สายพันธุ์ สัตว์ทะเลขนาดยักษ์(Big Friendly)
- ประเภทปลาวาฬสเปิร์ม
ค่าหัว ประมาณ 14,500,000
ถิ่นที่อยู่ ประภาคารคู่ปากทางเข้าแกรนต์ไล
- ทะเลตะวันตก(เวสต์บลู - WestBlue)
อายุ 65 ปี
ลักษณะพิเศษ(Species) เป็นปลาวาฬสเปิร์มที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติหลายเท่า มีผิวหนังภายนอกหนาเข้มสีดำ และรอยแผลเป็นจำนวนมากทั่วทั้งส่วนหน้าของหัว
ประวัติ.ลาบูน(Laboon) เป็นปลาวาฬที่มีมีนิสัยประหลาดเค้าเข้าใจในภาษามนุษย์ รู้ความหมายของคำว่ามิตรภาพ ยึดมั่นในคำมั่นสัญญา และเชื่อว่าพวกพ้องคือการไม่ทอดทิ้งกันแม้ความตายก็มาพรากมันไปไม่ได้ แม้ว่าลาบูนจะเป็นสัตว์แต่เค้าก็มีความรู้สึกเหมือนมนุษย์เค้าเสียใจเป็นอย่างมากที่ได้รู้ว่ากลุ่มโจรสลัดรัมบะพวกพ้องของเค้าได้ตายไปหมดแล้วการไม่ยอมรับความจริงทำให้เค้าเศร้าเสียใจและต้องการที่จะพิสูทธ์ความจริงโดยหวังจะทำลายกำแพงที่กั้นไม่ให้เค้ากลับบ้านลงด้วยการใช้หัวพุ่งชนรีเวิร์สเมาร์เทนให้พังเพื่อหวังจะกลับบ้านเกิดไปให้เห็นกับตา

【】 เปิดตำนานสัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเล ตำนานเรื่องเล่าชาวประมง ปลาวาฬขาวยักษ์ โมบี้ ดิ๊ก - Moby dick 【】
เพราะมันคือการควบคุมอารมณ์..ที่แท้จริงไว้ในจิตใจ
แล้วแสดงสิ่งที่ตรงกันข้ามออกมา..!!..
แต่สำหรับพวกเรา..ก็แค่คิดยังงัยก็แสดงออกมาหยั่งงั้น.."
เมื่อนานมาแล้วกว่า 50 ปีก่อน ลาบูนเป็นเพียงปลาวาฬรุ่นเยาว์ที่ว่ายน้ำเล่นอยู่ในทะเลเวสต์บลู จนมาวันหนึ่งลาบูนที่กำลังเศร้าจากการที่ต้องอยู่ตัวคนเดียว เมื่อมาพบกลุ่มโจรสลัดรัมบะเข้าพวกเค้าดูไม่เหมือนมนุษย์ใจร้ายเท่าไป ดูใจดีและยิ้มให้เค้า หัวหน้ากลุ่ม โยคิ เมื่อเห็นปลาวาฬน้อยที่กำลังเศร้าจึงคิดที่จะปลอบใจให้ร่าเริงอีกครั้งจึงร่วมกันกับพวกบรรเลงเพลงให้ฟัง ปลาวาฬน้อยประทับใจในบทเพลงครั้งนั้นมากจึงติดตามเรือของกลุ่มโจรสลัดรัมบะเรื่อยมา
แม้โยคิจะพยายามไล่หลายครั้งเพราะรู้ว่าหากติดตามเรือต่อไปปลาวาฬน้อยอาจถูกทำร้ายจากกลุ่มโจรสลัดอื่นได้ แต่ปลาวาฬน้อยก็ไม่ยอมไปเพราะคิดว่าการอยู่คนเดียวมันช่างเหงาเหลือเกินการมีเพื่อนเป็นสิ่งที่เค้ารอคอยมาตลอดและจะไม่ยอมสูญเสียมันไปแม้ว่าจะถูกไล่ยังงัยก็ไม่ยอมไปเด็ดขาด พวกกลุ่มโจรสลัดรัมบะเองเมื่อเห็น ปลาวาฬน้อยชื่นชอบในบทเพลงของพวกตนก็มีความภูมิใจอยู่ไม่น้อยและยอมรับให้ปลาวาฬน้อยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม และตั้งชื่อให้ว่า “ลาบูน”
![]() |
ปลาวาฬน้อยลาบูน - Laboon |
เวลาผ่านไปหลายปีไม่มีข่าวคราวหรือวี่แววของการกลับมาของกลุ่มโจรสลัด รัมบะให้เห็น ลาบูนจะเข้าไปตามหาในแกรนต์ไลก็เกรงว่าหาก โยคิกลับมาจะไม่พบตนและจะเป็นห่วงจึงได้แต่รอวันแล้ววันเล่า จนกระทั่งมีข่าวจากผู้ดูแลประภาคารบอกว่ากลุ่มโจรสลัด รัมบะออกจากแกรนต์ไลไปนานแล้วเป็นตายไม่รู้
ลาบูนเมื่อได้ยินเค้ารู้ในทันทีว่า พวกพ้องของเค้าต้องไม่ตายและกำลังรอเค้าอยู่ที่ทะเลบ้านเกิดในเวสต์บลู ลาบูนพยายามที่จะข้าม เรดส์ไล ให้ได้แต่ร่างกายของลาบูนในขณะนี้มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะข้ามไปได้ลาบูนเริ่มใช้หัวพุ่งชนเรดส์ไลเพื่อหวังจะชนมันให้พังและข้ามกลับไปหาพรรคพวกให้จงได้แม้ว่ามันจะต้องใช้เวลากี่สิบปีลาบูนก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะกลับบ้านให้ได้แม้รู้ว่าจะต้องตายก็ตาม
ลาบูนเมื่อได้ยินเค้ารู้ในทันทีว่า พวกพ้องของเค้าต้องไม่ตายและกำลังรอเค้าอยู่ที่ทะเลบ้านเกิดในเวสต์บลู ลาบูนพยายามที่จะข้าม เรดส์ไล ให้ได้แต่ร่างกายของลาบูนในขณะนี้มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะข้ามไปได้ลาบูนเริ่มใช้หัวพุ่งชนเรดส์ไลเพื่อหวังจะชนมันให้พังและข้ามกลับไปหาพรรคพวกให้จงได้แม้ว่ามันจะต้องใช้เวลากี่สิบปีลาบูนก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะกลับบ้านให้ได้แม้รู้ว่าจะต้องตายก็ตาม
...............................
【】นอกเรื่องความรู้รอบตัว【】
เปิดตำนานสัตว์ประหลาดในตำนาน ปลาวาฬขาวยักษ์ โมบี้ ดิ๊ก/Moby dick

แต่ต่อมาเขาก็รู้ว่าชายที่ชื่อ Queequeg นั้นไม่ได้โหดเหมือนที่คิด เขามีท่าทางเป็นมิตรพอใช้ได้ และทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนกันจนถึงมีการเสนอร่วมทุน ด้วย 30 เหรียญ และตกลงลงเรือล่าปลาวาฬชื่อ Pequod เตรียมออกเดินทางไปนอกฝั่ง Nantucket ก่อนออกเดินทางมีคนมาเล่าเรื่องกัปตันเรือลำนี้ว่าชื ่อ Ahab เป็นคนที่ดูประหลาด และพิลึกพิลั่นอยู่ แต่ทั้งอิชมาเอล และควีเควกก็ไม่เปลี่ยนใจ เพราะความต้องการเดินเรือมีมากเกินกว่าที่จะยกเลิกเส ียง่ายๆ


เรือพีควอด/Pequod ยังคงแล่นไปเรื่อยๆ ฝ่ายกัปตันอาฮับก็เฝ้าถามใครๆ เรื่องปลาวาฬขาว เมื่อยังไม่พบก็ได้แต่เพียงการร่วมล่าปลาวาฬตัวอื่นๆ ไปก่อน สตาร์บัคกับสตับบ์พยายามบอกให้ลูกเรือกลับไปที่เรือพีควอด แต่ไม่มีใครฟัง และในที่สุดควีเควกสามารถแทงปลาวาฬให้คนเรือลากมาที่ เรือ มีข้อสังเกตว่าปลาวาฬมีเนื้อที่สีข้างแหว่งซึ่งคงจะเ ป็นส่วนที่ถูกปลาฉลามกัดกิน ลูกเรือช่วยกันใช้เชือกคล้องหัวปลาวาฬ และแขวนในแนวตั้งสูงหลายฟิต เมื่อมีการทำความสะอาดไขปลาแล้ว และปล่อยให้ไขมันละลายได้หลายหม้อ กัปตันก็ให้เก็บไว้ที่ใต้ดาดฟ้าเรือ
ขณะที่ลูก เรือกำลังทำงานหนักเรื่องปลาวาฬที่จับมาได้ นั้น เรือก็แล่นเข้าสู่เขตมหาสมุทรอินเดีย ได้พบเรืออังกฤษในบริเวณนั้น กัปตันอาฮับถามถึงโมบี ดิคอีก แทนคำตอบนั้น กัปตันชาวอังกฤษได้ชูแขนของเขาที่ดามด้วยกระดูกปลาวา ฬ ให้อาฮับดูแทน กัปตันอาฮับพอใจมากที่เขาได้รู้แล้วว่าขณะนั้นโมบี ดิคอยู่ที่ไหน เขาไม่กลัวเกรงเลยที่จะต้องพบ และสู้กับมันให้รู้ดำรู้แดงกันไปข้างหนึ่ง สตาร์บัค พยายามชักชวนให้กัปตันยกเลิกการตามฆ่าโมบี ดิค แต่อาฮับกลับใช้ปืนขู่เพื่อนเป็นการห้ามพูด และเลิกยุ่งกับเขา
ครั้นแล้ว ก็ได้เกิดพายุรุนแรงขึ้นในคืนหนึ่ง ฟ้าผ่าลงมาที่เสากระโดงเรือทำให้บรรดาลูกเรือตกใจมาก พวกเขาคิดว่าเป็นสัญญานเตือนจากพระเจ้าให้ยกเลิกภาระ กิจที่ตั้งใจมา และเดินทางกลับบ้านไปเสีย แต่กัปตันไม่สนใจ เขายังคงตั้งใจที่จะล่าเจ้าปลาวาฬขาวให้ได้ หลังจากนั้นอีกสองสามวัน ทุกคนก็ได้ยินเสียงของโมบี ดิค กัปตันสั่งให้นำเรือเล็กลงไปเพื่อเตรียมสู้กับปลาวาฬ โมบี ดิคสามารถพลิกเรือเล็กจนคว่ำลง และด้วยแรงกระแทกทำให้เรือแตกเป็นชิ้นๆ พวกลูกเรือกระเด็นหลุดออกไปกลางท้องทะเล กัปตันต้องส่งคนออกไปกันเจ้าปลาวาฬไว้ และพยายามช่วยลูกเรือของตนกลับมาที่เรือ พวกลูกเรือเหล่านี้ได้พักตลอดวัน
จนถึงวันที่สอง พวกลูกเรือก็สามารถทำความพอใจให้กัปตันด้วยการพุ่งฉมวกไปปักที่ตัวปลาถึงสามแห่ง ฝ่ายปลาก็ไม่ยอมง่ายๆ มันพุ่งเข้าโจมตีกระบวนเรือจนแตกกระจัดกระจายกัน กะลาสีกระเด็นออกไปลอยคออยู่กลางทะเล โดยเฉพาะเรือของกัปตันอาฮับถูกเจ้าปลาวาฬขาวหนุนขึ้น สูง แล้วปล่อยให้ตกลงมาในทะเล ถึงตอนนี้ไม่มีใครเห็นเฟดัลเลาะห์ มีแต่กัปตันอาฮับเท่านั้นที่ลูกเรือสามารถช่วยชีวิตไ ว้ได้
จนถึงวันที่สอง พวกลูกเรือก็สามารถทำความพอใจให้กัปตันด้วยการพุ่งฉมวกไปปักที่ตัวปลาถึงสามแห่ง ฝ่ายปลาก็ไม่ยอมง่ายๆ มันพุ่งเข้าโจมตีกระบวนเรือจนแตกกระจัดกระจายกัน กะลาสีกระเด็นออกไปลอยคออยู่กลางทะเล โดยเฉพาะเรือของกัปตันอาฮับถูกเจ้าปลาวาฬขาวหนุนขึ้น สูง แล้วปล่อยให้ตกลงมาในทะเล ถึงตอนนี้ไม่มีใครเห็นเฟดัลเลาะห์ มีแต่กัปตันอาฮับเท่านั้นที่ลูกเรือสามารถช่วยชีวิตไ ว้ได้

ฝ่ายโมบี ดิคเมื่อต้องเจ็บด้วยแผลจากฉมวกมันดิ้นรนแรงมากจนเรือเล็กล่มไปหลายลำ สตาร์บัคที่อยู่บนเรือใหญ่พยายามพาเรือแล่นตามปลามา และหาทางช่วยกัปตันกับลูกเรือคนอื่นๆ เจ้าปลาวาพจึงหาทางงับเรือจนแตกออก อาฮับได้เห็นทันที่ว่าเรือทำด้วยไม้สักจากอเมริกาเท่ ากับเขาได้เห็นเหตุการณ์ ตามคำทำนายที่สองของเฟดัลเลาะห์ ส่วนคำทำนายที่สามว่ากัปตันจะต้องตายด้วยเชือกก็คือ เมื่อเชือกที่ติดกับฉมวกหลุดมาพันรอบคอเขา และดึงให้เขาหลุดจากเรือ เมื่อเรือแตก ไม่มีใครรอดชีวิตเลย นอกจากอิชมาเอลที่ได้อาศัยพยุงตัวบนโลงศพที่แกะเป็นร ูปเรือของควีเควก เขาลอยอยู่ในทะเลไม่นานก็มีเรือผ่านมา และช่วยชีวิตของเขาไว้ได้ขณะที่เรือพีควอดจมลง
ขอบคุณบทความจาก tumnan741 blogspot
.............................