สิงโต หรือ นกยูง สีประจำบาปคือสีม่วง บทลงโทษของผู้ที่โอหังคือการถูกทรมานบนวงล้อ (มัดกับวงล้อแล้วให้วงล้อหมุนเรื่อยๆ ผู้ถูกทรมานจะถูกบดขยี้กับพื้น) 

            ผู้หลงในบาปข้อนี้จะถูกจองจำในนรกขุมที่ 9 (Ninth Circle : Treachery) นรกขุมสุดท้ายที่ลึกที่สุดนรกแห่งความความเย่อยิ่งทะนงตนของผู้มีความบกพร่องทางจิตใจ นรกขุมนี้เป็นขุมนรกแห่งการจองจำโดยบาปกรรมที่ทำไว้มีโทษให้ถูกแแช่ในน้ำแข็ง มีวงแหวนแห่งกรรมล้อมรอบอยู่ 4 ชั้นโดยแต่ละชั้นประกอบด้วย การทรยศญาติ ,การทรยศบ้านเมือง ,การทรยศต่อพวกพ้องผู้พักดีและสุดท้ายหนักสุดการทรยศต่อพระเจ้าหรือพระคัมภีร์มีโทษถูกแช่แข็งทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า
ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดโอหังคือ ความถ่อมตน การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

"ลูซิเฟอร์" เทพมารผู้เทียบตนดั่งพระเจ้า Lucifer
"ข้าคือจอมปีศาจประจำเดือน พฤษภาคม
ผู้บูชาข้าจะได้รับซึ่ง  บรรดาศักดิ์เหนือใครทั้งปวง"

               ลูซิเฟอร์ (Lucifer) จอมมารแห่งความหยิ่งผยอง มหาบาปข้อที่ 1 : ตามตำนานของชาวฮิบรู ลูซิเฟอร์ ได้ถูกยุยงโดยซาตานอีกทีนึง (เห็นได้ว่าตำนานฮิบรู ลูซิเฟอร์ และ ซาตานเป็นคนละคนกัน) ซึ่งในพระคัมภีร์ของฮิบรูนั้น ซาตานก็เป็นหนึ่งในอัคระเทวฑูตด้วย ชื้อว่า Satan-Sataniel (หรือSamael?) ว่ากันว่าซาตานต้องการที่จะเป็นที่สุดในจักรวาล เลยได้ยุยง (บางก็บอกสิงสู่) เทพบางองค์ ทำให้เป็นมารร้าย

              ตามตำนานของชาวคริสต์ ในคัมภีร์The Old Testamentได้แปลคำว่า Helel เป็น ลูซิเฟอร์ และได้โยงกับปีศาจร้ายที่มีร่างเป็นสัตว์เลื้อยคลาน ที่ลอบเข้ามาในสวนอีเดนและหลอกลวงอดัมและอีฟ 
             ในยุคกลาง นักบุญเจอโรม (St.Jerome)หลวงพ่อในศาสนะจักร คิดว่า ลูซิเฟอร์ ไม่ใช่ชื่อที่ดีสำหรับ "ปีศาจ" และได้เปลี่ยนมาเป็น "ซาตาน" จนในที่สุด ทั้งสองก็ได้รวมมาเป็นคนเดียวกัน ซึ้งจะเห็นได้ว่าในพระคัมภีร์บางทีก็ชื่อลูซิเฟอร์ บางทีก็ชื่อ ซาตาน
              ในตำนานกรีกบางที คำว่า ลูซิเฟอร์ เปรียบได้กับดาววีนัส (ซึ่งลูซิเฟอร์เป็นชื่อเดิมของดาววีนัส) 

            ในบางตำนานของชาวเพแก้น หรือ วิคคา บอกไว้ว่า เมื่อพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมา ก็ได้ให้ความดูแลสนใจในตัว มนุษย์มากกว่าผู้อื่นได ซึ่งมากกว่าตัวลูซิเฟอร์เองด้วย ทำให้เกิดความรู้สึกน้อยใจ และประชดพระเป็นเจ้าโดยการนำพรรคพวกมาก่อกบฏ ในบางความเชื่อของชาวเพเก้น เชื่อกันว่า ลูซิเฟอร์นั้นอยู่ที่ยุโรปและเอเชีย 

ร่างจริงของเทพมาร ลูซิเฟอร์
ตราเวทอัญเชิญจอมมาร Lucifer













        ทุกวันนี้ มีลัทธิเกิดขึ้นมาใหม่ ที่มีลูซิเฟอร์เป็นเทพของพวกเค้า และเรียกตัวเองว่า ลูซิเฟอเรี่ยน (Luciferains) ตามชื่อศาสดาของพวกเค้า Lucifer Calaritanus บิช๊อปของลูซิเฟอเรี่ยน ซึ่งเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ไม่ใช่ผู้ที่ถูกเลือกและเป็นเทพ แต่คือลูซิเฟอร์นั้นเอง (เข้าข่ายพวกลัทธิบูชาซาตาน หรือ บูชาปีศาจ) ในคัมภีร์ของพวกเค้า ได้บอกเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ "ก่อนจะร่วงหล่น" หรือ Before the fall ซึ่งเล่าเรื่องราวไว้ว่า 
        เมื่อพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ ลูซิเฟอร์นั้นเอ็นดูมนุษย์เป็นอย่างมากและหลงไหลกับความใสซื่อบริสุทธิ์ของ มนุษย์ แต่เป็นเพราะว่าการที่มนุษย์นั้น ใสซื่อของมนุษย์นั้นเอง ทำให้มนุษย์ไม่รู้สึกถึงตัวตนของพระเป็นเจ้า ในคัมภีร์เลยบอกไว้ว่า พระเจ้าได้เสกให้งูมาล้อลวงมนุษย์ ให้กินผลไม้แห่งปัญญา พอมนุษย์ได้กินเข้าไป ก็ได้รู้สึกถึงพระเป็นเจ้า และ ได้ขับออกจากสวนอีเดนไป พอลูซิเฟอร์รู้เรื่องเข้าก็ได้โกรธและก่อกบฏขึ้น นี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำมาเพื่อโน้มน้าวจิตใจของสาวกลัทธิลูซิเฟอเรี่ยน ซึ่งต่อมาได้เป็นลัทธินอกรีต และ มีกระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ บางกลุ่มก็ได้ใช้ยาเสพติด หรือ เสียงเพลงเพื่อนกล่อมประสาท


   ตำนานเทวดาตกสวรรค์ของลูซิเฟอร์ (Lucifer)
               ลูซิเฟอร์ (Lucifer) จอมมารแห่งนรก มีบทบาทเป็นอย่างมากในพระตำนานของศาสนาคริสต์ หลายท่านคงยังสงสัยว่า ซาตานคือใคร และมาจากไหน คำ ว่าลูซิเฟอร์ เป็นคำละตินมาจากคำว่า Lux แปลว่าแสงสว่าง และ Ferrer แปลว่า ผู้นำมา หรือผู้ถือ นำมารวมกันแปลว่า "ผู้นำมาซึ่งแสงสว่าง" หรือแปลในแบบที่เข้าใจง่ายๆ ว่า "รุ่งอรุณ" หรือ "ดาวแห่งแสงสว่าง" มิคาเอลหัวหน้าแห่งเทพขับไล่ลงมาสู่โลกมนุษย์แต่ ในฐานะที่เคยเป็น เทพชั้นสูงมาก่อนก็เลยถูกให้เป็นเทพแห่งความตายแทน ลักษณะของเทพ Lucifer คือ มี 12 ปีกเรืองแสงได้ เป็นเทพที่มีความสมบูรณ์แบบที่สุดในบรรดาเทพทั้งปวง (แต่รองจากพระเจ้า) ถ้าเราเปิดหาความหมายจากดิกชั่นนารี จะแปลว่าเทพแห่งความตาย ปีศาจ เป็นต้น ดูมาจากหนังสือการ์ตูนบ้าง คัมภีร์ไบเบิ้ล   
               อัครเทวทูตองค์นี้ ได้ถูกองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้สร้างขึ้นมาจากแสงสว่าง และให้ความเอ็นดูเป็นอย่างมาก อาจถือได้ว่า เป็นทูตสวรรค์ที่เป็นใหญ่รองมาจากพระเป็นเจ้า และเป็นอัครเทวทูตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในตอนนั้นเลยก็ว่าได้ ทว่า ด้วยความที่นึกว่าตนเองยิ่งใหญ่เหนือทูตสวรรค์ จึงได้กระทำการก่อกบฏหักหลังองค์พระเป็นเจ้า และในที่สุดก็ถูกขับไล่ออกจากสวรรค์ กลายมาเป็น"ปีศาจ"ตามตำนานของชาวฮิบรู โดยที่ลูซิเฟอร์ ได้ถูกยุยงโดยซาตานอีกทีหนึ่ง (ซึ่งทำให้ทราบว่า ตามตำนานฮิบรู ลูซิเฟอร์ และ ซาตานนั้น ไม่ใช่คนเดียวกันแต่อย่างใด) ในพระคัมภีร์ของชาวฮิบรูนั้นได้กล่าวไว้ว่า ซาตานเคยเป็นหนึ่งในอัครเทวทูต มีชื่อว่า Satan-Sataniel หรือ Samael ว่ากันว่าซาตาน ต้องการจะครอบครองทุกสิ่ง มีอำนาจดั่งพระเจ้า จึงได้ยุยง บ้างก็สิงสู่)เทพบางองค์ ทำให้กลายมาเป็นเป็นมารร้าย   
            ทำไมลูซิเฟอร์ถึงได้เป็นตัวแทนของบาปแห่งความหยิ่งพยองทุกๆท่านก็คงรู้แล้ว สินะคับ เป็นเพราะลูซิเฟอร์นึกว่าตนเองเก่งกว่าใครและมีพลังมากกว่าคนอื่น ทำให้หลงผิดและก่อกบฏขึ้น ทำให้ก่อสงครามสวรรค์ที่ยิ้งใหญ่ที่สุด โดยลูซิเฟอร์ได้ชักจูงเทพ 2 ใน 3 (บางก็ว่า 3/5) ของเทพบนสวรรค์ มาต่อสู้กับกองทัพสวรรค์ นับทับโดยอัครเทวฑูตมิคาเอล และได้พ้ายแพ้ไปในที่สุด ในตำนานบอกไว้ว่าลูซิเฟอร์นั้น มักจะปรากฏกายในรูปของมังกร หรือ สิงโต และมีลูกน้องที่พักดีเสมือนแขนทั้งสองข้าง    
              ชื่อว่า Satanackia และ Agalierap ตามตำนานของชาวคริสต์ จากคัมภีร์พันธะสัญญาเก่า ได้แปลคำว่า Helel เป็น ลูซิเฟอร์ และได้มีการโยงถึงปีศาจร้ายที่มีร่างเป็นสัตว์เลื้อยคลาน ที่ลอบเข้ามาในสวนอีเดนและหลอกลวงอาดัม และอีฟ ลูซิเฟอร์หรือซาตานเป็น ชื่อเดียวกัน แต่เดิมลูซิเฟอร์เป็นทูตสวรรค์ที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาให้มาดูแลสวนอีเดนที่มี อดัมและอีวา บุตรที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาเป็นคู่แรก บนสวนสวรรค์แห่งนี้ ลูซิเฟอร์มีจิตพิศวาสอีวา ล่อลวงจนอีวากระทำผิดข้อห้าม ตามแรงปรารถนาที่ลูซิเฟอร์เข้าครอบงำ ลูซิเฟอร์พยายามอวดอ้างและเป็นปฎิปักษ์ต่อพระเจ้าอยู่เนื่องๆ ต่อมาทูตสวรรค์นามเซนต์ไมเคิล ได้ต่อสู้กับลูซิเฟอร์จนมีชัย และเนรเทศให้ลงมาอยู่ในนรก พร้อมทั้งเหล่าสาวก คอยครอบงำและนำมาซึ่งความชั่วร้าย ผิดศีลธรรมจรรยา ต่อจิตใจมวลมนุษย์ที่อ่อนแอ ให้คอยต่อต้านพระเจ้าตลอดไป
            เดิมนั้นซาตานหา ใช่หัวหน้าปีศาจหรือเจ้าแห่งอสูรกาย อย่างในปัจจุบัน แต่คือเทพบุตร ลูซิเฟอร์ เทพบุตรรูปนี้มีรูปร่าง หน้าตางดงามที่สุดในบรรดาทูตสวรรค์ทั้งปวง อีกทั้งยังมี แสงสุกใสเรืองรองออกมาจากร่างจนได้ชื่อว่าเป็น โอรสแห่ง รุ่งอรุณ และเป็นที่โปรดปรานของพระผู้เป็นเจ้ายิ่งนัก แต่ดูเหมือนว่า ลูซิเฟอร์ จะเป็นเทพประเภทรูปหล่อ เอาแต่ใจ เพราะอยู่มาวันหนึ่ง เมื่อพระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างโลกและมนุษย์ขึ้น ลูซิเฟอร์เห็นว่ามนุษย์ที่ส้รางขึ้นมานั้น พระผู้เป็นเจ้าเลียบแบบ หน้าตาทูติสวรรค์ จึงเกิดความไม่พอใจ กล่าวว่า 

" เมื่อพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมาให้เหมือนกันพวกหม่อมฉันได้ หม่อมฉันนี่แหละจะเป็นผู้ทำลายมันให้ย่อยยับไปกับมือ "

     พระผู้เป็นเจ้าได้เห็นธาตุแท้ของเทพบุตรผู้เคยโปรดปราน จึงบันดาลโทสะ ว่าแล้วก็ขับไล่ลูซิเฟอร์ไปจากสวรรค์ไปอยู่ในนรก

"ข้าขอเป็นใหญ่ในนรก ดีกว่าเป็นทาสให้ดูถูกบนสวรรค์"
................................