ค่าหัว 20,000,000 เบรี
อายุ 25 ปี/ปัจจุบัน 41 ปี
- เกิด 3 พฤษภาคม
- เกิด 3 พฤษภาคม
ส่วนสูง 210 Cm
เรือ เขี้ยวฉลาม (Shark Superb )
ปราการ อารอนปาร์ค(Arlong Park)
ตำแหน่ง สมาชิกกลุ่มเงือกโจรสลัดพระอาทิตย์
(CREW OF FISHMAN SUNNY PIRATE )
(CREW OF FISHMAN SUNNY PIRATE )
- หัวหน้ากลุ่มโจรสลัด อารอน(BOSS-Arlong Park)
ผลไม้ปีศาจ ......
อาวุธ ดาบใบเลื่อย คิริบาจิ(Kiribachi)
ลูกเรือ เพื่อน ฮาจิ(Hatchan) ,จูว(Chew) ,คุโระโอบิ(Kuroobi) ,ชิโอยากิ(Shioyaki) ,นุค(take) ,คาเนชิโร่(Kaneshiro) ,พิซาโร่(Pisaro)
อาวุธ ดาบใบเลื่อย คิริบาจิ(Kiribachi)
ลูกเรือ เพื่อน ฮาจิ(Hatchan) ,จูว(Chew) ,คุโระโอบิ(Kuroobi) ,ชิโอยากิ(Shioyaki) ,นุค(take) ,คาเนชิโร่(Kaneshiro) ,พิซาโร่(Pisaro)
เผ่าพันธุ์ มนุษย์เงือกชาย(Merman)
- สายพันธ์ ปลาฉนากซอ ทูส/สกุลเดียวกับฉลาม(SAW TOOTH)
"มนุษย์เงือกอย่างพวกเราคือ...มนุษย์ที่หายใจในน้ำได้
- สายพันธ์ ปลาฉนากซอ ทูส/สกุลเดียวกับฉลาม(SAW TOOTH)
"มนุษย์เงือกอย่างพวกเราคือ...มนุษย์ที่หายใจในน้ำได้
แข็งแกร่งกว่ามนุษย์โดยทั่วไปใครคิดต่อต้าน...
ก็เหมือนต่อต้าน พระเจ้าแห่งธรรมชาติ"
กล่าวโดย อารอน
โนโคงิริ อารอน (ARLONG) แห่งทะเล อีสต์บลู เป็นมนุษย์เงือกปลาฉนาก(Saw-tooth" Arlong) หรือที่เรียกกันว่า ฉลามใบเลื่อย มีลักษณะพิเศษคือนิสัยที่โหดร้าย ชอบไล่ล่าหรือไล่ต้อนผู้ที่อ่อนแอกว่า อารอนเป็นมนุษย์เงือกที่ชอบเงินซึ้งจะทำให้เค้ามีอำนาจมากขึ้น โดยมีนิิสัยชอบต่อรองเรื่องผลประโยชน์โดยไม่เลือกว่าจะเป็นมนุษย์หรือทหาร เรือถ้ามีข้อเสนอที่ดีก็จะยอมรับทั้งนั้น อารอนมีรูปร่างร่างกายที่ใหญ่โตมากกว่ามนุษย์มากและแข็งแรงมากด้วยโดยเฉพาะ ส่วนลำคอและหัวที่มีครีบติดอยู่ และมีรอยสัญลักษณ์โจรสลัดพระอาทิตย์ที่หน้าอกซ้ายซึ่งเขาภูมิใจกับมันมากและ ไม่เคยปิดบังมันเค้าเป็นโจรสลักเงือกที่ชอบเงินเพราะรู้ว่าจุดอ่อนของมนุษย์ อยู่ที่เงินทำให้เค้าเรียกค่าไถ่จากเมืองที่ปกครองและนำเงินไปซื้อเขต อิทธิพลจากพวกทหารเรือ
........................
【】 เปิดตำนานปลานักล่าจอมโหด แปลกประหลาดไร้ปราณีที่สุดกับ ปลาฉนากใบเลื่อย (KNIFETOOTH SAWFISH) 【】
มันน่าหัวเราะสิ้นดี..ดูโลกแห่งนี้สิมันเต็มไปด้วยน้ำ
ดูก็รู้ว่าใครเป็นราชาของโลกที่แท้จริง..."
อารอนเป็นมนุษย์เงือกปลา ฉนาก (Saw-tooth" Arlong)สกุลเดียวกับปลาฉลามเรียกว่า (Pristidae) มี ความพิเศษคล้ายครึงกับฉลามทั่วไปนั้นคือ สามารถเปลี่ยนฟันได้หลายชุดและมีครีบหลัง แต่ปลาฉนากจะ พิเศษกว่าตรงที่มีจงอย ปากคร้ายใบเลื่อยที่แหลมคมจึงมักเรียกว่า ฉลามใบเลื่อยมีประโยชน์สามารถใช้ในการล่าอาหารและต่อสู้ศัตรูในท้องทะเลได้ อารอนมีอาวุธอยู่หลายอย่างที่ล้วยมาจากธรรมชาติที่ร่างกายเค้าสร้างขึ้นจาก ภายในร่างกายทั้งจมูกและฟัน แต่ที่ร้ายกาจมีอยู่ 2 ชนิด คือฟันที่แหลมคม(Snapping)ที่สามารถสับเปลี่ยนได้หลายชุดและยังจะแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น ทุกครั้งที่เปลี่ยน อีกอย่างคือ ดาบใบเลื่อย คิริบาจิ(Kiribachi) ที่มีลักษณะคร้ายฟันฉลามแต่ไม่แข็งแกร่งมากนักถูกทำลายโดยลูฟี่นอกจากนี้ เค้ายังสามารถใช้น้ำในการโจมตีเข้าใส่ศัตรูโดยมีความรุนแรงเทียบเท่าลูก กระสุนเลยทีเดียว
อารอน ปัจจุบัน/ARLONG |
.....................................
【】นอกเรื่องวันพีชควมรู้รอบตัว【】
เปิดตำนานนักล่าที่ร้ายกาจและแปลกประหลาด ปลาฉนากจะงอยปากแคบ( Knifetooth sawfish)
ปลาฉนาก - Knifetooth Sawfish |
ปลาฉนาก หรือ ปลาขนาก (Pristidae) เป็นปลาจำพวกหนึ่งของปลาในชั้นปลากระดูกอ่อน จัดเป็นปลาขนาดใหญ่ มีรูปร่างคล้ายปลาฉลามมีซี่กรองเหงือก 5 ซี่ แต่มีส่วนหัวและหน้าอกแบนราบ ครีบหลังแบ่งออกเป็น 2 ตอน ครีบหลังอันแรกอยู่ค่อนไปทางหาง พื้นผิวลำตัวด้านหลังมีสีเทาอมเขียว ส่วนท้องมีสีขาว มีอวัยวะเด่นคล้ายกระบองแข็งยื่นยาวออกมา มีความยาวประมาณ 1 ใน 3 ของความยาวลำตัวและหาง และรอบส่วนแข็งนั้นมีซี่แหลมเล็กๆ อยู่โดยรอบคล้ายใบเลื่อย (Sawfish) ใช้ในการป้องกันตัวและเชื่อว่าใช้นำทางและหาอาหาร โดยจะใช้ฟันเลื่อยนี้ตัดอาหาร เช่น ปลา ให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ซึ่งขนาดและจำนวนของซี่ฟันขึ้นอยู่ตามชนิดพันธุ์
ปลาฉนากจะงอยปากแคบ ( Knifetooth sawfish) ปลากระดูกอ่อนชนิดหนึ่ง ในวงศ์ปลาฉนาก (Pristidae) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Anoxypristis cuspidata จัดเป็นปลาฉนากเพียงชนิดเดียวที่อยู่ในสกุล Anoxypristis มีรูปร่างเหมือนปลาฉนากทั่วไป แต่มีรูปร่างเพรียวกว่า ส่วนหัวแคบกว่า สีลำตัวเป็นสีน้ำตาลหรือสีเทา จะงอยปากแคบกว่าปลาฉนากจะงอยปากกว้าง (Pristis microdon) และมีจำนวนซี่ฟันมากกว่า คือ มีจำนวน 23-35 คู่
ขนาดโตเต็มที่ราว 4 เมตร เป็นปลาฉนากอีกชนิดหนึ่งที่สามารถปรับตัวให้อยู่ในน้ำจืดได้ พบตามชายฝั่งของทะเลอินโด-แปซิฟิก, ทะเลแดง, อ่าวเปอร์เซีย, ปาปัวนิวกินี, ออสเตรเลียทางตอนเหนือ, ญี่ปุ่นตอนใต้ รวมถึงปากแม่น้ำขนาดใหญ่ในประเทศไทยด้วย ปลาฉนากจะงอยปากแคบ จัดเป็นปลาที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างวิกฤตตามบัญชีของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN)
................................