ค่าหัววันพีช 195,000,000 เบรี่
- 55,000,000
- 55,000,000
อายุ 27 ปี
- เกิด 7 สิงหาคม
- เกิด 7 สิงหาคม
ส่วนสูง 260 cm
ตำแหน่ง สมาชิกลุ่มใต้ดิน ดองกี้โฮเต้แฟมิรี่ (Donquixote Family Pirates)
- ผู้เข้าร่วมคาริด้าโคลอสเซี่ยมสาย B -
- ผู้เข้าร่วมคาริด้าโคลอสเซี่ยมสาย B -
ผลปีศาจ บาเนะ บาเนะ(Bane Bane)พารามิเซีย/เหนือมนุษย์
ผลสปริง : มีร่างกายเป็นสปริงเครื่อนที่ด้วยความเร็วตามแรงกดของสปริง
ผลสปริง : มีร่างกายเป็นสปริงเครื่อนที่ด้วยความเร็วตามแรงกดของสปริง
สมาชิกกลุ่ม บอสโจ๊กเกอร์(๋JOKER) ,พิก้า(PICA),ไดอาเมนเต้(Diamante) ,เทรโบ(Trebol) ,เบบี้ไฟฟ์(BabY 5.),ลาว.จี
(LOA.G) ,เดลลิงเกอร์(DELLINGER) ,ซินยอร์ ฟิ็งค์(SENOR PINK)
,มัคไวล์(MACHVISE) ,กาดิอุส(GLADIUS) ,บัฟฟาโร่(BUFFALO) ,ชูก้า(SHUGA) ,โจลา (JOLA)
เผ่าพันธุ์ มนุษย์...
"โจรสลัดก็คือโจรสลัด จะฆ่าหรือชิงของจากคนอื่น...
ก็เป็นเรื่องปกติเพราะมันเป็นวิถีของโจรสลัด....."
กล่าวโดย ไอ้หมาบ้าเบรามี
เบรามี่(Bellamy the Hyena)หลังจากผ่านช่วงเวลาพักรบ 2 ปี เบรามี่ปรากฏตัวอีกครั้งในดินแดนโลกใหม่คราวนี้รูปลักษณ์ดูแปลกตาขึ้นเล็กน้อย จากทั้งความสูงและขนาดของกล้ามเนื้อที่ดูแข็งแกร่งมากขึ้นรวมทั้งร่องรอยบาดแผลตามร่างกายที่มีให้เห็นทำให้รู้ได้ในทันทีว่ากว่าที่เค้าจะเดินทางมาถึงโลกใหม่ต้องผ่านการต่อสู้มาอย่างมากมายและแน่นอนในตอนนี้เค้าโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากรับรู้แล้วว่าโลกวันพีชแห่งนี้มีคนเก่งกว่าเค้าซ่อนตัวอยู่มากมายการจะมีชีวิตรอดอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆการจะอยู่รอดต่อไปแม้ต้องแลกมาซึ่งชีวิตผู้อื่นมันก็สมควรที่จะทำดั่งเช่นที่เค้าฆ่าพวกพ้องตัวเองเพื่อให้ได้รับการยอมรับอีกครั้งจากนายใหญ่ของเค้า
...............................
【】 เปิดตำนานเจ้าชายโจรสลัด ซามูเอล เบลลามี่ Samuel Bellamy แบล็กแซม ผู้สร้างตำนานโจรสลัดผู้สุดแสนจะโรแมนติก (Black Bellamy) 【】
...............................
【】 เปิดตำนานเจ้าชายโจรสลัด ซามูเอล เบลลามี่ Samuel Bellamy แบล็กแซม ผู้สร้างตำนานโจรสลัดผู้สุดแสนจะโรแมนติก (Black Bellamy) 【】
ไฮยีน่า เบรามีแห่งกลุ่มโจรสลัดเบรามี เป็นผู้มีพลังจาก ผลปีศาจ บาเนะ บาเนะ Bane Bane :Boing Boing ผลสปริง เค้าเป็นมนุษย์สปริง มีจุดเด่นที่ความรุนแรงในการปะทะศัตรู ทำให้เค้าสามารถเปลี่ยนร่างกายทั้งแขนและขาให้กลายเป็นสปริงได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะส่วนขาที่สามารถเปลี่ยนให้เป็นสปริงได้ทั้งสองข้างและใช้มันในการ กระโดดขึ้นที่สูงหรือใช้ในการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงเพื่อใช้โจมตีศัตรู โดยเค้าแสดงออกให้เห็นในชื่อ ท่าไม้ตาย สปริงฮุค(Spring Hopper)เป็นการใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์มากที่สุดในการสปริงตัวกระทบกับผนังอย่างต่อเนื่องจนความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง เค้าภูมิใจในความเร็วของเค้ามากและมีความทะนงในพลังจากผลปีศาจที่เค้ามีี อย่างมาก จนคิดว่าไม่มีใครสามารถมองเห็นการโจมตีของเค้าได้ทำให้คิดว่าตนเองนั้นแข็งแกร่งกว่าทุกคน
จุดอ่อน : ที่สำคัญของสปริงคือการออกตัวก่อนการการกระโดด
- แม้ว่าพลังนี้จะเร็วและรุนแรง แต่การกระโดดทุกครั้งจะเป็นเส้นตรงซ้ำๆ ยิ่งเร็ว แรงก็ยิ่งตรง ทำให้ศัตรูจับทางได้ง่ายและคอยจังหวะเมื่อกระทบพื้น
ไอ้หมาบ้า เบรามี - Bellamy the Hyena |
ไฮเอน่าเบรามี /BELLAMY |
จึงมอบคำสั่งใหม่ให้ทำ นั่นคือการให้เบรามี่เข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่คอร์ริด้า โคลอสเซี่ยมในการช่วงชิงผลปีศาจ เมระ เมระ มาให้ได้ซึ่งในคำสั่งนี้เองแฝงใบสั่งให้ตายแนบมาด้วยโดยตัวเบรามี่นั้นไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าหากแพ้ในการต่อสู้เค้าจะถูกปล่อยให้ตายไปเหมือนหมาข้างถนนแต่หากเค้าสามารถฟลุ๊คเอาชนะมาได้เค้าก็ไม่สามารถกินผลปีศาจอีกผลได้อยู่ดี และในด่านสุดท้ายยังต้องปะทะกับผู้บริหารซึ่งภารกิจนี้มีคำสั่งให้ เดลลิงเกอร์ เป็นผู้รับไปทำนั่นคือ"อย่าให้มันกลับมากวนใจได้อีก..!."
.......................
【】นอกเรื่องวันพีชความรู้รอบตัว【】
เบลามี่ Samuel Bellamy ฉายา แบล็กแซมหรือเจ้าชายโจรสลัด (Black Bellamy or Pirate Prince) ศตวรรษที่ 18
ซามูเอล เบลลามี่ (23 กุมภาพันธ์ 1689 – 26 เมษายน 1717)หรือที่รู้จักกันในฉายา แบล็กเบลลามี่ (Black Bellamy)
หรือแบล็กแซมเบลลาเจ้าชายแห่งโจรสลัด เค้าเป็นโจรสลัดหนุ่มที่มีความฝัน
มุ่งมั่นที่จะค้นหาสมบัติที่สาบสูญ
จนในที่สุดก็กลายมาเป็นโจรสลัดที่มั่งคั่งที่สุดในยุค
ชื่อเสียงของเบลลามี่เริ่มเป็นที่สนใจเมื่อเรือธงของเค้าถูกค้นพบที่นอกชาย
ฝั่ง ฟรอริด้าพร้อมกับสมบัติมากมายบนเรือ
ทำให้เราได้ทราบเรื่องราวของเค้าว่าเรือของเค้าล่มอยู่นอกชายฝั่ง
ในขณะที่เค้ากำลังจะเดินทางกลับมาหาคนรักเพื่อขอเธอแต่งงาน
แบล็กเบลลามี่ - Black Bellamy |
ต้นปี 1716
แบล็กแซมเดินทางไปถึง Eastham Harbor (แมสซาซูเซด –
อเมริกา)ที่นี่เองที่เค้าได้พบรักกับ มาเรีย( Maria Hallett)สาวน้อยวัย
15ปีมันเป็นรักแท้ที่แสนประทับใจแต่ดูเหมือนรักนี้จะมีอุปสรรค์เมื่อพ่อแม่
ของเธอคิดว่า เบลลามี่ไม่คู่ควรและยากจน
ทำให้เบลลามี่มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นกัปตันเรือที่ยิ่งใหญ่ให้ได้และจะกลับ
มาขอเธอแต่งงาน หลังจากที่เบลลามี่ออกเดินทางไป
มาเรียก็ตั้งท้องลูกของเบลลามี่แต่ก็แท้งและถูกขับไล่ออกจากเมืองแม้จะยาก
ลำบากมากกับการใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวแต่เธอก็ยังรอคอยการกลับมาของชายที่
เธอรัก
แบ
ล็กแซมเริ่มต้นค้นหาสมบัติโดยร่วมมือกับ พอล วิลเลยมส์(Paulsgrave
Williams)เพื่อนที่เป็นเศรษฐีของเค้าในการเป็นนายทุนในการซื้อเรือและออกทุน
ทุกอย่างที่ใช้ในการหาสมบัติ
แต่หลายเดือนผ่านไปเบลลามี่ก็ยังไม่พบอะไรมีพียงการค้นพบวัตถุโบราณเพียง
เล็กน้อย จนกะทั่งเงินทุนที่มีหมดไป
ฤดูร้อน ปี 1716
เบลลามี่กับพอล เข้าร่วมกับ กัปตันฮอนิโกล (Benjamin
Hornigold)ในการค้นหาสมบัติ
อีกครั้งแต่ครั้งนี้สมบัติที่เค้าค้นหากลับเป็นสมบัติที่ไม่ได้จมอยู่ใต้
ทะเลแต่กลับเป็นเรือขนสินค้าที่มีมากมายในทะเลและมีมูลค่ามหาศาล
เบลลามี่ออกปล้นเรือทุกลำที่เค้าพบไม่เกี่ยงสัญชาติว่าจะเป็นชาติไหนหรือแม้
แต่สัญชาติอังกฏษบ้านเกิดเค้าก็ไม่ยกเว้น จนทำให้ต้องขัดแย้งกับกัปตัน
ฮอนิโกล(Hornigold)จนในที่สุดก็กลายมาเป็นการท้าทายเพื่อชิงตำแหน่งกัปตัน
แต่ดูเหมือนนิสัยของเบลลามี่จะถูกใจลูกเรือที่เป็นโจรสลัดมากกว่าจนได้เป็น
กัปตันเรือคนใหม่แทนที่กัปตันฮอนิโกลและยึดเรือ Mary Anne มาเป็นของตน
การบังคับบัญชาของเบลลามี่มีประสิทธิภาพสูงมากมีเรือธงคือเรือ Sultana
และมีเรือรองคือเรือ Mary Anne ที่ให้พอลดูแล
เรือทั้งสองจะช่วยกันโอบล้อมข้าศึกช่วยให้เข้ายึดเรือจากทั้ง
ซ้ายและขวาทำให้ง่ายแก่การยึดโดยไม่ต้องทำลายเรือทิ้ง
กุมภาพันธื 1717 เบลลามี่เริ่มต้นตำนาน เจ้าชายโจรสลัดของเค้าด้วยการออกปล้นเรือที่มีมูลค่ามากที่สุดและสวยงามที่ สุดเท่าที่เค้าเคยพบมา มีชื่อว่า Slaver Whydah เรือสัญชาติอังกฏษที่เพิ่งกลับจากจาไมก้า เรือขนาด 300 ตัน บรรทุก งาช้าง ทับทิม น้ำตาลเครื่องปะดับเงิน และทองมาเต็มลำเรือ เบลลามี่ติดตามเรือลำนี้นานกว่า 3วันก่อนเข้าปล้นและยึดเรือมาเป็นเรือหลักของตนทำให้เค้ามีเรือในบัญชาสองลำ ประกอบด้วยเรือหลัก Whydah เป็นเรือธงขนาดใหญ่ สวยงามและมีประสิทธิภาพสูง ติดปืนใหญ่ที่ดาดฟ้า28 กระบอก เรือรองคือเรือ Mary Anne ที่มีกัปตันพอลดูแล ส่วนเรือลำเก่า Sultana ยกให้ลูกเรือที่ต้องการวางมือและแยกตัวเอาไปใช้
เมษายน 1717
หลังจากที่ได้เรือลำใหม่ที่แข็งแกร่ง และมีสมบัติมากมาย
เบลลามี่แล่นเรือกลับไปอเมริกาเพื่อตามหามาเรีย
ภรรยาของเค้าเพื่อทำคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับเธอให้เป็นจริงว่าหากเค้า
เป็นกัปตันเรือที่ยิ่งใหญ่เมื่อไหร่จะกลับมาหาเธอและรับเธอไปอยู่ด้วย
เบลลามี่แล่นเรือเรียบชายฝั่ง แอตแลนติก เพื่อเลี่ยงการพบเจอจากเรือตรวจการ
พฏษภาคม 1717
เมื่อมาถึง Cape Cod เรือของเบลลามี่หลงอยู่หมอกหนา และต้องปะทะกับ ครื่น
ลม พายุฝนขนาดใหญ่ จนเรือต้องอัปปางลง ลูกเรือทั้ง 148
คนจมน้ำหายไปเหลือรอดไปเกยฝั่งเพียง 8คน เท่านั้น 6 คนถูกแขวนคอในเวลาต่อมา
อีก2คนอยู่รอดเพื่อเล่าเรื่องราวของเจ้าชายแห่งโจรสลัดและถูกขังไว้จนกว่าจะ
พบสถานที่ๆเรือจมและกู้สมบัติบนเรือได้สำเร็จซึ่งนั่นก็ต้องรอนานเกือบ 200
ปีเลยทีเดียวกว่าจะเจอ
.............................