ฉายา มิสเตอร์ซีโร่
( MR. ZERO )
- จ้าวแห่งจระเข้ทราย
( KING CROCODILE )
- ราชาทะเลทราย -
( KING OF DESERT )
ค่าหัววันพีช 81,000,000
อายุ 44 ปี/ เกิด 5 กันยายน
ส่วนสูง 253 cm.(8ฟุต.3นิ้ว.)
เรือ เดอะ ฟูล(The Full)
ตำแหน่ง 1 ใน 7 เทพโจรสลัด(Shichibukai)
- Mr.0 บอสใหญ่องค์กรอาชญากรรมบาล็อกเวิร์ค
ผลปีศาจ ซูนะซูนะ (Suna Suna)สายโลเกีย/ธรรมชาติ
ผลทราย : เปลี่ยนร่างกายเป็นทราย ดูดน้ำจากวัตถุและสิ่งมีชีวิตทุกชนิดได้
ส่วนสูง 253 cm.(8ฟุต.3นิ้ว.)
เรือ เดอะ ฟูล(The Full)
ตำแหน่ง 1 ใน 7 เทพโจรสลัด(Shichibukai)
- Mr.0 บอสใหญ่องค์กรอาชญากรรมบาล็อกเวิร์ค
ผลปีศาจ ซูนะซูนะ (Suna Suna)สายโลเกีย/ธรรมชาติ
ผลทราย : เปลี่ยนร่างกายเป็นทราย ดูดน้ำจากวัตถุและสิ่งมีชีวิตทุกชนิดได้
ธาตุปฏิปักษ์-จุดอ่อน แพ้น้ำหรือผลน้ำ(โทโร โทโร่)
อาวุธ ดาบที่ทำจากธาตุทราย ใบมีดทะเลทราย(Desert Spada)
- ตะขอติดพิษแมงป่องทะเลทราย(HOOK-Scorpion Venom)
ลูกเรือ สมาชิก 1,000 คน ดาซู บอเนต (Mr.1 ) ,มิสเตอร์เบนแฮม-บอนเคร(Mr.2) มิสเตอร์เกลดิโน(Mr.3) ,มิสเตอร์โฟ(Mr.4) ,มิสเตอร์ไฟว์( Mr.5)
อาวุธ ดาบที่ทำจากธาตุทราย ใบมีดทะเลทราย(Desert Spada)
- ตะขอติดพิษแมงป่องทะเลทราย(HOOK-Scorpion Venom)
ลูกเรือ สมาชิก 1,000 คน ดาซู บอเนต (Mr.1 ) ,มิสเตอร์เบนแฮม-บอนเคร(Mr.2) มิสเตอร์เกลดิโน(Mr.3) ,มิสเตอร์โฟ(Mr.4) ,มิสเตอร์ไฟว์( Mr.5)
เผ่าพันธุ์ มนุษย์
"การใช้พิษ.!!..มันก็เหมือนแบบที่โจรสลัดทั่วๆไปเค้าใช้กัน
เซ้อร์ ครอกโคไดล์(Sir. Crocodile) เป็นตัวละครที่มีลักษณะเหมือนดั่งเป็นต้นแบบโจรสลัดในสมัยโบราณ หยิ่งทรนง มีมือที่เป็นตะขอ หน้าบากและสูบซิก้่า(ขาดเพียงตาบอดข้างเดียว) โหดเหี้ยม ปริ้นปรน ไม่มีความจริงใจให้ใคร มีลูกน้องมากมายที่พร้อมจะสละทิ้งได้ทุกเมื่อ ความแข็งแกร่งในฐานะ 1ใน12 ผู้ใช้ผลปีศาจสายโรเกีย(ในอนาคตอาจมีมากกว่านี้)จ้าวแห่งทะเลทรายไม่มีขอบเขตในการใช้พลังสามารถฆ่าคนทั้งเมืองได้ในพริบตาเป็นพลังที่ ช่างร้ายกาจและมีท่าไม้ตายมากมายพร้อมต่อกรกับทุกคนในโลกไม่เว้นแม้แต่ระดับนายพลรัฐบาลโลก
- 7 เทพโจรสลัดถูกกล่าวขวัญกันว่าเป็นดั่งอัศวินทั้ง 7 แห่งท้องทะเลหรืออีกนัยหนึ่งอาจถูกเปรืยบเป็นเงาของบาปทั้ง 7 ที่มีอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกคน
"การใช้พิษ.!!..มันก็เหมือนแบบที่โจรสลัดทั่วๆไปเค้าใช้กัน
มันเป็นการเดิมพันด้วยชีวิต.!.ว่าใครจะอยู่รอด.?..
ไม่มีใครว่าใคร..ว่าใช้วิธีที่ขี้ขลาดตาขาว
เพราะนี่คือการตัดสินด้วยชีวิตครั้งสุดท้าย..!.."
กล่าวโดย เซ้อร์ คร็อกโคไดล์
เซ้อร์ ครอกโคไดล์(Sir. Crocodile) เป็นตัวละครที่มีลักษณะเหมือนดั่งเป็นต้นแบบโจรสลัดในสมัยโบราณ หยิ่งทรนง มีมือที่เป็นตะขอ หน้าบากและสูบซิก้่า(ขาดเพียงตาบอดข้างเดียว) โหดเหี้ยม ปริ้นปรน ไม่มีความจริงใจให้ใคร มีลูกน้องมากมายที่พร้อมจะสละทิ้งได้ทุกเมื่อ ความแข็งแกร่งในฐานะ 1ใน12 ผู้ใช้ผลปีศาจสายโรเกีย(ในอนาคตอาจมีมากกว่านี้)จ้าวแห่งทะเลทรายไม่มีขอบเขตในการใช้พลังสามารถฆ่าคนทั้งเมืองได้ในพริบตาเป็นพลังที่ ช่างร้ายกาจและมีท่าไม้ตายมากมายพร้อมต่อกรกับทุกคนในโลกไม่เว้นแม้แต่ระดับนายพลรัฐบาลโลก
- 7 เทพโจรสลัดถูกกล่าวขวัญกันว่าเป็นดั่งอัศวินทั้ง 7 แห่งท้องทะเลหรืออีกนัยหนึ่งอาจถูกเปรืยบเป็นเงาของบาปทั้ง 7 ที่มีอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกคน
Crocodile ถูกเปรียบเป็น ตะกละ(gluttony) สัญลักษณ์ของตะกละคือ อีกาที่กินไม่เลือก สีประจำบาปคือสีส้ม : ความต้องการที่มากจนขาดความยั้งคิด มุ่งร้ายเอาของคนอื่นโดยไม่เลือกวิธีขอเพียงให้ได้มาในสิ่งที่ตนต้องการ
............................
►เปิดตำนานบาปแห่งการ แย่งชิง(GLUTTONY) กิเลศของความต้องการ ไม่สิ้นสุด ภายใต้บัญชาจากจอมมารแมลงวัล Beelzabub - จ้าวแห่งการทำลายล้าง◄
............................
►เปิดตำนานบาปแห่งการ แย่งชิง(GLUTTONY) กิเลศของความต้องการ ไม่สิ้นสุด ภายใต้บัญชาจากจอมมารแมลงวัล Beelzabub - จ้าวแห่งการทำลายล้าง◄
เซอร์คร็อกโคไดล์ราชาแห่งทะเลทราย เป็นผู้มีความสามารถในการใช้ ผลไม้ปีศาจ ซูนะซูนะ: SunsSuna หรือ Sand Sand ผลทราย มีความสามารถควบคุมทรายและเปลี่ยนรูปร่างได้ตามความต้องการ ความสามารถจากผลไม้ปีศาจชนิดนี้ถูกกล่าวจากคร็อกโคไดล์เกี่ยวกับความชำนานในการใช้ว่า "ผลไม้ปีศาจทุกชนิดล้วนร้ายกาจในตัวมันเองขึ้นอยู่กับผู้ครอบว่าจะใช้มันยังงัย" ซึ่งเค้าก็สามารถใช้ผลทรายที่เค้ามีได้อย่างเชี่ยวชาญ พลิกแพลงและหลากหลายจนเมื่อครั้งแรกที่ปรากฏมันทำให้ดูเหมือนกับว่ามันช่างไร้เทียมทานเหลือเกิน โดยเค้าสามารถแปลสภาพร่างกายของตนให้เป็นเม็ดทรายเพื่อใช้ในการหลบหลีกการโจมตีและใช้ในการเคลื่อนที่ไปตามกระแสลมและสามารถใช้ทรายที่ตัวเองสร้างขึ้นโจมตีศัตรูด้วยการสร้างเป็นรูปแบบอาวุธหรือพายุทรายที่มีขนาดใหญ่เพื่ออำพลางการโจมตีนอกจากนี้ด้วยร่างกายที่เป็นทรายทุกสิ่งที่เค้าสัมผ้ัสจะถูกดูดน้ำออกไปจากร่างกายทั้งสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตโดยจะเหลือไว้เพียงเศษซากที่สลายกลายเป็นผง
จุดอ่อน : ความสามารถในการการดูดน้ำออกจากวัตถุนั้นไม่สามารถดูดออกจากเหล็กหรือโลหะได้ และแพ้ของเหลวทุกชนิดที่ทำให้ทรายรวมตัวจับกันเป็นก้อนได้เช่น น้ำ เลือดหรือน้ำผึ้ง
เดอะคร็อกโคไดล์ - The CROCODILE |
"เอาแต่พูดว่าจะทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่แต่ไม่ลงมือทำ........
แล้วเมื่อไหร่มันจะยิ่งใหญ่ดังที่พูดไว้ซะที..!..."
ดำรงตำแหน่งเป็นถึง 1 ใน 7เทพโจรสลัด(The Shichibukai) ที่ปรากฏตัวออกมาต่อจากมิฮ็อค ตาเหยี่ยวและเป็นการแสดงถึงความยิ่งใหญ่ และ สุดจะร้ายกาจของผู้ใช้ผลปีศาจสายโรเกีย และจากความสามารถที่เค้ามีทำให้เค้าดู เย่อหยิ่งอยู่เสมอแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่คับขันเพียงใดก็ยังคงยิ้มเยาะศัตรูอยู่ตลอด เซอร์ ครอกโคไดล์เป็นบอสใหญ่องค์อาชญากรรมลับบาล็อก โค๊ดเนมของเขาคือMr.0 โดยองค์กรของเค้ามีเป้าหมายหลักในการครอบครองดินแดนแห่งทะเลทราย อาราบัสต้า ดำเนินการอย่างมีแบบแผนและขั้นตอนสมาชิกในองค์กรช่างมากมายล้วนแล้วแต่มี ความสามารถแต่ท้ายที่สุดก็ต้องพ่ายให้แก่ ลูฟี่แห่งกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ซึ่งถึงแม้ว่าการต่อสู้ในครั้งนี้เค้าจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แต่ก็เป็นการแพ้ให้กับพระเอกของเรื่องซึ่งก็ต้องแพ้เป็นเรื่องธรรมดา แต่ในภายหลังยังคงมีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้ช่วย ลูฟี่ต่อสู้โดยต้องรับมือกับศัตรูที่ร้ายกาจอีกหลายคนซึ่งทำให้เห็นว่าเค้าไม่เป็นรองใครเลยแม้แต่พลเอกของพวกทหารเรือ แต่ก็ยังคงมีปริศนาเกี่ยวกับอดีตของเขาอีกมากให้เราได้ติดตามกันต่อไป
7 เทพครอกโคไดล์ - Crocodile |
ปรากฏตัวครั้งแรกบนอาณาจักรอาราบัสต้า โดยเค้าถูกแต่งตั้งให้เป็นท่านเซอร์ใน อลาบาสต้า เนื่องจากราชาอาณาจักรนี้เข้าใจว่าเขาเป็นผู้ทำคุณงามความดีและร่วมช่วยดูแลปกป้อง อาณาจักรจากพวกโจรสลัดที่เข้ามารุกรานแต่ แท้จริงเป็นหัวหน้าขององค์กรอาชญากรรมลับ บาล็อกเวิร์คส์ โดยใช้นามแฝงว่า มิสเตอร์ซิโร่ มีจุดประสงค์ไม่ดีต่อราชอาณาจักรแห่งทะเลทรายแห่งนี้ แต่แล้วแผนการทั้งหมดก็ถูกเปิดโปงโดยฝีมือของเจ้าหญิงวีวี่และกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางทำให้พระราชารู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของ มิสเตอร์ ซีโร่ที่เป็นถึง 7เทพโจรสลัดที่คิดจะยึดครองอาณาจักรแห่งนี้ แต่ถึงแม้ว่าจะรู้จุดประสงค์ของคร็อกโคไดล์และพยายามบอกให้ประชาชนทราบแต่ก็ถูกขัดจาก บอสนัมเบอร์ที่มีพลังจากผลปีศาจทำให้พวกลูฟี่ต้องเข้าร่วมกับศึกในครั้งนี้ด้วย โดยลูฟี่ต้องรับภาระหนักในการเป็นคู่ต่อสู้ให้กับคร็อกโคไดล์ซึ่งในช่วงแรกคร็อกโคไดล์ดูเหมือนจะเป็นต่อลูฟี่อยู่มากแต่ด้วยแรงใจที่แข็งแกร่งของลูฟี่ทำให้คร็อกโคไดล์ต้องพ่ายแพ้และถูกจับ
นักโทษคร็อกโคไดล์ ถูกจับกุมแล้ว |
แต่ก็เป็นเพียงช่วงเวลาสั่นๆเท่านั้นที่ คร็อกโคไดล์ถูกพลากเอาเสรีภาพไป เมื่อภายหลังไม่นานนักมีคนมาช่วยเค้าแหกคุกออกไปได้ นั่นคือศัตรูในวันวานแต่ในตอนนี้กลายมาเป็นพันธมิตรที่ยากจะเข้าใจได้ซะแล้ว นั่นก็คือ มังกี้ ดี.ลูฟี่ ที่เคยทำให้เค้าพ่ายแพ้มาก่อนจนต้องถูกจับตัวมาขังคุก ได้เข้ามาพบเค้าโดยบังเอิญและยื่นเงื่อนไขที่ว่าจะต้องไม่ทำตัวเลวเหมือนในอดีตแล้วจะพาออกไปด้วย เฮ้อ..ในเวลานี้ไม่ว่าจะข้อแม้อะไรหรือให้ทำอะไรขอเพียงได้ออกไปจากที่นี่ก็รับทั้งนั้น แม้ในตอนแรกผู้ติดตามลูฟี่จะพากันคัดค้านเพราะคร็อกโคไดล์นั้นร้ายกาจเกินจะควบคุมได้แต่ด้วยคำพูดของลูฟี่ที่ว่า "ผู้ที่เคยสูญเสียอิสระภาพมาก่อนจะเข้าใจดีว่ามันมีค่าแค่ไหน แต่ถ้ายังไม่สำนึกฉันก็จะซัดมันอีกครั้ง " แม้จะฟังขัดหูไปบ้างแต่คร็อกไคไดล์เองก็ต้องยอมรับว่ามันคือความจริงและเมื่อออกมาได้เค้าก็ยังคงติดตามลูฟี่ไปช่วยเอสที่มารีนฟอร์ดด้วยเพราะมองว่ามันเป็นทั้งการตอบแทนบุญคุณและได้แก้แค้นพวกทหารเรือไปในตัว
......................................
【】นอกเรื่องวันพีชความรู้รอบตัว【】
เปิดตำนานบาปร้ายแรงของการแย่งชิงภายใต้บัญชาจากจอมมาร เบลเซบับ Beelzabub - จอมมารแมลงวัล
บาป 7 ประการ เป็นหลักคำสอนของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิคใน อดีตกาล ให้มนุษย์ไม่ทำตามสัญชาตญาณของตนมากจนเกินไป ทางศาสนาคริสต์ได้แบ่งบาปออกเป็น 2 ประเภทคือ แบบที่สามารถยกโทษให้ได้ และ แบบรุนแรง ในต้นศตวรรษที่ 14 หลักคำสอนนี้เป็นที่นิยมในหมู่ศิลปิน (หรือแม้กระทั่งในปัจจุบัน) ผลงานศิลปะมากมายที่สื่อถึงบาป 7 ประการแพร่ไปทั่ววัฒนธรรมต่างๆทั่วโลก
5/ ตะกละ (ภาษาละติน: gula กูลา ; ภาษาอังกฤษ: gluttony)
การสนองความต้องการโดยไม่ยั้งคิด มุ่งร้ายเอาของคนอื่น ต้องการครอบครองสิ่งที่คนอื่นมีมากกว่าที่ตนเองมี ต้องการมากจนเกินความจำเป็น รวมถึงความไม่รู้จักพอในการกิน การทำสิ่งใด โดยไม่คำนึงสนใจ หรือเห็นใจคนอื่น ทำให้เวลาสรรเสริญพระเจ้าน้อยลง และยังเป็นบาปที่สามารถชักจูงให้ทำบาปอื่นๆ ได้ เช่น ปรารถนาในความหิว (ราคะ) ฆ่าเพราะความหิว (โทสะ) เป็นต้น "เบลเซบับ"ราชาแห่งแมลงวัน เป็นปีศาจประจำบาปตะกละ เนื่องจากเป็นปีศาจที่มีความตะกละอย่างไม่มีที่สิ้นสุด กินไม่หยุดหย่อนและเลือกแต่อาหารดีๆ กินเท่าไรก็ไม่หมดความหิวกระหาย เป็นนิสัยที่น่ารังเกียจมากๆ หากมนุษย์คนใดถูกเบลเซบับสิงก็จะมอบชีวิตให้แก่มันด้วยการกินเท่านั้น
Ψ ผู้หลงในบาปข้อนี้จะถูกจองจำในนรกขุมที่ 3 (Third Circle : Gluttony) นรกขุมนี้เป็นขุมนรกสำหรับพวกหมูโสโครกที่จมปรักอยู่ในโคลนตม เป็นนรกที่สาหัสสากัณ ยิ่งยวด นั้นเป็นเพราะ ผู้ปกครองนรกแห่งนี้คือ เบลเซบับ ที่เป็นถึง 1ใน3 เจ้าชายแห่งนรกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเคยเป็นเทวดาชั้นเซลาฟินซึ่งเป็นเทวดาชั้นสูง แต่กลับฝักใฝ่ในความชั่วจึงมาปกครองนรกแทน จึงทำให้ขุมนรกแห่งนี้มีอสูร ปีศาจรับใช้มากมายเช่น หมาสามหัวเซอเบรัสคอยเป็นหมาเฝ้ายาม และมีเหล่าสาวกปีศาจคอยกรอกน้ำโคลนที่เน่าเหม็นใส่ปาก วิญญาณมนุษย์ที่ครั้งเมื่อเป็นมนุษย์ ตะกละ กินดื่ม อย่างไม่พอดีหรือแม้กระทั้งผู้ที่ติดยาเสพติดก็ต้องชดใช้บาปอยู่ในนรกขุมนี้ทั้งสิ้น
ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดตะกละคือ ความพอดี การยับยั้งชั่งใจ
"เบลเซบับ"ราชาแห่งแมลงวันผู้มีความต้องการไม่สิ้นสุด |
"ข้าคือจอมปีศาจประจำเดือน กรกฏาคม
ผู้บูชาข้าจะได้รับ ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ในการเพาะปลูก ไร้ซึ่งโรคภัย"
เบลเซบับ หรือ บีเอลเซบับ (ฮีบรู: בעל זבוב; กรีก: βεελζεβούβ; อังกฤษ: Beelzebub) พญาแมลงวัน เป็นปีศาจตนหนึ่งในความเชื่อของคริสต์ศาสนาและกรีก เบลเซบับเป็นราชาแห่งแมลงวัน และเป็นตัวแทนของบาปตะกละ (Gluttony) หนึ่งในบาปเจ็ดประการ (Seven Deadly Sins) เป็นเทพแห่งโรคร้ายและความสกปรก มักอยู่ในร่างของแมลงวัน
ในคัมภีร์ Gospel of Nicodemus ได้กล่าวถึงการเยือนนรกของพระเยซูเป็น เวลา 3 วันนั้น ได้ให้อำนาจปกครองนรกแก่เบลเซบับและให้มีอำนาจเหนือซาตาน (เป็นการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการโดยพระคริสต์) เพื่อแลกกับการยอมรับในตัวพระองค์ เนื่องจากซาตานนั้นเป็นผู้ต่อต้านพระเจ้า ไม่ยอมรับในตัวพระองค์ผู้เป็นพระบุตรแน่นอน และท่านยังมอบหมายให้พาตัวอดัมและนักบุญคนอื่นๆ ที่ถูกกักขังอยู่ในนรกกลับสวรรค์ด้วย (จึงมีผู้กล่าวว่าเบลเซบับยอมรับใช้พระเจ้าเพื่อขอให้พระองค์ผ่อนโทษเหมือน กับแอสโมดิวส์ แต่เบลเซบับเป็นปีศาจซุกซน เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง กลับกลอก จะเอาแน่ก็ไม่ได้ ดีร้ายเท่ากัน)
บางครั้ง เบลเซบับก็ปรากฏอยู่ในรูปของวัวยักษ์ หรือแพะตัวผู้ที่มีหางยาว เมื่อโกรธก็จะพ่นไฟออกมาทางปาก คำว่า "เบลเซบับ" นอกจากเป็น "จ้าวแห่งแมลงวัน" แล้ว ยังมีอีกชื่อหนึ่ง ก็คือเป็น "จอมทำลายล้าง"
แต่เดิมนั้นเบลเซบับเคยเป็นเทพของชาวซีเรียน เป็นราชาองค์ที่สอง หนึ่งในสามเทพเจ้าแห่งเอควอน (Akron) แห่งฟิลิสเทีย (Philistia) แต่แล้วก็ได้กลายเป็นเทพฝ่ายที่ไม่ดีในสมัยของกษัตริย์ Ahaziah เมื่อนักบวชผู้หนึ่งได้บอกกับพระองค์ว่า "เมื่อใดที่ Ank (เบลเซบับ) มาเยือน เมืองนี้จะเกิดโรคร้ายระบาดไปทั่ว ผู้คนจะล้มตายนับสิบ และซากศพจะกองสูงเหนือหลังคาบ้าน" ผู้คนจึงเชื่อว่าเบลเซบับเป็นเทพแห่งโรคร้ายตั้งแต่นั้นมา ในคาบาล่า เบลเซบับได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้าของ 9 กองพลนรก
เบลเซบับในความเชื่อของคริสต์ศาสนา
ชื่อของเบลเซบับ หรือเบเอลเซบูล (Beelzebul) ปรากฏในคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ ว่าเป็นผู้ปกครองปีศาจ หรือเจ้าชายแห่งมวลปีศาจ ดังตัวอย่างในพระธรรมมัทธิว 12:24 ถึงข้อที่ 28 ซึ่งเป็นเรื่องราวในตอนที่พระเยซูทรงรักษาคนตาบอดและเป็นใบ้ให้หาย ฟาริสีจึงกล่าวหาว่าพระเยซูนั้น ได้ใช้อำนาจของเบลเซบับในการรักษา มีใจความว่า "๒๔แต่พวกฟาริสีเมื่อได้ยินดังนั้นก็พูดว่า ผู้นี้ขับผีออกนั้นก็เพราะได้ใช้อำนาจเบเอลเซบูลผู้เป็นนายผีนั้น ๒๕ฝ่ายพระเยซูทราบความคิดของเขา จึงตรัสกับเขาว่า ราชอาณาจักรใดๆซึ่งแตกแยกกันแล้วก็คงพินาศ เมืองใดๆ ครัวเรือนใดๆ ซึ่งแตกแยกกันแล้ว จะตั้งอยู่ไม่ได้ ๒๖และถ้าซาตานขับซาตานออกมันก็แตกแยกกันในตัวมันเอง แล้วอาณาจักรของมันจะตั้งอยู่อย่างไรได้ ๒๗และ ถ้าเราขับผีออกโดยเบเอลเซบูล พวกพ้องของท่านทั้งหลายขับมันออกโดยอำนาจของใครเล่า เหตุฉะนั้นพวกพ้องของท่านเองจะเป็นผู้ตัดสินใจกล่าวโทษพวกท่าน ๒๘แต้ถ้าเราขับผีออกด้วยพระวิญญาณของพระเจ้า แผ่นดินของพระเจ้าก็จะมาถึงท่านแล้ว "
ในมาระโก 3:22 ถึงข้อที่ 32 ได้มีพวกธรรมจารย์จากกรุงเยรูซาเล็มได้กล่าวว่าพระองค์ว่ามีพลังของเบลเซบับ เช่นกัน พระองค์จึงตรัสเป็นความโดยย่อได้ว่า "ซาตานจะขับซาตานให้ออกได้ อย่างไร ถ้าอาณาจักรใดแตกแยกก็อยู่ไม่ได้ หากต่อสู้กันเองก็จะไม่มีอะไรเหลือ ผู้ใดกล่าวหมิ่นประมาทพระวิญญาณอันบริสุทธิ์จะไม่ได้รับอภัยโทษจะได้รับแต่ ความพินาศย่อยยับ" และกล่าวแก่พระสาวกว่า ผู้ที่นับถือพระองค์ที่รออยู่ข้างนอกนั้น ก็คือมารดาและพี่น้องของพระองค์ เพราะพวกเขาเหล่านั้นเคารพในตัวพระเจ้า แต่เดิม เบลเซบับนั้นเป็นเทวทูตที่ทำหน้าที่สอนมนุษย์ให้ใช้สิ่งของให้เป็นประโยชน์ รู้จักใช้สอยสิ่งของและพิถีพิถันในการเลือกอาหารการกิน แต่แล้วก็ถูกขับจากสวรรค์ ซาตานก็ได้มาเชิญชวนให้ไปเป็นพวก เมื่อเบลเซบับมาอยู่ในนรกก็ได้รู้วิธีล่อลวงจิตใจมนุษย์ เมื่อเบลเซบับถูกเรียกโดยเหล่าผู้บูชาตนแล้ว มักจะปรากฏในรูปของแมลงวัน และทุกที่ที่มันไปก็จะมีฝูงแมลงวันบินตามไปด้วย เมื่อบินไปที่ไหนก็ทำให้เกิดโรคร้าย ในความเป็นจริง แมลงวันก็เป็นพาหะนำโรคร้ายต่างๆ อยู่แล้ว เช่น อหิวาตกโรค โรคบิด ไข้รากสาด เป็นต้น การเป็นพาหะนำโรคของแมลงวันจึงทำให้เกิดตำนานความเชื่อเกี่ยวกับเบลเซบับขึ้น
เบลเซบับนั้นมีความแตกต่างจากซาตาน เพราะพลังอำนาจของเบลเซบับไม่ได้มาจากการให้ของซาตาน เรียกได้ว่าเบลเซบับปกครองนรกส่วนหนึ่ง แต่เป็นคนละส่วนของซาตาน ภายหลังกระแสของซาตานดังกว่า ผู้คนจึงกล่าวว่าซาตานเป็นนายของเบลเซบับไปด้วย
เบลเซบับกับความเชื่อของชาวเพเก้น
ตามความเชื่อของชาวเพเก้น เชื่อกันว่าผู้ยิ่งใหญ่หรือจ้าวแห่งนรกมีอยู่ด้วยกัน 3 ตน คือ ลูซิเฟอร์ เบลเซบับ และแอสทารอส เชื่อกันว่าทั้งสามตนต้องการปกครองผืนโลกาปฐพีทั้งใบ โดยลูซิเฟอร์จะปกครองดินแดนทางเหนือและตะวันออก (หรือยูเรเซีย) เพราะเต็มไปด้วยมนุษย์ที่หยิ่งยโสเหมือนมัน เบลเซบับจะปกครองดินแดนทางใต้ (แอฟริกากับแอนตาร์กติกา) เพราะว่าเหมาะแก่การฟักตัวของโรคร้าย และแอสทารอสจะปกครองดินแดนทางตะวันตก (อเมริกาเหนือและใต้) เพราะเต็มไปด้วยมนุษย์ที่บ้าอำนาจเหมือนมัน ซึ่งแตกต่างจากซาตานที่ต้องการปกครองสวรรค์และตั้งตนเป็นพระเจ้า
.................................