- ศรแดง(Red Arrow)
ค่าหัววันพีช 18,500,000
อายุ ??? ปี
ส่วนสูง 196 cm
ปราการ เกาะโอมัตสุริ(Omatsuri Island)
ตำแหน่ง กัปตันกลุ่มโจรสลัด ศรแดง(Red Arrow)
- ราชาเกาะรีสอร์ท โอมัตสุริ(Resort Owner)
ผลปีศาจ ---
- ราชาเกาะรีสอร์ท โอมัตสุริ(Resort Owner)
ผลปีศาจ ---
อาวุธ คันธนูกับลูกศรแดง(Red Arrow) - พายุลูกศร(Arrow Storms)
คู่หู ลิลลี่ คาเนชั่น(Riri Canashon )
ลูกเรือ มูชิโกโร่(Muchigoro) ,ดีเจ กัปปะ(D.J Kappa) ,เคโระจิ(Kerojii) ,เคโระช็อต(Keroshot) ,เคโระเดตะ(Kerodeeta) ,เคโระโกะ(Keroko)
เผ่าพันธุ์ มนุษย์
ปรากฏตัวใน Onepiece The Movie 6 : Baron Omatsuri and the Secret Island
ปรากฏตัวใน Onepiece The Movie 6 : Baron Omatsuri and the Secret Island
- บอสใหญ่เดอะมูฟวี่ 6 - โจรสลัดซากศพมีชีวิต (ฺBig Boss Movie 6)
- วันพีชเดอะมูฟวี่ 6 : ราชาบารอนโอมัตสึริกับเกาะรีสอร์ทแห่งความลับ
- ออกฉาย 5 มีนาคม 2005
"ถ้าเจ้าเป็นโจรสลัด ในหมู่โจรสลัด ในหมู่โจรสลัด..ในหมู่โจรสลัด
- ออกฉาย 5 มีนาคม 2005
"ถ้าเจ้าเป็นโจรสลัด ในหมู่โจรสลัด ในหมู่โจรสลัด..ในหมู่โจรสลัด
จงพาพวกพ้องของเจ้ามาที่เกาะแห่งนี้ เกาะที่มีนามว่า..โอมัตสุริ.."
คำเชิญชวนสู่ความตายจาก บารอนโอมัตสุริ
บารอน โอมัตสุริ(Baron Omatsuri) เป็นชายแก่อายุมากที่ดูแข็งแรงแต่มีแววตาที่ดูเย่อหยิ่ง โดดเด่นด้วยทรงผมสีดำ ยาวและฟูที่ดูเหมือนกับต้นมะพร้าว ไว้หนวดและเคราแหลม แต่งกายในแบบขุนนางมีทั้งเสื้อโค๊ตและผ้าพันคอ นิสัยของเค้าดูนั้นดูแล้วต่างจากโจรสลัดในยุคใหม่มากที่ต่างก็ทำทุกอย่างตามความฝันและมีความกระตือรือล้นที่จะพจญภัย แต่สำหรับ บารอนเค้ากลับไม่สนใจในทรัพย์สมบัติความต้องการเพียงอย่างเดียวของเค้าคือการอยู่ร่วมกันกับพวกพ้องและพจญภัยไปพร้อมกันสมบัติเพียงอย่างเดียวที่มีและจะสูญเสียไปไม่ได้นั่นคือพวกพ้องที่อยู่ร่วมกันเหมือนครอบครัวเดียวกัน
.........................
บารอน โอมาสุริ หรือที่รู้จักกันในหมู่โจรสลัดว่า บารอนแห่งกลุ่มโจรสลัศรแดง(Red Arrow) เป็นบุรุษอีกคนที่หลงเหลือจากยุคสมัยเก่าที่บ้าครั่งเป็นยุคสมัยที่ปกครอง โดยราชาโจรสลัด โกล โรเจอร์ บารอนเองก็เป็นอีกคนที่หลงไหลในท้องทะเลเค้าจึงนำพรรคพวกจำนวนมากออกเรือไปพจญภัยในทะเลโดยหวังเพียงว่าจะ ได้ร่วมพจญภัยไปพร้อมๆกันไปตลอดโดยหารู้ไม่ว่า โลกของโจรสลัดในแกรนไลต์นั้นช่างโหดร้าย และต้องเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อเสี่ยงดวงเอาชีวิตรอดไปวันๆกับทั้งโจรสลัดกลุ่ม อื่นที่คิดช่วงชิงสมบัติและพวกพ้องไป และที่อันตรายยิ่งกว่านั่นคือสภาพอากาศที่โหดร้ายและรุนแรงอย่างที่สุดและ พร้อมที่จะทำให้โจรสลัดทุกคนกลายเป็นเพียงตำนานไปในพริบตา
บารอน โอมัตสุริ - Baron Omatsuri |
และพรากพวกเค้าออกไปจากชีวิตเรา....อย่างไม่ทันรู้ตัว
จงอย่าพลาดโอกาสแแม้เพียงน้อยนิดที่จะบอกพวกเขาว่า
พวกเขามีความหมายต่อคุณมากแค่ไหน...."
ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว เรือของกลุ่มโจรสลัดศรแดง ได้เดินทางมาพบกับเรือของกลุ่มโจรสลัดโกล โรเจอร์ ที่ร้ายกาจซึ่งการพบกันในครั้งนั้น จากคำบอกเล่าของรองกัปตัน มูชิโกโร่ ที่ดูเหมือนว่าเค้าไม่เกรงกลัวต่อชื่อเสียงของ โกล โรเจอร์เลยและยังเชื่อด้วยว่ากัปตันบารอนของเค้าแข็งแกร่งกว่้า โกล โรเจอร์เสียอีก เป็นไปได้ว่าการพบกันในครั้งนั้นเกิดการปะทะกันเพียงเล็กน้อยด้วยปืนใหญ่ระยะไกลทำให้เรือของบารอนได้รับความเสียหายทำให้หลังจากนั้นไม่นานต้องปะทะกับพายุ ไซโคลนขนาดใหญ่ในแกรนไลต์ทำให้เรือทั้งลำล่มลงในพริบตา สมาชิกทุกคนเสียชีวิตในทันที
ลิลลี่ คาเนชั่น/Canashon Riri |
แม้บารอนจะรู้ว่าสิ่งที่เค้าจะทำเป็นสิ่งที่ผิดในการหาชีวิตคนอื่นมาสังเวยให้ลิลลี่เพื่อแลกกับการได้คืนมาซึ่งพวกพ้องที่ตายไปแล้วนั้นจะเป็นเพียงภาพลวงตาที่ ลิลลี่ สร้างขึ้นแต่เค้าก็ยอมแลกทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับพวกพ้องของเค้าอีกครั้ง และเพื่อหลอกล่อเหล่าโจรสลัดมากมายในแกรนไลต์มาให้ลิลลี่กินเค้าจึงคิดที่จะสร้างสวนสวรรค์ รีสอร์ทแห่งการพักผ่อนขึ้นเพื่อดักจับนักเดินทางที่ผ่านทางมาโดยทุกคนที่เข้ามาล้วนต้องตกเป็นอาหารของลิลลี่ทั้งสิ้น แม้เวลาจะล่วงเลยมากว่า 20 ปีแล้วเกาะโอมัตสุริก็ยังคงอยู่มาจนกระทั่งกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางของลูฟี่ผ่านทางมาและเดินทางมาที่เกาะแห่งนี้ตามคำเชิญชวนที่ลอยมาตามลมของ ตำนานเกาะบารอน โอมัตสุริ
....................................
【】นอกเรื่องความรู้รอบตัว【】
เปิดตำนานต้นไม้ในตำนาน ต้นแมนดราโกร่าหรือแมนเดรค (Mandrake - Mandragora)
แมนดราโกร่าหรือแมนเดรค (Mandrake - Mandragora) เป็นพืชในตระกูล Solanaceae (ตระกูลเดียวกับมะเขือม่วงและมันฝรั่ง) ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติตั้งแต่เขตทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมาจนถึงประเทศจีน ที่รู้จักกันในฐานะสมุนไพรนั้นประกอบด้วย 3 ชนิดอันได้แก่ officinarun L., M. autumnalis Spreng. และ M. caulescens Clarke เป็นพืชที่มีสารอัลคาลอยด์อยู่ในรากเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับพืชอื่นๆใน ตระกูลเดียวกัน * Mandrake ในอเมริกาและแคนาดา จะหมายถึง May Apple ซึ่งเป็นพืชคนละชนิดกันโดยสิ้นเชิง
แมนเดรกเปนพืชที่ปราศจากลำต้น มันมีรากใหญ่สีนำ้้้ตาล และมีใบสีเขียว สูงประมาณ 4 นิ้ว แมนเดรกออกดอกในช่วงมีนาคมถึงเมษายน มีผลในช่วงฤดูร้อน ดอกมีสีแตกต่างกันตั้งแต่ขาวขาวถึงเหลือง รูปทรงคล้ายถ้วย แมนเดรกเป็นพืชพื้นเมืองของหิมาลายาและเมดิเตอร์เรเนียนแมนเดรกมีพิษโทรเพนซึ่งเป็นอัลคาลอยด์ชนิดหนึ่ง อัลคาลอยด์เป็นส่วนหนึ่งของสารที่สังเคราะห์โดยพืชที่ป้องกันไม่ให้แมลงและสัตว์มากิน
แมนดราโกร่า - Mandragora |
บาง ตำราจะแบ่งแมนเดรคออกเป็นเพศชายและเพศหญิง โดยแมนเดรคซึ่งบานในฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกสีขาวและเป็นเพศชาย ส่วนแมนเดรคที่บานในฤดูใบไม้ร่วงจะมีดอกสีดำและเป็นเพศหญิง ยิ่งเป็นแมนเดรคที่มีอายุมาก รากก็จะกลายเป็นสองแฉกและออกจากพื้นดินมาเดินเพ่นพ่านไปมาได้
แมนเดรคถูกกล่าวว่ามีคุณสมบัติมากมายหลายประการ ตั้งแต่เป็นยาพิษ ยาอายุวัฒนะ ยาชา ยาเสน่ห์ ยาหลอนประสาท และมีสรรพคุณสามารถรักษาโรคได้หลายอย่าง วิธีการนำมาใช้คือต้องปอกเปลือกของหัวแมนเดรคออก จากนั้นก็ผูกเชือกแขวนไว้จนแห้ง หรือนำไปต้มกับไวน์ ยาที่สำเร็จออกมาจะสามารถใช้รักษาโรคนอนไม่หลับ ช่วยขับพิษ แก้ปวด หรือใช้ประกอบในการสะกดจิต (ทั้งหมดนี้เป็นสรรพคุณในบันทึก ไม่รับรองว่าจริงแค่ไหน ที่แน่ๆ แมนเดรคมีพิษอยู่ด้วย อย่าทดลองเองโดยไม่มีความชำนาญค่ะ)
แต่ที่ทำให้แมนเดรคมีชื่อเสียงที่สุดนั้นคงได้แก่วิธีการเก็บมันขึ้นมา จากพื้นดินนี่เอง เนื่องจากเชื่อกันว่าเมื่อถอนแมนเดรคขึ้นมาจากพื้น มันจะส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน และใครก็ตามที่ได้ยินเสียงนั้นก็จะขาดใจตาย โดยบันทึกแล้วมีอยู่ 3 วิธีในการถอนแมนเดรค
แต่ที่ทำให้แมนเดรคมีชื่อเสียงที่สุดนั้นคงได้แก่วิธีการเก็บมันขึ้นมา จากพื้นดินนี่เอง เนื่องจากเชื่อกันว่าเมื่อถอนแมนเดรคขึ้นมาจากพื้น มันจะส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน และใครก็ตามที่ได้ยินเสียงนั้นก็จะขาดใจตาย โดยบันทึกแล้วมีอยู่ 3 วิธีในการถอนแมนเดรค
2. ขุดหลุมรอบๆแมนเดรคแต่อย่าเพิ่งถอนออกมา แล้วเอาสุนัขมาผูกไว้ จากนั้นก็ถอยไปให้ได้ระยะไกลพอแล้วใช้เหยื่อล่อให้สุนัขวิ่งถอนแมนเดรคขึ้น มา สุนัขที่ได้ยินเสียงแมนเดรคก็จะตายแทนเรา (เป็นวิธีที่คงได้ยินกันบ่อยที่สุด ว่ากันว่าในกรณีนี้ จะมีการขายแมนเดรคทั้งๆที่ผูกติดกับศพสุนัขนั่นแหละค่ะ สงสัยจะใช้แทนใบรับรอง)
3. ใช้ดาบขีดวงกลมรอบแมนเดรค 3 ชั้น จากนั้นก็ถอนแมนเดรคขึ้นมาโดยมองไปทางทิศตะวันตก กล่าวกันว่าเป็นวิธีที่จะได้แมนเดรคมาในสภาพสมบูรณ์ที่สุด(ฟังคล้ายกับพิธี ของทางเซลติคหรือคาบาล่าเลย)
-- ความเชื่อเกี่ยวกับแมนเดรก --
-- ความเชื่อเกี่ยวกับแมนเดรก --
คัมภีร์ไบเบิลจากหนังสือประฐมกาลกล่าวถึงต้นแมนเดรก(ไบเบิ่ลฉบับภาษาไทยแปลว่า"มะเขือดูดาอิม") ว่านางราเชลขอต้นไม้นี้จากพี่สาวที่ชื่อ นางเลอาห์ เพราะราเชลไม่มีลูก ต่อมาภายหลังก็มีลูก และตำนานอื่นๆเล่าว่า เป็นพืชที่มีความสัมพันธ์กับความเสเพล และความยั่วยวนของเทพีวีนัส การจะถอนรากเเมนเดรกต้องอาศัยสุนัขเท่านั้นในการดึงรากมันขึ้นมาเพราะกลัวว่าเมื่อที่พืชชนิดนี้ถูกถอนออกจากพื้นดินที่มันอยู่ก็จะส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนจนทำให้คนที่ถอนมันถึงแก่ความตาย
นอกจากนี้ ในเยอรมันยังมีตำนานกล่าวถึงอัลราวเน่(Alraune) ซึ่งเป็นพืชในตระกูลเดียวกับแมนเดรคเช่นกัน กล่าวกันว่าอัลราวเน่จะงอกใกล้กับลานประหารที่มีการประหารหรือทรมานนักโทษ ที่ไม่ได้มีความผิดจริง วิธีการถอนอัลราวเน่ก็ใช้วิธีเดียวกับแมนเดรคนั่นเอง อัลราวเน่ที่ถอนขึ้นมาจะถูกนำไปล้างให้สะอาดด้วยไวน์แดง
จากนั้นก็ห่อด้วยผ้าลายขาวแดงแล้วเก็บใส่กล่องไว้ ทุกๆวันศุกร์จะต้องนำมาล้างน้ำร้อนให้สะอาด และทุกๆคืนเดือนมืดจะต้องเปลี่ยนผ้าห่อผืนใหม่ เมื่อตั้งคำถาม อัลราวเน่ก็จะตอบคำทำนายในอนาคตหรือความลับต่างๆ และนำโชคลาภมาให้ผู้เป็นเจ้าของ แต่หากเรียกร้องมากจนเกินไป อัลราวเน่ก็จะเฉาตายไปได้ เมื่อเจ้าของตาย กรรมสิทธิ์จะตกเป็นของลูกชายคนเล็ก ซึ่งผู้สืบทอดจะต้องเอาชิ้นขนมปังกับเหรียญเงินใส่ลงในโลงของพ่อ และหากลูกคนเล็กเสียชีวิตไปก่อนที่พ่อจะตาย กรรมสิทธิ์ก็จะตกเป็นของลูกชายคนโต ซึ่งลูกชายคนโตก็ต้องนำชิ้นขนมปังกับเหรียญเงินใส่ในโลงของน้องเช่นกัน
...........................