ฉายา หนูน้อยเอปิส(Apis)
ค่าหัววันพีช ไม่มีการประกาศจับ(Unknown)
สังกัด กองทัพเรือรัฐบาลโลก
อาศัย เกาะเรือรบ(Warship Island)
อายุ 11 ปี
ค่าหัววันพีช ไม่มีการประกาศจับ(Unknown)
สังกัด กองทัพเรือรัฐบาลโลก
อาศัย เกาะเรือรบ(Warship Island)
อายุ 11 ปี
ส่วนสูง ประมาณ 135 cm
ผลปีศาจ ฮิโซะ ฮิโซะ (Hiso Hiso) สายพารามิเซีย/เหนือมนุษย์
ผลกระซิบ:สามารถรับรู้และได้ยินเสียงที่คนอื่นไม่ได้ยิน
ผลกระซิบ:สามารถรับรู้และได้ยินเสียงที่คนอื่นไม่ได้ยิน
เพื่อน ปู่ - โบคุเด็น(BOKUDEN)
เผ่าพันธุ์ มนุษย์
ปรากฏตัวใน One Piece :Thousand-Year Dragon Filler
- การผจญภัยลอสไอร์แลนตำนานเกาะมังกรพันปี
เอปิส(Apis) นั้นเป็นเพียงเด็กผู้หญิงธรรมดาที่มีผมสีทอง หน้าตาดูสดใสโดดเด่นที่ดวงตากลมโต สวมใส่เสื้อผ้าในแบบชนเผ่าโบราณประกอบด้วยเสื้อยาวสีเหลือง ประดับด้วยลูกไม้ สวมหมวกทรงแหลมและสวมรองเท้าสีแดง เอปิสนั้นแม้ว่าจะเป็นเด็กแต่ก็รักในการพจญภัยซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการได้ยินเสียงที่สัตว์คุยกันถึงความวิเศษของโลกอันกว้างใหญ่ และมักแสดงอาการเบื่อหน่ายอยู่เสมอเมื่อปู่ของเธอเริ่มเล่าประวัติของครอบครัวให้ฟัง
เอปิส(Apis) นั้นเป็นเพียงเด็กผู้หญิงธรรมดาที่มีผมสีทอง หน้าตาดูสดใสโดดเด่นที่ดวงตากลมโต สวมใส่เสื้อผ้าในแบบชนเผ่าโบราณประกอบด้วยเสื้อยาวสีเหลือง ประดับด้วยลูกไม้ สวมหมวกทรงแหลมและสวมรองเท้าสีแดง เอปิสนั้นแม้ว่าจะเป็นเด็กแต่ก็รักในการพจญภัยซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการได้ยินเสียงที่สัตว์คุยกันถึงความวิเศษของโลกอันกว้างใหญ่ และมักแสดงอาการเบื่อหน่ายอยู่เสมอเมื่อปู่ของเธอเริ่มเล่าประวัติของครอบครัวให้ฟัง
- ชื่อของเอปิส-APIS นั้นมาจากชื่อเทพเจ้าองค์หนึ่งของอียิปต์ โดยเทพองค์นี้คือเทพ โอสิริส ที่มีร่างอวตารเป็น "โค"หรือวัวนั่นเองโดยชาวอียิปต์ให้พระนามใหม่ว่าอาปิสและนับถือให้เป็นเทพแห่งพละกำลังและการสงคราม ในที่นี้มีความหมายเป็นนัยเกี่ยวกับการพูดคุยกับสัตว์ได้
............................【】 เปิดตำนานเทพเจ้าโบราณกาลจากดินแดนอียิปต์ เทพแห่งพละกำลังและความอุดมสมบูรณ์ เอปิส (GOD APIS) 【】
หนูน้อยเอปิสทูตแห่งเหล่าภูต / Apis |
เพราะมันขึ้นอยู่กับเรา...ว่าจะให้ความสำคัญกับมันแค่ไหนต่างหาก"
เอปิสเด็กน้อยตัวเล็กๆแห่งเกาะเรือรบ (Warship Island) ที่ภายนอกดูอ่อนแอแต่เธอเองก็เป็นหนึ่งในผู้มีพลังจากผลปีศาจโดยเธอเป็นผู้มี พลังจากผลปีศาจ ฮิโซะ ฮิโซะ Hiso Hiso : Whisper ผลกะซิบกะซาบ สายพารามิเซีย (Paramecia) มีพลังพิเศษในการเข้าใจภาษาสัตว์ทุกชนิดโดยเสียงที่ได้ยินไม่จำเป็นต้องเป็นเสียงร้องเพียงแค่มองตาหรือได้ยินเสียงเพืยงแผ่วเบาก็สามารถเข้าใจความหมายทั้งหมดได้โดยง่ายแต่โดยส่วนมากเอปิสมักเป็นฝ่ายได้ยินฝ่ายเดียวมากกว่าโดยเฉพาะมักได้รับการเตือนภัยจากอันตรายอยู่เสมอ แต่ความสามารถนี้อาจมีจุดอ่อนอยู่ที่การจำกัดเฉพาะสัตว์ที่อยู่บนพื้นดินเท่านั้นส่วนสัตว์ที่อยู่ใต้น้ำพลังจากผลปีศาจอาจไม่สามารถไปถึงได้
มังกรพันปี /SENNENRYU |
.................................
【】 นอกเรื่องวันพีชความรู้รอบตัว【】
เปิดตำนานเทพเจ้าอียิปต์โบราณ เอปิสจ้าวแห่งพละกำลัง (Ancient God Egypt APIS)
ชาวอียิปต์ให้ความสำคัญกับ "โค" มาก มีเทพนิยายเกี่ยวกับโคซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ และเป็นสัญลักษณ์ของพละกำลังของกษัตริย์ยอดนักรบของชาวอียิปต์ ชาวอียิปต์นับถือเทพเจ้าหลายองค์ โดยเชื่อว่า ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทั้งปวงที่จะส่งผลให้มนุษย์ได้รับความสุข หรือความหายนะนั้นเกิดจากการกระทำของเทพเจ้าทั้งสิ้น ดังนั้นแต่ละเมืองของอียิปต์จะมีเทพเจ้าประจำเมือง ชาวอียิปต์นับถือ เร (Re) เป็นเทพเจ้าสูงสุด ซึ่งต่อมาก็ได้กลายเป็น สุริยเทพอามอน (Amon) และเป็น เทพผู้สร้างมนุษย์ เทพอามอนจะปรากฏพระองค์ในรูปของแกะตัวผู้ หรือมีร่างเป็นมนุษย์แต่มีศีรษะเป็นแกะ
เทพเจ้าที่ได้รับการนับถือทั่วประเทศมี 3 องค์ คือ เทพโอสิริส (Osiris) และเทพีไอสิส (Isis) และเทพโฮรัส (Horus) เทพโอสิริสได้รับการยกย่องให้เป็นเทพผู้คุ้มครองแม่น้ำไนล์ และเป็นผู้ตัดสินบาปบุญคุณโทษของวิญญาณทั้งปวง เทพีไอสิส เป็นชายาของเทพโอสิริส เป็นเทพีผู้ปกป้องคุ้มครองเด็กๆ ส่วนเทพโฮรัสเป็นโอรสของเทพและเทพีทั้ง 2 องค์นั้น นอกจากนี้ชาวอียิปต์ ยังมีความเชื่อว่าสัตว์บางชนิดเป็นที่สิงสถิตของเทพเจ้าต่างๆ จึงบูชาสัตว์เหล่านั้นด้วย ชาวอียิปต์เชื่อว่าวิญญาณของเทพโอสิริสสิงอยู่ในร่างของโค ดังนั้นชาวอียิปต์จึงนับถือ "โค" เป็นเทพเจ้าและให้นามว่าอาปิส (Apis) โดยยกย่องว่าเป็นเทพเจ้าผู้มีพละกำลัง และมีความสามารถในการสงคราม
เฮโรโดตุส (Herodotus) นักประวัติศาสตร์ชาวกรีก ที่เดินทางเข้าไปในอาณาจักรอียิปต์ ได้บันทึกเกี่ยวกับลัทธิการบูชาเทพเจ้าอาปิสไว้อย่างละเอียด โดยเล่าว่าชาวอียิปต์จะต้องคัดเลือกลูกโคตัวผู้ที่มีลักษณะดี มาเป็นตัวแทนเทพเจ้าอาปิส คือต้องคัดเลือกลูกโคที่เป็นลูกโทน และต้องเป็นลูกโคที่คลอดจากแม่โคที่ไม่สามารถให้กำเนิดลูกได้อีก (คือไม่มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน) ต้องเป็นโคที่มีสีดำ มีจุดสีขาวเป็นรูปสามเหลี่ยมบนหน้าผาก และมีสัญลักษณ์รูปนกอินทรีย์กำลังบินอยู่บนหลัง ขนที่หางต้องเป็นคู่ และยังมีสัญลักษณ์ที่เป็นมงคลอื่นๆ อีก เช่น มีสัญลักษณ์รูปพระจันทร์เสี้ยวอยู่บริเวณคอ เป็นต้น
เมื่อได้พบลูกโคที่มีคุณลักษณะดังกล่าว (ไม่ต้องครบทุกลักษณะ) แล้วก็จะนำลูกโคมาเลี้ยงดูอย่างดีในวัด โดยคณะนักบวช จนครบ 40 วัน แล้วนำไปลงเรือเพื่อล่องไปตามแม่น้ำไนล์อันศักดิ์สิทธิ์ จนไปถึงเมืองเมมฟิส (Memphis) ในอียิปต์ตอนล่าง เพื่อประดิษฐานให้เป็นเทพเจ้าอาปิส นอกจากนี้แม่ของลูกโคที่ได้รับคัดเลือก ก็ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีด้วย บางตำราว่าลูกโคที่ได้รับคัดเลือกเป็นเทพเจ้าอาปิสจะถูกฆ่า (หลังจากเลี้ยงไว้ช่วงหนึ่ง) เพื่อประกอบพิธีกรรมเกี่ยวกับความอุดมสมบูรณ์ และชาวอียิปต์ก็จะเริ่มต้นแสวงหาลูกโคตัวใหม่มาแทนที่ แต่บางตำราก็กล่าวว่าลูกโคที่ได้รับคัดเลือก จะได้รับการเลี้ยงดูในฐานะเทพอาปิสจนสิ้นอายุขัย
เรื่องราวเกี่ยวกับโคอาปิส เริ่มปรากฏเด่นชัดขึ้น เมื่อปี ค.ศ. 1850 เมื่อนักโบราณคดีชาวฝรั่งเศส คือ นายออกุส มาเรียต (Auguste Mariette) ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลอียิปต์ ให้ไปทำการสำรวจและขุดค้นพีระมิดในเมืองกิซา (Giza) และไปสำรวจขุดค้นสุสานใหญ่ของเมืองเมมฟิส (Memphis) โดยได้ขุดพบสฟิงซ์ (Sphinx) ขนาดใหญ่ เรียงอยู่ 2 ข้างถนน ต่อจากนั้นเขาได้ขุดพบสุสานของโคอาปิส ซึ่งเป็นโคศักดิ์สิทธิ์ของเมืองเมมฟิส เป็นสัญลักษณ์ของพละกำลังของเทพเจ้า และเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ จากการอ่านเอกสารโบราณ เขาสามารถสรุปได้ว่า ตั้งแต่สมัยราชอาณาจักรเก่า (Old Kingdom) คือราว 2686-2180 ปีก่อน ค.ศ. จนถึงสมัยราชอาณาจักรใหม่ (New Kingdom) คือราว 1567-1085 ปีก่อน ค.ศ. นั้น ฟาโรห์ (กษัตริย์อียิปต์) จะต้องเสวยเนื้อของโคอาปิส เพื่อช่วยให้เป็นหนุ่ม และมีพละกำลังมากขึ้นโดยการดูดกลืนอำนาจ และพละกำลังจากโคศักดิ์สิทธิ์นี้
จากผลการขุดค้นสุสานของฟาโรห์ รามเสสที่ 2 (Ramesses II) ซึ่งอยู่ในช่วง 1292-1225 ปีก่อน ค.ศ.) นั้น มาเรียตได้ขุดพบซากโคอาปิสที่ได้รับการทำมัมมี่ (แต่เป็นส่วนที่เหลือจากพิธีกินเลี้ยงที่ศักดิ์สิทธิ์) บรรจุอยู่ในหีบศพที่ทำด้วยหินจำนวนหลายใบ และในแต่ละใบ มาเรียตไม่ได้พบส่วนศีรษะของวัวเลย จากบันทึกของเฮโรโดตุส นักประวัติศาสตร์ชาวกรีกทำให้เราทราบว่า สมัยราชอาณาจักรใหม่ ตั้งแต่ราชวงศ์ที่ 26 เป็นต้นมา ได้มีการทำมัมมี่ของโคอาปิสทั้งตัว แสดงว่าในช่วงนี้ฟาโรห์ไม่ได้เสวยเนื้อโคอาปิสแล้ว และอาจจะมีการใช้วัวตัวอื่นแทนก็ได้ อย่างไรก็ตามโคอาปิสจะถูกฆ่าให้ตายก่อนที่จะแก่ เพื่อให้คงพละกำลังและอำนาจเพียงพอที่จะถ่ายทอดให้ฟาโรห์ได้
นอกจากนี้มาเรียตยังได้พบจารึกที่ระบุว่าในสมัยหลัง (ราว 730-332 ปีก่อน ค.ศ.) โคอาปิสจะถูกปล่อยให้ตายเองตามอายุขัย เมื่อโคอาปิสตายก็จะมีการส่งข่าวไปทั่วประเทศอียิปต์ เพื่อให้ประชาชนบริจาคเงินช่วยในการฝังศพโคศักดิ์สิทธิ์ ซากโคจะถูกนำไปทำความสะอาด และอาบยาเพื่อทำมัมมี่ จากหลักฐานที่ขุดพบ ปรากฏว่าห้องอาบยาอยู่ติดกับห้องที่เลี้ยงโคอาปิส เนื่องจากได้พบแผ่นหินอ่อนและอ่าง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการอาบยา การอาบยาต้องใช้เวลาถึง 70 วัน เมื่ออาบยาเสร็จแล้วก็จะถูกนำไปยังสุสานใหญ่ที่เมืองซักการา (Saqqara) ซึ่งเป็นสุสานใหญ่ของเมืองเมมฟิส เพื่อประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์เป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นชาวอียิปต์ก็จะเริ่มต้นแสวงหาลูกโคตัวใหม่ที่มีคุณลักษณะตามตำราให้มาแทนที่โคอาปิสตัวเก่า นับว่าชาวอียิปต์มีจินตนาการเกี่ยวกับโคได้อย่างน่ามหัศจรรย์
ขอขอบคุณ ศ.ดร.ผาสุข อินทราวุธ
...............................