(HYOZO THE ASSASSIN)
- มือสังหารร่ำสุรา -
(DRUNKEN MANSLAYER)
(DRUNKEN MANSLAYER)
ค่าหัววันพีช ประมาณ
141,000,000 เบรี
141,000,000 เบรี
อายุ 37 ปี
ส่วนสูง 279 Cm.
เรือ โนอา( Noa)
ตำแหน่ง มือสังหารกลุ่มโจรสลัดเงือกเลือดใหม่
( ASSASSIN OF NEW FISHMAN PIRATE )
( ASSASSIN OF NEW FISHMAN PIRATE )
ผลไม้ปีศาจ ---
อาวุธ ดาบ 7 เล่ม และเข็มพิษ
- ยาสเตียรอยต์ ES.(Energy Steroids)
- ยาสเตียรอยต์ ES.(Energy Steroids)
ลูกเรือ เพื่อน นายจ้างโฮดี้ โจนส์ (Jones Hordy)
เผ่าพันธุ์ เงือกชาย(mermen)
- สายพันธ์เงือก หมึกพิษสายวงฟ้า บลูริง((Blue-Ringed Octopuses)
เฮียวโซ(Hyouzo) เป็นมนุษย์เงือกหมึกสาย บลูริง มีลักษณะพิเศษที่ได้มาจาก สายพันธ์ คือการที่เค้าสามารถสร้างพิษเพื่อใช้โจมตีศัตรูด็โดยเค้าจะใช้ไม้จิ้มฟันที่อาบด้วยพิษพ่นออกจากปากขนาดใหญ่ของเค้าในการลอบสังหารศัตรูและมีหนวดสีส้มวงฟ้าที่ใช้แทนขา 6 ข้างและมีมือ 2 ข้างเพื่อใช้ในการจับขวดเหล้าและดาบหลักของเค้า สวมใส่เสื้อสูทสีดำเสื้อด้านในสีฟ้าและผูกเนคไทยาวสีดำ นิสัยของเค้าเป็นคนไม่ชอบเสียงดัง โลภมาก ไม่สนใจใครหรือภักดีกับใครเป็นพิเศษ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เค้ายอมรับนั้นคือการดื่มเหล้าเค้ามักดื่มมันอยู่ตลอดแม้ในขณะต่อสู้ - สายพันธ์เงือก หมึกพิษสายวงฟ้า บลูริง((Blue-Ringed Octopuses)
- ชื่อของเฮียวโซ มาจาก เฮียวม่อนไดโกะ (Hyomon Diko) แปลว่าปลาหมึกสายวงฟ้า
........................
【】 เปิดตำนานเผ่าพันธุ์หมึกปริศนา สุดยอดนักฆ่าเข็มพิษ ปลาหมึกสาย วงแหวนน้ำเงินใหญ่ (Blue Ringed Octopuses) 【】
เฮียวโซ มือสังหารขี้เมา(Drunken Manslayer) |
ปรากฏตัวครั้งแรกในโลกวันพีช เมื่อกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางต้องการที่จะผ่านเข้าเกาะเงือกไปให้ได้และไม่ต้องเป็นสมาชิกของ กลุ่มเงือกรุ่นใหม่ เฮียวโซเริ่มแสดงท่าทางคุกคามและเกือบจะต้องต่อสู้กันขึ้น แต่ก็ยังไม่ทันจะได้ลงมือเรือของพวกลูฟี่ก็เหาะห้ามหัวพวกเฮียวโซเข้าไปในเกาะเงือกอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนที่เรือของลูฟี่จะรับตาไปเฮียวโซซัดอาวุธลับไม้จิ้มฟันอาบยาพิษ พ่นเข้าใส่ลูฟี่โดยหวังว่าถ้าหัวหน้ากลุ่มตายลูกน้องที่เหลือก็จะไร้พิษสงตามไปด้วย แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นดังที่คิด..!!..เมื่อเฮียวโซได้รับคำสั่งให้เป็นหนึ่งในหัวหน้ากลุ่มกบฏบุกเข้ายึด ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้-หน้าหอประชุมสมาคมประมงของเกาะเงือก ในขณะที่เค้ากำลังทรมานประชาชนที่ไม่ยอมจำนนอยู่ กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางก็ปรากฏตัวขึ้นและเข้าขัดขวาง จนเกิดการต่อสู้กันขึ้นระหว่างนักดาบของกลุ่มหมวกฟาง โซโลและนักดาบอันดับหนึ่งของเกาะเงือก เฮียวม่อน
..............................
【】นอกเรื่องวันพีชความรู้รอบตัว【】
เปิดตำนานหมึกวงแหวนน้ำเงินใหญ่ (blue-ringed octopuses) เพชฌฆาตนักฆ่าแห่งท้องทะเล
หมึกบลูริง (blue-ringed octopuses) ตามหลักวิชาการแล้วไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มปลา แต่จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับหอย หมึกบลูริงจะต่างกับหมึกทั่วไปตรงที่มีลวดลายเป็นวงแหวนสีน้ำเงิน กระจายตามลำตัวและหนวด ซึ่งตัดกับสีตัวที่ออกเป็นสีเหลืองน้ำตาลอย่างชัดเจน ตัวเต็มวัยมีขนาดตัวประมาณ 4 – 5 เซนติเมตร มีหนวด 8 เส้นหนวดยาวประมาณ 15 เซนติเมตร มักจะม้วนปลายอยู่เสมอนอกจากหมึกพันธุ์นี้แล้ว ยังมีอีกสามสายพันธุ์ คือ หมึกวงแหวนน้ำเงินเล็ก (Lesser blue-ringed octopus ; H. maculosa ) หมึกวงแหวนน้ำเงิน (Blue-ringed octopus ; H. fasciata ) ทั้งสองชนิดนี้พบทางตอนใต้และตะวันออกของออสเตรเลีย ส่วนชนิดสุดท้ายคือ H. nierstraszi พบเฉพาะแถบอ่าวเบงกอลเท่านั้น
หมึกบลูริง (blue-ringed octopuses) ตามหลักวิชาการแล้วไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มปลา แต่จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับหอย หมึกบลูริงจะต่างกับหมึกทั่วไปตรงที่มีลวดลายเป็นวงแหวนสีน้ำเงิน กระจายตามลำตัวและหนวด ซึ่งตัดกับสีตัวที่ออกเป็นสีเหลืองน้ำตาลอย่างชัดเจน ตัวเต็มวัยมีขนาดตัวประมาณ 4 – 5 เซนติเมตร มีหนวด 8 เส้นหนวดยาวประมาณ 15 เซนติเมตร มักจะม้วนปลายอยู่เสมอนอกจากหมึกพันธุ์นี้แล้ว ยังมีอีกสามสายพันธุ์ คือ หมึกวงแหวนน้ำเงินเล็ก (Lesser blue-ringed octopus ; H. maculosa ) หมึกวงแหวนน้ำเงิน (Blue-ringed octopus ; H. fasciata ) ทั้งสองชนิดนี้พบทางตอนใต้และตะวันออกของออสเตรเลีย ส่วนชนิดสุดท้ายคือ H. nierstraszi พบเฉพาะแถบอ่าวเบงกอลเท่านั้น
หมึกวงแหวนน้ำเงินใหญ่ (blue-ringed octopuses) |
ด้วยความที่หมึกชนิดนี้มีสีสวยงาม และขนาดไม่ใหญ่โตนักจึงเป็นที่นิยมเลี้ยงในสหรัฐและยุโรปรวมทั้งประเทศไทย พันธุ์ที่นิยมเลี้ยงมากที่สุดคือ หมึกวงแหวนน้ำเงินใหญ่ (Greater blue-ringed octopus ; Hapalochlaena lunulata ) เพราะมีวงแหวนขนาดใหญ่ (เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 8 มิลลิเมตร) เลี้ยงง่าย ราคาไม่แพง ตัวละประมาณ 30 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณพันกว่าบาทไทย ประเทศที่ส่งออกมากที่สุดคือ อินโดนีเซีย เพราะหมึกชนิดนี้มีถิ่นอาศัยแถบตอนเหนือของออสเตรเลีย เรื่อยมาถึง ปาปัว นิวกินี หมู่เกาะโซโลมอน อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
หมึกบลูริง จะล่าสัตว์น้ำขนาดเล็กเป็นอาหาร โดยใช้หนวดดึงเหยื่อเข้ามาแล้วกัด จากนั้นจะปล่อยพิษที่เก็บอยู่ในต่อมน้ำลายออกมาสังหารเหยื่อ พิษของหมึกบลูริงเดิมเรียกว่า มาคูโลทอกซิน/ Maculotoxin ตามชื่อสายพันธุ์ที่นำพิษมาศึกษา ต่อมาพบว่าเป็นพิษชนิดเดียวกับเทโทรโดทอกซินที่พบในปักเป้านั่นเอง ซึ่งเกิดจากการกลั่นของต่อมน้ำลายที่ปากของมันและแบคทีเรียในกลุ่ม Bacillus และกลุ่ม Paeudomonas ทั้งยังสามารถถ่ายทอดแบคทีเรียที่สร้างพิษให้กับลูกของมันผ่านทางไข่ได้อีกด้วย พิษชนิดนี้เป็นพิษประเภททำลายระบบประสาท การหายใจ มีอาการคล้ายเป็นอัมพาตหายใจไม่สะดวก อาจ ขาดออกซิเจนอย่างเฉียบพลันทำให้เหยื่อตายหรือเป็นอัมพาตเคลื่อนไหวไม่ได้ หากเป็นมนุษย์เมื่อถูกกัดจะเป็นอันตรายมากเหมือนกับการฉีดพิษนี้เข้าเส้น เลือดโดยตรง พิษจะออกฤทธิ์อย่างรวดเร็วซึ่งเร็วกว่าเร็วกว่าการกินเนื้อปลาปักเป้า ทำให้เสียชีวิตได้ ภายในระยะเวลา 2 ชั่วโมง
กลุ่มมนุษย์ที่ได้รับอันตรายจากหมึกเหล่านี้มักเป็นพวกนักดำน้ำ ที่ไปเจอหมึกที่มีสีสันสวยงามแล้วไปจับต้องทำให้หมึกตกใจกัดเอา โชคดีที่น่านน้ำทะเลไทยที่นักดำน้ำชื่นชอบไม่ใช่ถิ่นอาศัยของหมึกพิษพวกนี้ อีกกรณีคือพวกที่นำหมึกชนิดนี้มาเลี้ยงในตู้ เพราะทั้งการให้อาหารหรือเมื่อล้างตู้ ล้วนเสี่ยงต่อการถูกกัดได้ สำหรับอุบัติการณ์การได้รับพิษจากหมึกบลูริงเท่าที่ศึกษามายังไม่พบมีการ บันทึกเป็นหลักฐานแต่อย่างใด อนึ่งการที่สังคมไทยมีค่านิยมชอบนำสัตว์แปลกๆมาเลี้ยง โดยเฉพาะสัตว์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศบางชนิดนอกจากจะเป็นอันตรายแล้ว บางชนิดยังอาจก่อให้เกิดปัญหา "การรุกรานของชนิดพันธุ์ต่างถิ่น" หรือ เอเลี่ยนสปีชีส์ (Alien Species) ได้
................................