ฉายา มือขวาราชาโจรสลัด (Right Hand of the Pirateking)
- ราชันย์แห่งความมืด เรย์ลี่(The Dark King)
ค่าหัววันพีช ประมาณ
1,300,000,000 เบรี
อายุ ปัจจุบัน 78 ปี/ เกิด 13 พฤษภาคม/13 โชคร้าย
เรือ โอโรแจ็คสัน (Oro Jackson)
ตำแหน่ง ✸ รองกัปตันกลุ่มโจรสลัด โกล ดี.โรเจอร์ ✸
( QUARTERMASTER Of ROGER PIRATE )
ผลปีศาจ ----------
1,300,000,000 เบรี
อายุ ปัจจุบัน 78 ปี/ เกิด 13 พฤษภาคม/13 โชคร้าย
เรือ โอโรแจ็คสัน (Oro Jackson)
ตำแหน่ง ✸ รองกัปตันกลุ่มโจรสลัด โกล ดี.โรเจอร์ ✸
( QUARTERMASTER Of ROGER PIRATE )
ผลปีศาจ ----------
อาวุธ ดาบยาว (Straight-Bladed Sword)
เผ่าพันธุ์ มนุษย์
- พลังฮาคิ / พลังการสังเกตุ(Kenbunshoku Haki), พลังแห่งเกราะ(Busoshoku Haki) , พลังแห่งราชันต์(Haoshoku Haki)
ลูกเรือ เพื่อน กัปตันโกล โรเจอร์(Gol D Roger) รองกัปตันซิลเวอร์ เรลี่(SliverRayleigh) หมอคอคคัส(Crocus) แชงครูส(Shanks) บากี้(Buggy)โชคชะตานำพาให้พบเจอ ..........
แล้วจะไม่มาร่วมกันสานฝันอันยิ่งใหญ่กันเหรอ........"
ประโยคสั้นๆจาก โรเจอร์ที่เปลื่ยนชีวิตชายผู้นี้
ซิลเวอร์ เรย์ลี่(Silvers RayLeigh) เรย์ลี่เป็นตัวละครเก่าแก่อีกตัวหนึ่งที่มีชีวิตอยู่ระหว่างอดีตและปัจุบันโดยรูปลักษณ์ของเค้าเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อครั้งปรากฏตัวในอดีตมาก ทั้งแว่นตาและทรงผมแต่ยังคงเห็นรอยแผลเป็นที่เหนือตาขวาอยู่ นิสัยของเค้านั้นยังคงรักสนุกและมีดูไฟแรงอยู่เสมอถึงแม้ว่าเค้าน่าจะเป็นศัตรูกับหนวดขาวแต่เมื่อรู้ข่าวเค้ากับหลั่งน้ำตาให้หนวดขาวสำหรับวีระกรรมที่ผ่านมายังคงมีความลับอีกมากในตัวชายผู้นี้ ทั้งเรื่อง สมบัติมากมาย ทรัพย์สิน เงินทอง ที่ถูกซ่อนอยู่มากมายของ ราชาโจรสลัด และความสามารถในการอ่านโพเนกรีฟของโรเจอร์ ความลับของแกรนไลย์ และสุดยอดปรารถนาแห่งโจรสลัดสมบัติ วันพีชล้วนถูกซ่อนอยู่ภายในตัวชายผู้นี้-
- สมาชิกกลุ่มโจรสลัด โรเจอร์ มีรูปแบบที่มาของสมาชิกในกลุ่มมาจากชื่อของแร่ชนิดต่างๆบนโลก Silvers RayLeigh คือเงิน
- ชื่อของเรย์ลี่นั้นอาจมาจากนักเดินเรือที่เป็นโจรสลัดถูกกฏหมายและยังเป็นขุนนางในราชสำนักของชาวอังกฏษในชื่อ Sir.Walter Releigh เค้าเคยมีชีวิตอยู่ในช่วง ค.ศ1552-1618
.............................ราชานรก ซิลเวอร์ เรย์ลี่เป็นสมาชิกคนแรกในกลุ่มโจรสลัดโรเจอร์ และคงอยู่มาตลอดนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นั้นแสดงให้เห็นถึงความสามารถและพลังฝีมือของเค้าที่มีนั้นช่างร้ายกาจไม่ธรรมดา เค้าเป็นคนมีระเบียบวินัยดูแลการบังคับบัญชาภายในเรือและฝึกอบรมสมาชิกใหม่ เค้ามีความสามารถทางกายสูงกว่ามนุษย์ทั่วไปมี จากคำกล่าวของชากี้ความแข็งแกร่งของเค้าเหนือกว่ารุกกี้ 100 คนรวมกันเสียอีก เค้าใช้ดาบยาวที่มีใบมีดโค้งเรียว เป็นอาวุธประจำตัวและเห็นบ่อยครั้งเมื่อเกิดการต่อสู้โดยมันถูกซ่อนไว้ภายใต้เสื้อคลุมของเค้าโดยจะถูกนำออกมาใช้โดยใช้แขนซ้ายข้างถนัด โดยล่าสุดเมื่อครั้งปะทะกับ คิซารุ ครั้งนั้นเค้าแสดงให้เห็นถึงเพลงดาบเป็นที่เป็นเลิศผสานกับพลังฮาคิแห่งเกราะ จนสามารถต้านทานการโจมตีของคิซารุ ได้อย่างง่ายดาย
ความสามารถที่เป็นหนึ่งไม่เป็นรองใครคือ พลังฮาคิทั้ง 3 รูปแบบโดยทักษะที่เค้ามีนั้นแสดงให้เห็นว่าเค้าสามารถใช้มันได้อย่างเชี่ยวชาญ ถึงขีดสุด กว้างไกลโดยสามารถจำแนกพลังของคน 500 คนได้อย่างง่ายดาย หรือจะใช้พลังเฉพาะเจาะจงไปยังเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวทำให้พลังมีความรุนแรงมากขึ้น จนในปัจจุบันความแข็งแกร่งที่เค้ามีไม่เห็นว่าจะมีผู้ใดสามารถเอาชนะเค้าได้
จุดอ่อน : ในบางครั้งแสดงให้เห็นถึงความโชคร้ายที่คาดไม่ถึงจนมองได้ว่าไม่ว่าศัตรูหรือใครที่อยู่ใกล้อาจจะดวงซวยไปด้วยเมื่ออยู่ใกล้ตัวเค้า
RAYLEIGH-ผู้เป็นดั่งราชาโจรสลัดเงา |
"ฉันไม่มีครอบครัวให้ต้องคิดถึง จึงไม่คิดที่จะปกป้องใครหรืออะไร....
จนกะทั่งสูญเสียทุกอย่างไป...ไม่เหลืออะไรเลย ทั้งเรือและพวกพ้อง...
แต่..!.มีเพียงธงนี้เท่านั้นที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในใจ......
และ..ถ้าใครคิดจะพรากมันไปก็เข้ามา..!!..."
ซิลเวอร์ เรย์ลี่ผู้ไร้เทียมทาน เมื่อครั้งในอดีตในช่วงเริ่มแรกของการหาสมาชิกเข้าร่วมกลุ่มโจรสลัดในตำนาน ช่วงแรก โรเจอร์ ที่ออกเดินทางจากบ้านเกิดในล็อกทาวน์เพื่อต้องการออกทะเลไปเพื่อหาบ้านไหม่ที่เหมาะสมกับตัวเค้ามากกว่าได้เดินทางมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่วุ่นวายจากไฟไหม้ เค้าพยายามหาเรือเพื่อเดินทางต่อแต่เมื่อมาถึงท่าเรือก็พบกับ เรย์ลี่ที่นอนอยู่บนเรือซึ่งบ้านของเค้าเองก็เป็นหนึ่งในบ้านที่ถูกไฟไหม้เช่นกัน โรเจอร์จึงชวนเรย์ลี่ให้ออกทะเลไปด้วยกันซึ่งเรย์ลี่ที่กำลังเบื่อก็ตกลงและนั้นคือจุดเริ่มต้นของตำนานกลุ่มโจรสลัดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกโดยมีจุดเริ่มเป็นคำกล่าวเพียงสั้นๆจากโรเจอร์ว่า"โชคชะตานำพาให้พบเจอ..!!..แล้วจะไม่มาร่วมกันสานฝันอันยิ่งใหญ่กันเหรอ"
หลังจากที่เรย์ลี่ตัดสินใจร่วมเดินทางไปด้วยเค้าคอยเป็นมือขวา รองกัปตันให้โรเจอร์ โดยทำหน้าที่หลายอย่างทั้งตำแหน่งช่างเครื่อง ดูแลเรือ และยังเป็นนักดาบประจำเรือด้วยจนได้รับฉายาในขณะนั้นว่า "มือขวาของ ของโกล ดี โรเจอร์" หรือที่ในหมู่โจรสลัดเรียกว่า "ราชันย์นรก เรย์ลี่ - The Dark King" และร่วมต่อสู้กับสมาชิกกลุ่มเรื่อยมา
วันเวลาผ่านไปกว่า 26 ปี ก่อน โกล โรเจอร์ได้แจ้งข่าวให้ทุกคนได้ทราบ ว่าเค้ากำลังป่วยหนัก ใกล้จะตายจึงอยากฝากชื่อไว้เป็นอนุสรณ์โดยการทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เหนือผู้ใดในโลก ในการเดินทางรอบโลกเพื่อพิชิตจุดสูงสุดของแกรนไลต์เป็นครั้งสุดท้าย โดยให้ลูกเรือเลือกที่อยู่หรือแยกตัวออกไป ซึ่งในขณะนั้น ซิลเวอร์ เรย์ลี่ ที่อยู่ในวัยหนุ่มและมีความกะตือรือล้นในการพจญภัยสูง ในฐานะลูกเรือคนหนึ่งเค้าจึงไม่ทิ้งโอกาศครั้งยิ่งใหญ่ให้หลุดลอยไปแน่จึงตอบรับในทันทีและทำหน้าที่เป็นคนดูแลระเบียบ วินัยทุกอย่างบนเรือรวมทั้งจัดทัพรับศึกต่างๆด้วย
กลุ่มโจรสลัดโกล โรเจอร์ เดินทางเข้าสู่แกรนต์ไลโดยเลือก 1ใน5 เส้นทางหลักซึ่งเป็นทางเส้นเดียวกันกับที่ลูฟี่ใช้เดินทางนั้นเอง การเดินทางดำเนินไปผ่านศึกมามากมายกับกลุ่มโจรสลัด โรเจอร์จนเมื่อเข้า สู่โลกใหม่ก็ต้องพบศึกครั้งใหญ่ กับการประทะกับ ราชสีห์ทองคำ ชิกิ ซึ่งมีกำลังคนมากกว่าพวก โรเจอร์หลายร้อยเท่าแต่ด้วยความแข็งแกร่งของเรือและความสามารถอันเด็ดเดี่ยวของกัปตันทำให้เอาชนะมาได้โดยถล่มพวกชิกิซะจนย่อยยับ หลังจากนั้นวันเวลาผ่านไปกว่า 4 ปี ก็ถึงจุดหมายที่ ราฟเทล(Raftel) โรเจอร์สั่งให้ลูกเรือทิ้งสมบัติที่มีทั้งหมดไว้ที่นั่น และกลับออกมาไม่นานกลุ่มของราชาโจรสลัดโกล โรเจอร์ก็แตกเรย์ลี่ และพรรคพวกคนอื่นได้แยกย้ายกันไป บางคนตั้งกลุ่มของตนขึ้นใหม่เพื่อสืบปณิฐานแห่ง .D ต่อไป
วันเวลาผ่านไปกว่า 26 ปี ก่อน โกล โรเจอร์ได้แจ้งข่าวให้ทุกคนได้ทราบ ว่าเค้ากำลังป่วยหนัก ใกล้จะตายจึงอยากฝากชื่อไว้เป็นอนุสรณ์โดยการทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เหนือผู้ใดในโลก ในการเดินทางรอบโลกเพื่อพิชิตจุดสูงสุดของแกรนไลต์เป็นครั้งสุดท้าย โดยให้ลูกเรือเลือกที่อยู่หรือแยกตัวออกไป ซึ่งในขณะนั้น ซิลเวอร์ เรย์ลี่ ที่อยู่ในวัยหนุ่มและมีความกะตือรือล้นในการพจญภัยสูง ในฐานะลูกเรือคนหนึ่งเค้าจึงไม่ทิ้งโอกาศครั้งยิ่งใหญ่ให้หลุดลอยไปแน่จึงตอบรับในทันทีและทำหน้าที่เป็นคนดูแลระเบียบ วินัยทุกอย่างบนเรือรวมทั้งจัดทัพรับศึกต่างๆด้วย
ราชันย์ความมืด/ Dark King |
หลังจากนั้นอีก 6 ปี ครั้งหนึ่งเค้าถูกทหารเรือตามล่าและถูกโจมตีจนเรือแตกทำให้เค้าตกจากเรือและลอยคออยู่ในทะเลเป็นเวลานาน มนุษย์เงือกฮัจจิผ่านมาพบเข้าและคิดว่า เรย์ลี่กำลังจะจมน้ำจึงเข้าไปช่วยและพาไปอยู่ที่หมู่เกาะซาบอนดี้ บ้านของโจรสลัดหญิงชากี้ โดยเค้าทำอาชีพใหม่ โดยใช้ความสามารถเชิงชั่งรับจ้างเคลือบเรือให้กับบรรดาเรือโจรสลัดต่างๆ ที่จะเดินทางไปเกาะมนุษย์เงือกซึ้งว่ากันว่าเกาะแห่งนี้เป็นเกาะที่อยู่ใต้ทะเลลึก เค้าทำอาชีพนี้อยู่นานจนแน่ใจว่าพวกทหารคงจะหาเค้าไม่เจอเพราะที่นี่มีโจรสลัดมากหน้าหลายตาแวะเวือนมาที่เกาะแห่งนี้ โดยเค้าอยู่ร่วมกัน 3 คนกับฮัจจิและชากี้ในบาเหล้าเก่าๆ อยู่เป็นเวลานาน ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ โจรสลัดเงือกฟิชเชอร์ ไทเกอร์บุกแมรี่โจปลดปล่อยทาสทั้งหมดให้เป็นอิสระรวมถึงพวกพี่น้อง โบอา แฮนค็อกก็สามารถหนีออกมาจากเกาะซาบอนดี้ได้ด้วยความช่วยเหลือบางส่วนจากเรย์ลี่ และส่งต่อให้ชากี้ช่วยกันหลบซ่อนตัวไว้ก่อนที่ยายเนียวจะพามาส่งที่เกาะอเมซอน ลิลลี่ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานฮัจจังจะขอลาไปเข้ากับกลุ่มโจรพระอาทิตย์ ทำให้เรย์ลี่อาศัยอยู่บนเกาะซาบอดี้กับชากี้เพียงสองคนนับแต่นั้นเรื่อยมา
........................................
【】นอกเรื่องวันพีชความรู้รอบตัว【】
เปิดตำนาน โจรสลัดราชสำนัก วอลเตอร์ลี หรือเซอร์ วอลเตอร์เรย์ลี่(Sir Walter Raleigh)
ท่านเซอร์ วอลเตอร์ลี( 1554 - 1618 อายุ 65 ปี )เป็นโจรสลัดอีกคนที่มีชีวิตอยู่จริงในช่วงศตวรรษที่ 16 และเป็นโจรสลัดอีดคนที่ถูกหยิบยกชีวประวัติบางส่วนให้โลดแล่นอยู่ในหนังเรื่องอลิซาเบธ ราชินีบัลลังก์ทอง(Elizabeth -The Golden Age) ออกฉายในปี 2007 โดยเนื้อเรื่องของหนังกล่าวถึงช่วงชีวิตที่เค้ายังเป็นโจรสลัดที่ถูกกฏหมายออกพจญภัยในโลกกว้างซึ่งรวมถึงดินแดนที่เรียกว่า โลกใหม่หรือก็คืออเมริกานั่นเอง โดยหลังจากกลับจากการพจญภัยก็มักจะนำของแปลกทั้งใบยาสูบและทรัพย์สินเงินทอง มาถวายแก่ ควีน อริซาเบธ(Queen Elizabeth)ทำให้ได้รับการโปรดปรานเป็นอันมาก
วอลเตอร์ลีเกิดในวันที่ 22 มกราคม 1552เกิดในหมู่บ้านเล็กๆทางตะวันออกของอังกฏษเป็นบุตรคนที่ 5ของครอบครัวครอบครัวของเค้าเป็นคนเคร่งศาสนาเข้าศึกษาในวิชากฏหมายที่ Oxfordในลอนดอนซึ่งความเป็นจริงในเรื่องการศึกษาของเค้าอาจเป็นเพียงเรื่องแต่งขึ้นมาก็เป็นได้
เซอร์ วอลเตอร์เรย์ลี่ - Sir Raleigh |
ต่อมา ในปี 1584 เค้าเริ่มมองหาสิ่งที่ท้าทายกว่าโดยเค้าได้สิทธิบัตรในการตั้งรกรากและสำรวจดินแดนอเมริกาโดยเค้าเริ่มสำรวจเกาะในแถบรัฐเวอร์จิเนียก็ก็ดูเหมือนจะล้มเหลวไม่เป็นท่าเพราะไปเจาะกับป่าชายเลนในแถบนั้นเข้าแต่ก่อนจะกลับอังกฏษเค้าได้นำใบยาสูบที่ได้จากชนพื้นเมืองกลีับอังกฏษไปด้วยซึ่งนั่นก็เป็นผลดีกับเค้ามากทำให้มีผู้สนใจในดินแดนแห่งนี้เป็นมากทั้งจากขุนนางและพระนางอริซาเบธทำให้ได้เงิรทุนในการสำรวจอีกครั้ง แต่ก่อนการสำรวจครั้งใหม่จะเริ่มขึ้นก็เกิดสงครามระหว่างอังกฏษกับสเปนขึ้น
ในปี 1588 เรือที่จดทะเบียนในสัญชาติอังกฏาถูกเรียกให้มารับศึกในครั้งนี้ทั้งหมดแม้ว่าศึกในครั้งนี้จำนวนเรือของอังกฏษจะมีจำนวนน้อยกว่าแต่ก็สามารถเอาชนะมาได้ทำให้การค้าและการสำรวจทางเรือของอังกฏษในยุคนั้นยิ่งใหญ่เหนือกว่าชาติอื่นเป็นอย่างมาก
ในปี 1580 ช่วงรุ่งเรืองในชีวิตของเค้า ซึ่งช่วงนั้นเค้าเป็นคนสนิทของ ควีนอริซาเบธ
ในปี 1585ได้รับแต่งตั้งให้เป็นอัศวิน และได้เป็นเจ้าของเหมือง
ในปี 1586 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าสองมณฑล
ในปี1590-1600 ได้รับการแต่งตั้งจากสมเด็จพระราชินีอริซาเบธอีกหลายครั้งทั้งตำแหน่ง เงินทองและที่ดิน
ในปี 1585ได้รับแต่งตั้งให้เป็นอัศวิน และได้เป็นเจ้าของเหมือง
ในปี 1586 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าสองมณฑล
ในปี1590-1600 ได้รับการแต่งตั้งจากสมเด็จพระราชินีอริซาเบธอีกหลายครั้งทั้งตำแหน่ง เงินทองและที่ดิน
ช่วงตกต่ำของชีวิต ในปี 1591 เริ่มจากเรื่องเอื้อฉาวของเค้าที่ไปแต่งงานอย่างลับๆโดยไม่ได้รับอนุญาติกับ "เบส"สาวใช้คนสนิทของราชินีควีนอริซาเบธทำให้เค้าถูกจำคุกเป็นเวลาสั้นๆในเวลาต่อมาเค้าได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าเมือง มิทเชลล์ หลังจากนั้นเค้าเริ่มเดินทางออกทะเลอีกครั้งโดยเริ่มสำรวจต้นน้ำ คาโรนิ(Caroni)และต่อมาเดินทางไปกายอานาอเมริกาใต้ อยู่ทางตะวันออกของเวเนซูเอลาเพื่อค้นหาเมืองทองคำ"Manoa"ในตำนานหรือที่รู้จักกันในชื่อ เอลโดราโด้(El Dorado)
ช่วงสุดท้ายในชีวิต ในปี 1603 หลังจากการตายของพระราชินีทำให้เค้าถูกกล่าวหาว่าเป็น กบฏลอบปลงพระชนและถูกจำคุกในหอคอยลอนดอนแม้ว่าเค้าจะถูกพิพากษาให้ประหารชีวิตแต่ก็ใช้เงินช่วยให้ลดโทษเป็นขำคุกตลอดชีวิตในช่วงชีวิตที่อยู่ในคุกของเค้าเค้าเขียนหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์กรีซและโรมรวมถึงหนังสือเกี่ยวกับ ขุมทองเอลโดราโด้ด้วย
ในปี 1616 หลังจากจำคุกได้ 13 ปีเค้าก็ถูกปล่อยตัวออกมาให้นำทีมคณะสำรวจขุมทองอีกครั้งโดยครั้งนี้เค้านำลูกชายของเค้าไปด้วยแต่ก็ต้องมาตายในระหว่างการเดินทางซึ่งเหตุการเกิดขึ้นในระหว่างการเข้าตีป้อมซานโตเมของสเปนซึ่งนอกจากจะเสียลูกชายไปเรย์ลี่ยังถูกฝ่ายสเปนเรียกร้องให้ประหารเค้าในฐานะโจมตีดินแดนของสเปนโดยปราศจากคำสั่งของกษัตริย์ซึ่งจากข้อหาในครั้งนี้ทำให้เค้าถูกประหารโดยการ ถูกตัดหัวในวันที่ 29 ตุลาคม ปี 1618 ที่หน้าลานพระราชวังเก่า
ในปี 1616 หลังจากจำคุกได้ 13 ปีเค้าก็ถูกปล่อยตัวออกมาให้นำทีมคณะสำรวจขุมทองอีกครั้งโดยครั้งนี้เค้านำลูกชายของเค้าไปด้วยแต่ก็ต้องมาตายในระหว่างการเดินทางซึ่งเหตุการเกิดขึ้นในระหว่างการเข้าตีป้อมซานโตเมของสเปนซึ่งนอกจากจะเสียลูกชายไปเรย์ลี่ยังถูกฝ่ายสเปนเรียกร้องให้ประหารเค้าในฐานะโจมตีดินแดนของสเปนโดยปราศจากคำสั่งของกษัตริย์ซึ่งจากข้อหาในครั้งนี้ทำให้เค้าถูกประหารโดยการ ถูกตัดหัวในวันที่ 29 ตุลาคม ปี 1618 ที่หน้าลานพระราชวังเก่า
......................................