Onepiece_ Kuja Pirate_โบอา แฮนค็อก_Boa Hancock ★ ボア･ハンコック

WANTED Amezon Boa Hancock

ฉายา องค์หญิงอสรพิษ(Snake Princess)

- จักรพรรดินีโจรสลัด

(Pirate Empress)

ค่าหัววันพีช  80,000,000
อายุ 29 ปี/วันที่ 2 กันยายน
- เกิดในคามเบล
ปราการ ราชอาณาจักรอเมซอน 

ส่วนสูง 191 cm.(6ฟุต.3นิ้ว.)
สัดส่วน  อก43.7 เอว24.02 สะโพก35.83 นิ้ว
เรือ  เรือยูดา (Ship-YUDA)  
ตำแหน่ง  ราชินีชนเผ่าคุจาแห่งเกาะ อเมซอนลิลลี่ (Empress Amezon Lily)
ผลปีศาจ  เมโร เมโร่(Mero Mero) สายพารามิเซีย

ผลหลงใหล : ผู้ที่พบเห็นหลงใหลจะกลายเป็นหินเมื่อจิตใจเกิดหวั่นไหว
อาวุธ งูพิษซาลอม (Salome)มีพิษร้ายแม้แต่กับจ้าวแห่งท้องทะเล

- ฮาคิแห่งราชันย์ ฮาโอโชคุ ฮาคิ(Haoshoku Haki)

สมาชิก  ธันเดอร์โซเนียร์ (Boa Sandersonia) ,โบอา มารี โกลร์(Boa Marigold),มาการ์เรต(Marguerite) , กรอริลิโอซ่า(Gloriosa)  ,สวีทเฟีย(Sweet Pea) อาฟรีลัด้า(Aphelandra) ,เบลาดอนน่า(Belladonna)

เผ่าพันธุ์ มนุษย์ชนเผ่า คุจา

"ไม่มีสิ่งใดให้ต้องระอาย.!!.. แม้ฉันจะฆ่าผู้บริสุทธิ์ 

โลกก็จะให้อภัยฉัน..นั่นเป็นเพราะฉันงดงามที่สุด.!."

กล่าวโดย โบอา แฮนค็อก

               จักรพรรดินีโจรสลัดโบอา แฮนค็อก(Pirate Empress Boa Hancock) แฮนค็อค โจรสลัดสุดสวย เป็นจักรพรรดินีของ เกาะอเมซอนลิลี่ ที่ลูฟี่ถูก บาโซโลมิว คุมะ วาร์บมาส่ง เป็นเมืองที่มีแต่นักรบผู้หญิง มีความสามารถในการทำให้คนอื่นกลายเป็นหินด้วยพลังของผลปีศาจ สัญลักษณ์ที่หลังของแฮนค็อกนั้นเดิมคนในอเมซอนลิลลี่เชื่อว่าเกิดจากคำสาป ของสัตว์ประหลาดกอร์กอน แต่แท้จริงเป็นสัญลักษณ์ของเทนริวบิโตะ ซึ่งหมายความว่าเคยเป็นทาสขุนนางโลก(ชาวมังกรฟ้า)มาก่อน แต่ลูฟี่ไม่รังเกียจ จึงได้ตกหลุมรักลูฟี่ ลูฟี่ได้ขอให้ช่วยพาไปที่อิมเพลดาวน์ แฮนค็อคจึงอาสาเข้าร่วมกับรัฐบาลเพื่อพาลูฟี่ไปส่งที่อิมเพลดาวน์ จากนั้นจึงเดินทางตามพลโทโมมอนก้าไปที่มารีนฟอร์ด
     - ลักษณะคาแร็กเตอร์ของ โบอา แฮนค็อก ล้วนมีต้นแบบเหมือนกับตำนานเก่าแก่หลายเรื่องเช่น ราชินีแห่งท้องทะเล คาริบโซ่ ราชินีงูเมดูซ่า นักรบสาวอเมซอนเนสและความสามารถในการล่อหลอกคล้ายนางไซเรน
       -  ชื่อของผู้หญิงในเผ่าคุจาล้วนมาจากชื่อของดอกไม้และชื่อของ โบอา แฮนค็อก ซึ่งโบอา เป็นชื่อของดอกบัวและ แฮนค็อก มาจากชื่อของดอก สโนเบอรี่ที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า(Chenaultii Hancock)
       -   วันเกิดของแฮนค็อกวันที่ 2กันยายน ถูกกำหนดให้เข้ากับของลูฟี่ที่เป็น ราศี พฤษภ
................................

 【】 เปิดตำนานเรื่องเล่าปรัมปรา ราชินีคนเถื่อน นักรบสาวอันดับหนึ่ง  เพนธีซีเลีย/ Penthesilea Queen Of Amazonian 【】
 

 

              ราชินีที่สวยงามที่สุดในโลกโบอา แฮนค็อกเป็นผู้มีพลังจาก ผลไม้ปีศาจ เมโร เมโร่ : MeroMeroหรือLoveLove ผลตกหลุมรัก เป็นมนุษย์ที่น่าหลงใหลที่สุดในโลก เป็นผลไม้ในตำนานอีกชนิดที่ถูกเก็บรักษาโดยพวกเท็นริวแต่ด้วยความนึกสนุกจึงให้ เธอกินเข้าไปโดยไม่รู้ว่าผลไม้ชนิดนี้จะให้ความสามารถชนิดใดออกมาซึ่งความตื่นเต้นที่ได้เห็นมนุษย์กลายเป็นตัวประหลาดเป็นความบันเทิงอย่างที่สุด ซึ่งนั่นจึงเป็นสาเหตุอีกอย่างที่ความลับเรื่องในอดีตของเธอยังคงเป็นความลับเรื่อยมา  ความสามารถของเธอเป็นการส่งผลต่อจิตใจที่ตื่นเต้นหรือคิดสกปรกเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอโดยจะส่งผลไปกระตุ้นให้ผลไม้ปีศาจทำงานโดยจะทำให้ผู้นั้นแข็งเป็นหินโดยการแข็งยังจะส่งผลไปถึงสิ่งรอบข้างที่อยู่ใกล้เคียงกันถ้าตื่นเต้นมากวงของการกลายเป็นหินก็จะขยายตัวมาก และหากกลายเป็นหินแล้วหากเธอไม่คลายมันออกก็จะยังคงกลายเป็นหินไปตลอดและด้วยความสามารถที่สมบูรณ์แบบนี้เธอพัฒนามันจนสามารถใช้การส่งจูบรูปหัวใจโจมตีศัตรูในคราวละมากๆได้ตามใจต้องการ
           จุดอ่อน : การกลายเป็นหินจะถูกยับยั้งโดยความเจ็บปวด อาการกลัว หรือผู้ไม่มีความสนใจในเรื่องเพศเช่นเด็กหรือหุ่นยนต์ 
       -  ผลไม้ปีศาจชนิดนี้หากตกอยู่ในมือผู้หญิงหรือผู้ใดที่มีความงามยิ่งจะส่งผลร้ายแรง  แต่หากอยู่ในมือผู้ที่อัปลักษณ์ความสามารถนี้จะกลายเป็นศูนย์และเป็นผลปีศาจที่ไร้ค่าสิ้นดี

"เรื่องเลวร้ายในอดีตทั้งหมด..!!..

เกิดขึ้นเป็นความผิดของพวกเท็นริวทั้งนั้นฉันไม่มีความผิดใดๆทั้งสิ้น

เพราะฉันยังเด็ก..และไร้เดียงสายิ่งนัก..!!...."

                 พี่น้อง โบอานั้นมีอดีตที่เลวร้ายและมีความแค้นฝังลึกชนเผ่า มังกรฟ้า(Celestial Dragons)เท็นริวบิโตะ หมายถึง ชาวมังกรสวรรค์  เป็นกลุ่มขุนนางชั้นสูงของโลก ที่ทรงอำนาจแม้แต่รัฐบาลโลกและทหารเรือยังไม่กล้าแตะ ปกครองโดย เท็นริว รอสวาร์ด เซย์(Saint Roswald)เท็นริว ชาลรอส(San Charloss)เท็นริว ซาลูเรีย กูย์(Santa Shalulia) ว่ากันว่าพวกนี้เป็นลูกหลานที่สืบสายเลือดมาจากกลุ่ม 20 กษัตริย์ที่เข้าร่วมการก่อตั้งรัฐบาลโลกเมื่อ 800 ปีที่แล้ว กลุ่มเหล่านี้มีฐานะอันสูงส่งซึ่งได้รับการคุ้มครองโดยรัฐบาลโลก ทำให้ผู้คนเกรงกลัวมักขมเหงรังแกชนเผ่าอื่นบ้างก็จับมาเป็นทาสใช้เป็นสัตว์ เลี้ยง โดยเฉพาะเผ่าพันธุ์ที่มีลักษณะพิเศษ   

แฮนค็อก 12 ปี /HancocK

                ในอดีตสมัยเด็กแฮนค็อกอายุ 12 ขวบเธอและ น้องอีกสองคน ในขณะที่เธอออกมาแล่นเรือเล่นนอกเกาะแม้จะถูกห้ามปรามแล้วก็ยังดื้อลั้นที่ จะออกไป จนถูกลักพาตัวและนำไปขายให้กับ พวกมังกรฟ้าเท็นเรียวบิโตะ และถูกบังคับให้กิน ผลไม้ปีศาจ เพียงเพื่อความสนุกสนานที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงซึ่งนั่นเพียงเพราะมันจะ สร้างความบันเทิงให้ พวกเท็นริวได้. นอกจากจะถูกเลี้ยงเหมือนสัตว์เลี้ยงเธอและน้องทั้งสองยังถูกทรมาณสารพัดถูกประทับตรารอยเท้ามังกรฟ้า ที่ด้านหลังของพวกเธอด้วยตราเหล็กร้อนและถูกล่ามโซ่ด้วยหินไคโร เซคิทำให้อย่าว่าแต่หนีเลยแค่ขยับตัวยังเป็นเรื่องยาก.
           วันเวลาผ่านไปกว่า 4 ปี เกิดเหตุเพลิงใหม่ครั้งใหญ่บนแมรี่โจทำให้พวกเธอถูกช่วยออกมาโดยบังเอิญพร้อมกับทาสคนอื่น ด้วยฝีมือ ชาวเงือกที่ชื่อ ฟิชเชอร์ไทเกอร์ ซึ่งในตอนนั้นเค้าเองก็เป็นหนึ่งในทาสที่ถูกจับขังไว้แต่ก็แหกคุกออกมาพร้อมกับช่วยพวกทาสทั้งหมดให้ออกมาพร้อมกับเค้าด้วย
            เมื่อพี่น้อง โบอาวิ่งหนีมาจนสุดขอบของเกาะ ก็ไม่สามารถไปต่อได้เพราะไม่สามารถว่ายน้ำหนีออกจากเกาะได้เพราะมีพลังจากผลปีศาจโชคยังดีที่ในขณะนั้น ซิลเวอร์ เรย์ลี่มาพบเข้าจึงพาหลบหนีออกจากเกาะมาได้ระหว่างทางกลับมาที่เกาะได้พบ ท่านยายเนียวอดีตผู้ปกครองเกาะอเมซอนลิลี่. และได้รับช่วงต่อพามาส่งที่เกาะได้อย่างปลอดภัย. แม้ว่าจะหนีรอดมาได้แต่ตราประทับบนแผ่นหลังของพวกเธอก็คือความอับอายที่ไม่ มีวันจ่างหาย พวกเธอจึงต้องสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อปกปิดคนในประเทศว่า พวกเธอทั้งสามได้ไปปราบ ปีศาจกอร์กอน(เมดูซ่า) จนชนะแต่ถูกสาบดวงตาปีศาจเอาไว้ ทำให้ถ้ามีคนมาเห็นพวกเธอตอนเปลือยผ้าจะทำให้กลายเป็นหินได้และจากความแค้น ที่พวกเทนริวได้ทำเอาไว้นำมาซึ่งการต่อต้านพวกทหารเรืออย่างโจ่งแจ้งจึงเป็น ที่มาของค่าหัวของเธอแต่จากความแข็งแกร่งของเธอทำให้ฝ่ายทหารตายเป็นจำนวน มากโดยที่เธอไม่เป็นอะไรเลยแต่คนของเธอเองกลับล้มตายไปจำนวนมากและเพื่อเป็น การรักษาชีวิตคนของเธอในฐานะราชินีจึงนำมาซึ่งสัญญาการเข้าเป็น 7 เทพโจรสลัดในเวลาต่อมา

...............................

 【】 นอกเรื่องความรู้รอบตัว 【】
        เปิดตำนาน ราชินีคนเถื่อน นักรบสาวอันดับหนึ่ง  เพนธีซีเลีย/ Penthesilea Queen Of Amazonian

        เพนธีซีเลีย(Penthesilea) สร้างวีรกรรมครั้งสำคัญในสงคราม มหายุทธแห่งกรุงทรอย (TROY) ระหว่าง ที่ศึกทรอยกำลังดำเนิน ไปอย่างเผ็ดร้อนนั้น การเผชิญหน้า ครั้งสำคัญยิ่งก็ได้บังเกิดขึ้น เมื่อ อคิลลิส ยอดขุนพล แห่งทัพกรีก ได้ห้ำหั่นตัวต่อ ตัวกับ เฮคเตอร์ ขุนศึกผู้นำทัพทรอย ผลปรากฏว่า เฮคเตอร์พ่ายแพ้ และ ถูกอคิลลิสย่ำยีศพ โดยเอาผูกท้ายรถศึกแล้วลากตระเวน ไปทั่ว เป็นเหตุให้ท้าวเปรียมกษัตริย์ ทรอยซึ่ง เป็นพระบิดาของเฮคเตอร์ เสียพระทัยเป็นอันมาก จึงทรงไปขอร้อง เพนธีซีเลีย ราชินีแห่งเผ่าอเมซอนให้ช่วยเหลือ

เพนธีซีเลีย/Penthesilea

            เพนธีซีเลียนั้นยินดีที่จะเป็นพันธมิตรกับกรุงทรอยอยู่แล้ว เพราะเธอไม่ชอบหน้าอคิลลิสผู้โอหัง เธอจึงนำทัพนักรบหญิงอเมซอน 12 คนออกโจมตีทัพกรีก รุกไล่จนทหารกรีกถอยร่นไปติดฝั่งทะเล ที่เรือศึกจอดพักอยู่ อคิลลิสจึงต้องออกมาเผชิญหน้ากับราชินีแห่งอเมซอน แต่ก็อย่างว่าล่ะครับ มือคนละชั้น ห่างไกลกันเหลือเกิน เพนธีซีเลียจึงถูก อคิลลิสพุ่งหอกเสียบทรวงอกเสียชีวิต กลางสนามรบ เมื่ออคิลลิสดึงหมวกศึกเฮลเม็ตของเธอออก เขาก็ต้องตกตะลึงกับความงาม ของเธอ จนนำเอาร่างไร้ชีวิตของเพนธีซีเลียกลับมาค่ายเพื่อชื่นชม เมื่อขุนศึกอื่นของกรีกเห็น ดังนั้นก็เย้ยหยัน เลยเกิดการเขม่นเข่นฆ่ากันขึ้น และเป็นสาเหตุหนึ่งแห่งความร้าวฉาน ในระหว่างกองทัพกรีก   แม้ว่าจะสิ้นชีพแล้ว แต่พิษภัยของสาวอเมซอนก็ยังคงมีอยู่ แต่ว่ากันว่า เผ่าพันธุ์ของพวกสาวอเมซอน นี้ได้ สูญสลายไปเนื่องจากฝีมือทหาร กรีกใน สงครามกรุงทรอย นั่นเอง

  ✪✪ ตำนานเผ่าอเมซอน ✪✪

          เมื่อหลายพันปีก่อนโน้น มีตำนานมากมายที่กล่าวถึง เผ่านักรบหญิง "อเมซอน (AMAZON)" ซึ่ง มีรกรากถิ่นฐานอยู่ในหุบเขาเธอร์โมดอน ในเอเชียไมเนอร์ เมืองหลวงของ พวกเธอมีชื่อว่า ธีมิสไซรา ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลดำของตุรกี  ในอาณาจักรอเมซอนนี้ไม่มีบุรุษเพศ  การจะ สืบทอดเผ่าพันธุ์ จะทำกันปีละครั้ง โดยพวกเธอจะยกขบวนไปเยี่ยมเยียนบุรุษเพศ เผ่าการ์กาเรียนในบริเวณคอเคซัส (ระหว่างทะเลสาบแคสเปียนกับทะเลดำ)
          หลังจากที่ร่วมเสพสมกันเรียบร้อยแล้ว เธอก็จะกลับมาอุ้มท้องที่บ้านเกิด เมื่อ ทารกถือกำเนิดขึ้น ถ้าหากเป็นเพศชาย พวกเธอก็จะส่งกลับไปให้พ่อ (ของมัน) เลี้ยง หรือไม่ก็ฆ่าทิ้งไปเลย หากว่าเป็นสตรีเพศ ก็จะเลี้ยงดูอุ้มชูต่อไป แต่บางตำนานกล่าวว่า อันที่จริงในอาณาจักรอเมซอน นี้ก็มี ผู้ชายอยู่เหมือนกัน โดยมีฐานะเป็นเพียงทาส มีหน้าที่เป็น "พ่อพันธุ์" และทำงานบ้านอื่นๆ เฉกเช่นเดียวกับผู้หญิงทั่วไปใน ดินแดนต่างๆ 

เทพีอาร์เทมิส /ARTEMIS

        เมื่อเติบโตขึ้นเด็กหญิงอเมซอนก็จะได้รับการฝึกปรือให้เชี่ยวชาญในการใช้อาวุธไม่ ว่าจะเป็นการต่อสู้บนพื้นดิน หรือว่าบนหลังม้า อาวุธของ พวกเธอได้แก่หอกและโล่ ธนู ขวานศึกทั้งนี้เพื่อการปกปักรักษาเผ่ารวมทั้งเพื่อรุกรานเพื่อนบ้านใกล้ เคียงด้วย ที่สำคัญก็คือพวกเธอจะตัดเต้านม ข้างขวาทิ้ง เพื่อให้มีความคล่องตัว ในการขว้างหอกและยิงธนู!..ชีวิตส่วนใหญ่ของสาวอเมซอนจะใช้ไปในการล่าสัตว์ และฝึกฝนอาวุธโดยมีราชินีเป็นหัวหน้าปกครองเทพเจ้าที่พวกเธอนับถือบูชาคือ แอเรส(ARES เทพแห่งสงครามกับอาร์เทมิส (ARTEMIS) เทพีแห่งการล่าสัตว์

          ตำนานดังกล่าวมีหลักฐานอ้างอิง จากบันทึกไบบลิโอธีคา ของ ไดโอโดรุส ไซคุลุส ตอนหนึ่งระบุว่า  "...ครั้งหนึ่งในอดีตทางแถบตะวันตก ของประเทศลิเบีย มีชนเผ่าอเมซอน ซึ่งปกครองโดยผู้หญิง พวกเขาดำรง ชีวิตแตกต่างจาก พวกเราโดยสิ้นเชิง ผู้หญิงมีหน้าที่ต่อสู้ในศึกสงคราม ส่วนผู้ชาย เลี้ยงลูกและทำอาหาร..." หรือ จากบันทึกของ เซอร์ วอลเตอร์ ราเลห์ นักบุกเบิก โด่งดังในยุคควีน อลิซาเบธที่ 1 สมัยศตวรรษที่ 16 เขาได้ เขียนถึงตำนานสตรีอเมซอน ไว้ในระหว่าง การสำรวจดินแดน อเมริกาใต้

        ตามที่ได้ฟัง จากคนพื้นเมืองว่า "...ในแต่ละปี พวกเธอจะจัดชุมนุมขึ้นในบริเวณอันไม่ไกลจากกีอานา บรรดาหัวหน้าเผ่าต่างๆ จากดินแดนแถบนั้นจะมาร่วมสังสรรค์และเสพสมกับเหล่าสตรี หัวหน้าเผ่าหรือราชินีของ อเมซอน การเลี้ยงครั้งนี้จะดำเนินอยู่ราวหนึ่งเดือน ซึ่งพรั่งพร้อมไปด้วยสุราอาหารและ การเต้นระบำรื่นเริง หลังจากนั้นพวกเธอก็จะกลับมาอุ้มครรภ์ที่บ้าน
         การสืบทอดเผ่าพันธุ์อีกแบบหนึ่ง ก็คือพวกเธอจะจับเชลยจากการศึก แล้วนำมาสมสู่ด้วย เมื่อตั้งครรภ์สมความตั้งใจแล้ว ก็จะสังหารเชลยนั้นเสีย เป็นที่รู้กันดีว่า พวกเธอนั้นโหดเหี้ยม กระหายเลือด เป็นที่หวาดหวั่นของเผ่าอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงยิ่งนัก..."

.........................