วันพีช Heart Pirates_ทราฟาลก้า ลอว์_Trafalgar Law ★トラファルガー・ロー

WANTED 7 เทพโจรสลัด Trafalgar Law 
ฉายา ศัลยแพทย์แห่งความตาย
  (SURGEON OF DEATH)
 -  หมอยมทูต ลอว์-
( DARKNESS DOCTOR )

ค่าหัววันพีช 440,000,000

อายุ  26 ปี /เกิด 6 ตุลาคม

- ที่นอร์ธบูล(North Blue)

ส่วนสูง 191 cm กรุ๊บเลือด F

เรือ เรือดำน้ำ(Submarine )

ตำแหน่ง 7 เทพโจรสลัด(Shichibukai)
-  กัปตันกลุ่มโจรสลัดฮาร์ท(Caption Heart Pirates) 
อาวุธ ดาบยาว(Nodachi)

ผลปีศาจ โอเปะ โอเปะ(Ope Ope)พารามิเซียในตำนาน

ผลผ่าตัด : มีความสามารถในการแยกชิ้นส่วนร่างกายสิ่งมีชีวิต
ลูกเรือ  ปีโป้(Bepo) ,จีนบาท(JeanBart) ,ซาชิ(Shachi) ,เพนกวิ้น (Penguin)

เผ่าพันธุ์ มนุษย์

                ประวัติ.ทราฟาลการ์ ลอว์ (Trafalgar Law)หลังผ่านไป 2 ปีเค้าเติบโตขึ้นดูเป็นผู้ใหญ่และดูแข็งแกร่งขึ้นมาก แต่ยังคงสวมหมวกหนังสัตว์ลายจุดปิดบังผมสีฟ้าเข้มอยู่ตลอดและสวมเสื้อคลุมสี ดำมีลายกลุ่มโจรสลัด ฮาร์ท ติดไว้ด่านล่างอย่างเด่นชัดซึ่งนั่นอาจเป็นการแสดงให้เห็นว่าเค้าเป็นตัวของ ตัวเองไม่ขึ้นกับใคร นิสัยของเค้ายังคงดูลึกลับ พูดน้อย ไม่แสดงอาการดีใจหรือเสียใจให้ได้เห็น จนในบางครั้งทำให้ลอว์ดูเหมือนเป็นคนโหดเหี้ยม เลือดเย็น ไม่สนว่าใครจะเป็นหรือตายขอเพียงบรรลุเป้าหมายการเสียสละก็เป็นเรื่องธรรมดา
............................
 【】 เปิดตำนานโจรสลัด วิปริต ที่โด่งดังที่สุด กัปตันเอ็ดเวิร์ด ลอว์ (Edward Low) กับความชอบส่วนตัว ชอบการทรมาณเชลยให้ตายอย่างช้าๆ 【】

 

               หมอยมทูต ลอว์ แห่งนอร์ทบลู เป็นผู้มีพลังจากผลไม้ปีศาจ โอเปะโอเปะ(Ope Ope) : Operation ผลผ่าตัดสายพารามิเซีย เป็นมนุษย์ผ่าตัด ที่สร้างห้องผ่าตัดขึ้นจากมือข้างหนึ่งและใช้มืออีกข้างผ่าตัดสิ่งมีชีวิตได้ตามใจชอบ พลังของลอว์เมื่อครั้งแรกที่ปรากฏแม้จะดูแปลกแต่ก็มีขอบเขตการโจมตีที่ไม่กว้างทำให้มองเห็นจุดอ่อนที่การโจมตีในระยะไกล แต่ในปัจจุบันลอว์เติบโตขึ้นพลังของเค้าทรงพลังและมีขอบเขตที่กว้างไกลทุกครั้งที่ทำการโจมตีศัตรูเค้าไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงขอบเขตของห้องผ่าตัดจะกางม่านพลังเพื่อสร้างการควบคุมที่สมบูรณ์แบบหรือจะโจมตีโดยดาบประจำตัวก็สามารถแยกชิ้นส่วนได้โดยง่ายเพราะทุกระยะที่ตามองเห็นล้วนเป็นห้องผ่าตัดของเค้าที่สามารถตัดผ่านทั้งสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิต ให้แยกออกจากกันหรือจะตัดต่อให้ติดกันก็ทำได้ง่ายดั่งใจคิด เมื่อลอว์เติบโตขึ้นพลังขั้นที่สองถูกแสดงออกมาให้ได้เห็นเค้าสามารถทำการแยกหัวใจเพื่อสลับตำแหน่งระหว่างคนหลายคนพร้อมกันได้ และยังแยกหัวออกจากร่างโดยที่คนๆนั้นยังมีชีวิตอยู่  โดยผลของพลังนี้จะยังคงมีผลอย่างถาวรจนกว่าลอว์จะต้องการเปลี่ยนแปลงมัน นอกจากการแยกชิ้นส่วนมนุษย์ที่มีขนาดใหญ่ ลอว์ยังสามารถแยกได้แม้กระทั่งเม็ดเลือดหรือว่าเชื้อโรคที่อยู่ในกระแสเลือดเพื่อทำการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆให้หายได้อย่างปาฏิหาริย์
          ผลพารามิเซียในตำนาน พลังผลโอเปะ โอเปะ ถูกกล่าวถึงเป็นครั้งแรก ถึงการเป็นผลสายพารามิเซียในตำนานซึ่งพลังในตำนานมักจะถูกแฝงมาเพื่อเสริมพลังหลักให้มีพลัง โดดเด่น มากขึ้นจนถึงขั้นมหัศจรรย์กันเลยทีเดียว พลังผลผ่าตัด มีพลังเด่นในการเครื่อนย้ายวัตถุ รวมทั้งอวัยวะภายในร่างกายมนุษย์ไม่ว่าส่วนใดก็สามารถเครื่อนย้าย ตัดต่อได้ง่ายดั่งใจคิด แม้แต่หัวใจก็ยังเครื่อนย้ายไปเก็บไว้ที่อื่นได้ซึ่งนั่นจะทำให้ร่างไม่มีวันตายโดยเฉพาะหากเป็นผู้มีพลังจากผลปีศาจที่มีร่างไม่คงอย่างพวกสายโรเกีย ผู้นั่นอาจจะไปถึงขั้นอมตะไม่มีวันตายกัยเลยทีเดียว
            จุดอ่อน : ทุกครั้งที่ลอว์ต้องการแสดงพลังในการโยกย้ายอวัยวะศัตรูเค้าจำเป็นต้องใช้นิ้วในการระบุตำแหน่งซึ่งในบางครั้งหากศัตรูเครื่อนที่เร็วหรือมองไม่เห็นศัตรูการโยกย้ายก็จะไม่เกิดขึ้น
   -  พลังของลอว์เป็นการสับเปลี่ยน โยกย้าย และตัดต่อ แต่ไม่สามารถสร้างชิ้นส่วนหรืออวัยวะที่ถูกทำลายไปแล้วให้กลับมาเหมือนเดิมได้

หมอศัยกรรมแห่งความตาย - Surgeon of Death

"จุดหมายปลายทางที่ยิ่งใหญ่.. มักแลกมาด้วยเลือดและน้ำตา

ผู้ที่ไม่รู้จักอดทนจะร้องขอในปาฏิหาริย์....

เพราะเขาหวังจะไปถึงเป้าหมาย โดยไม่ใช้ความพยายามใดเลย"

               ลอว์ กัปตัน กลุ่มโจรสลัด ฮาร์ท หลังผ่านช่วงเวลาแห่งการเลี่ยนแปลงของยุคสมัยเป็นเวลา 2 ปี  ทราฟาลการ์ ลอว์ ปรากฏตัวอีกครั้งบนเกาะที่มีชื่อว่า พั้งฮาซาร์ด พร้อมประกาศก้องให้ทุกคนในดินแดนโลกใหม่ได้รู้ว่าเค้าคือ ตัวอันตรายที่พร้อมจะเป็นศัตรูกับโจรสลัดทุกคน โดยการนำหัวใจของโจรสลัดกว่า 100 คนไปมอบให้กับรัฐบาลโลกเพื่อแลกกับตำแหน่ง 7 เทพโจรสลัด เพื่อห้ได้มาซึ่ง สิทธิพิเศษในการเดินเรืออย่างอิสระ และสามารถตั้งกลุ่มปกครองตนเองได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ทั้งหมดนั่นไม่ใช่สิ่งที่ลอว์ต้องการเค้าต้องการเพียงอำนาจที่มากพอที่จะแยกตัวเค้าให้เป็นอิสระจากพันธนาการที่ผูกมัดตัวเค้ากับองค์กรที่เค้าสังกัดอยู่ซึ่งก็คือกลุ่มดองกี้โฮเต้ แฟมิลี่ ที่ซึ่งเค้ามีตำแหน่งเป็นถึง1ใน4 หัวหน้ากลุ่มองค์รักษ์ที่มีชื่อว่า กลุ่มฮาร์ท-โพธิแดง(Harte)
               เมื่อครั้งแรกที่ลอว์ปรากฏตัวที่หมู่เกาะซาบอดี้ เค้าเองได้เริ่มแผนการใหญ่ที่จะแยกตัวออกจากองค์กรที่เค้าสังกัดอยู่...โดยในตอนนั้นเค้าจับตามองหมวกฟาง ลูฟี่เป็นพิเศษและเริ่มสร้างความสนิทสนมด้วยการช่วยเหลือในบางครั้งเพื่อสร้างบุญคุณที่ไม่จำเป็นต้องตอบแทนขอแค่เพียงไว้ใจและฟังในสิ่งที่เค้าพูดหรือขอร้องให้ทำ...แค่นั้นก็เพียงพอสำหรับการตอบแทนในสิ่งที่เค้าเคยทำให้มาในอดีต ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามที่เค้าคิด การพบกันอีกครั้งระหว่างลอว์กับลูฟี่ที่ พั้งก์ฮาซาร์ด ลอว์ได้เสนอแผนการใหญ่ในการโค่นล้มมหาอำนาจในโลกใหม่ให้ลูฟี่ได้รู้และชักชวนให้มาร่วมมือเป็นพันธมิตรกันซึ่ง ลูฟี่ที่ถือน้ำใจความเป็นเพื่อนมาเป็นอันดับหนึ่งเมื่อเพื่อนขอให้ช่วยลูฟี่เองก็ไม่มีทางปฏิเสธอย่างแน่นอนและพร้อมที่จะช่วยอย่างสุดกำลังแม้ว่าศัตรูในครั้งนี้จะเป็น ไคโดแห่งร้อยอสูรก็ตามที

ดี. ลอว์ วัยเด็ก - D. Water Law

                เมื่อครั้งยังเด็กอดีตของลอว์ นั้นดำมืดและเต็มไปด้วยปริศนาที่ไม่น่าเชื่อ มันเป็นโลกที่แตกต่างซะจนไม่น่าเชื่อว่าเด็กอย่างลอว์จะผ่านมันมาได้ มันเริ่มต้นขึ้น เมื่อกว่า 16 ปีก่อน ณ. เมืองที่มีชื่อว่าเมืองสีขาวใน ทะเลนอร์ทบลู ลอว์อาศัยอยู่กับ พ่อ แม่ ที่มีอาชีพเป็นหมอและมีน้องสาว 1 คน ตั้งแต่เกิดลอว์มีร่างกายอ่อนแอและป่วยมาตลอดทำให้เค้าได้รับการฝึกอบรมให้รู้จักวิชาการแพทย์จากทั้ง พ่อ และแม่ เพื่อหวังว่าสักวันเค้าจะใช้มันช่วยเยียวยา รักษา ร่างกายของเค้าเองให้หายป่วยจากโรคประหลาดที่ไม่มีทางรักษาหาย ชื่อของมันคือโรค "ตะกั่วอำพัน"  โรคร้ายที่แฝงตัวมาพร้อมแร่ตะกั่วอำพันอันล้ำค่า โรคร้ายนี้ไม่เพียงกัดกินร่างกายของผู้ป่วยทีละน้อยแต่ยังทำร้ายคนในครอบครัวและคนใกล้ชิด ทำให้เป็นที่น่ารังเกียจจากผู้พบเห็นจนในที่สุดก็ถูกขับไล่ให้ออกไปจากสังคมเพราะเกรงว่าจะติดโรคร้ายนี้ไปด้วย จนในที่สุดความกลัวได้แผ่ขยายจนกลายเป็นสงครามจากความ กลัว และความเกียจชัง เพียงพริบตา อาณาจักรสีขาว เฟรแวนซ์ อันมั่งคั่งด้วยสินแร่ ตะกั่วอำพัน ที่ครั้งนึงได้ชื่อว่า แร่แห่งเวทมนต์ที่บันดารทุกสิ่งดั่งใจคิด  ก็ย่อยยับอย่างไม่อาจฟื้นคืนดังเดิมได้ใหม่ ดินแดนที่ครั้งหนึ่งได่ชื่อว่าสวรรค์บนดินกลับกลายเป็นนรกบนดินไปในฉับพลัน ผู้คนที่อาศัยอยู่ภายในต้องทนทุกข์กับโรคร้ายและความหิวโหย ซ้ำยังต้องหนีตายจากการตามล่าอย่างไม่หยุดหย่อนของผู้ที่หวาดกลัวว่าจะติดโรค ที่มุ่งหวังจะกำจัดทุกคนให้สิ้นไป โดยหนึ่งในนั้นก็มี ลอว์และครอบครัวรวมอยู่ด้วย
         เมื่อลอว์ อายุได้ 10 ปี หลังหลบซ่อนตัวมาเป็นเวลานาน รัฐบาลได้ยื่นข้อเสนอให้กับผู้ติดเชื้อที่หลบซ่อนตัวอยู่ให้ออกมาเพื่อทำการรักษา และจะส่งเด็กๆให้ลี้ภัยไปอยู่ในเมืองอื่น นี่เป็นอีกครั้งที่ ลอว์รู้สึกว่ามนุษย์ก็ไม่ได่เลวร้ายอะไร แต่..ไม่นานศัทธาในตัวมนุษย์ของลอว์ก็หมดลงเมื่อทุกคำที่รัฐบาลพูดมาล้วนเป็นคำหลอกลวงมันเป็นเพียงคำพูดที่ทำให้ตายใจแล้วหลอกไปฆ่าให้หมดในครั้งเดียว
       ทุกคนตายหมด ....ทั้ง พ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อนฝูง ตายหมดไม่มีเหลือ ความคิดของลอว์ในตอนนี้ รู้สึกว่ามนุษย์นั้นช่างชั่วร้าย เลวทราม อยู่ไปก็ต้องฆ่าคนอื่นล่ำไป เพราะฉนั้นต้องฆ่าพวกมันให้หมด ต้องฆ่ามนุษย์โสโครกให้มากที่สุดก่อนที่จะต้องตาย 
       หลังเฝ้ามองเปลวเพลิงลุกไหม้ร่าง ครอบครัวอันเป็นที่รักอยู่นานเมื่อไฟมอดดับลง ลอว์ลุกขึ้นเดินต่อไปยังท่าเรือโดยหวังว่าจะเจอพวกทหารเลวที่นั่น แต่เมื่อไปถึงเค้ากลับได้พบครอบครัวใหม่ ที่ในอนาคตจะมอบทั้ง พลัง และนำทางสู่ 

อนาคตที่จะเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบให้ต่างไปจากเดิม....

...............................

【】 นอกเรื่องวันพีชความรู้รอบตัว 【】

       เอ็ดเวิร์ด ลอว์ (Edward Low)  ฉายา " Ned " Low ศตวรรษที่ 18

          กัปตันเอ็ดเวิร์ด “เน็ต” ลอว์ โจรสลัดผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงปลายของยุคโจรสลัด เขาเกิดในช่วงปี 1690 ในย่านเวสมินเตอร์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เนื่องจากมีฐานะยากจนเขาจึงเป็นโจรลักเล็กขโมยน้อยมาตั้งแต่เด็ก หลังจากนั้นเขาก็ย้ายไปตั้งรกรากที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ มีภรรยาหนึ่งคนแต่เธอก็ต้องมาเสียชีวิตในขณะที่คลอดบุตรในช่วงปลายปี 1719 หลังจากนั้นสองปีเขาก็ได้กลายมาเป็นโจรสลัดกระทำการอยู่แถบนอกชายฝั่งนิว อิงแลนด์ หมู่เกาะอะโซรส์และแคริเบียนเขามีเรือลำเล็ก ๆ ภายใต้บัญชาการอยู่ประมาณ 3 – 4 ลำ แต่สามารถเข้ายึดเรือมาได้กว่าร้อยลำในช่วงเวลาสั้น ๆ เรือส่วนใหญ่ที่ถูกยึดได้มักจะถูกเผาทิ้ง 
           แม้ว่าเขาจะกระทำการเป็นโจรสลัดแค่ 3 ปีแต่การกระทำของเขาก็เป็นที่เลื่องลือไปทั่ว อันเนื่องมาจากการกระทำอันโหดเหี้ยมของเขาในช่วงเวลานั้น เขาทรมาณและทำร้ายตัวประกันก่อนจะลงมือสังหาร นักเขียนชื่อดังอย่าง Sir Arthur Conan Doyle กล่าวถึงเขาเอาไว้ว่า “ป่าเถื่อน สิ้นคิด วิปริตและทารุณอย่างไม่น่าเชื่อเลย” มีการคาดการณ์กันว่า เอ็ดเวิร์ด ลอว์น่าจะเสียชีวิตในช่วงปี 1724ชีวิตที่อังกฤษอ้างอิงจากหนังสือ A General History of the Pyrates เขียนโดย Cpt. Charles Johnson ได้บรรยายถึงตัวตนของ เอ็ดเวิร์ด ลอว์ เอาไว้ว่า เขาเป็นคนไม่มีการศึกษา หาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งและเป็นคนขี้โกง เที่ยวเดินกร่างไปทั่ว เมื่อตอนที่เขาเป็นหนุ่มเขาเป็นนักล้วงกระเป๋าและนักพนัน คนในครอบครัวของเขาส่วนใหญ่ก็เป็นหัวขโมย 

เอ็ดเวิร์ด ลอว์ - Edward Low

           ในปี 1707  ริชาร์ด พี่ชายของเขาถูกตัดสินประหารชีวิต  จากคดีที่ปีนเข้าไปขโมยของในบ้านหลังหนึ่ง ลอว์จึงใช้ชีวิตเพียงลำพัง เลี้ยงชีพโดยการล้วงกระเป๋าและเที่ยวลักขโมยนานวันเข้าก็เริ่มเบื่อหน่ายกับชีวิต เขาจึงตัดสินใจเดินทางเพียงลำพังไปยังโลกใหม่ (ทวีปอเมริกา)
            ในช่วงปี 1710 เขาเดินทางไปหลายต่อหลายที่ก่อนที่จะลงหลักปักฐานที่ บอสตัน วันที่ 12 สิงหาคม 1714 เขาก็แต่งงานกับ Eliza Marble มีลูกสองคน คนหนึ่งเป็นบุตรชายเสียชีวิตขณะที่ยังเป็นทารก และบุตรสาวชื่อ Elizabeth เกิดในช่วงฤดูหนาวปี 1719 แต่แล้ว Eliza ภรรยาของ Low ก็เสียชีวิต ทิ้งให้ Low อยู่กับบุตรสาวเพียงลำพัง การเสียชีวิตของภรรยาส่งผลต่อ Low อย่างมาก 
         หลังจากที่ออกเดินเรือมาเป็นโจรสลัด เขามักแสดงความรู้สึกเสียใจที่ทิ้งลูกสาวเอาไว้เบื้องหลัง และปฏิเสธที่จะรับชายที่แต่งงานแล้วเข้ามาเป็นลูกเรือของเขาด้วย รวมทั้งยังช่วยให้พวกผู้หญิงกลับถึงท่าเรือโดยปลอดภัยด้วย ในช่วงแรกเขาประกอบอาชีพที่สุจริตโดยการทำงานเป็นคนขึงใบเรือ 
        ช่วงต้นปี 1722 เขาก็เข้าร่วมกับแก๊งชายฉกรรจ์ 12 คนลงเรือ sloop ลำหนึ่งมุ่งหน้าสู่ Honduras เพื่อนำท่อนซุงกลับไปขายต่อที่ บอสตัน ลอว์ ทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมคนงานขนถ่ายไม้ซุง วันหนึ่งเขากลับไปยังเรือที่พักเพราะรู้สึกหิว แต่ถูกห้ามไว้โดยกัปตันของเรือทำให้ต้องรอก่อนเขาจึงจะกินได้ เมื่อได้ยินดังนั้น ลอว์ จึงหยิบปืนขึ้นมายิงไปที่กัปตันของเรือแต่พลาดเป้า เขาจึงเล็งไปยิงผู้ติดตามของกัปตันคนหนึ่งเข้าที่คอ 
        เหตุนี้จึงทำให้เขาและลูกน้องคนที่เหลือถูกขับออกจากเรือ หนึ่งวันถัดจากนั้น Low และลูกแก๊ง 12 คน หนึ่งในนั้นคือ Francis Farrington Spriggs (ภายหลังได้กลายมาเป็นโจรสลัดอีกคนหนึ่ง) ได้เข้ายึดเรือลำเล็กลำหนึ่งนอกชายฝั่งเกาะ Rhode ในขณะที่เข้ายึดเรือลำนั้นเขาได้ฆ่ายามเฝ้าเรือไปคนหนึ่ง Low และลูกเรือจึงกลายมาเป็นโจรสลัดเต็มตัว และตั้งใจว่า “จะชูธงดำและประกาศสงครามกับคนทั้งโลก”ร่วมมือกับ จอร์จ โลว์เธอร์ เหล่าโจรสลัดป้ายแดงมุ่งหน้าสู่เกาะ Grand Cayman พวกเขาก็ได้พบกับกองกำลังโจรสลัดที่อยู่ภายใต้บัญชาการของ จอร์จ โลว์เธอร์ กัปตันของเรือ Happy Delivery Lowther อยู่ในช่วงต้องการหาคนเพิ่มเขาจึงเชื้อเชิญให้ ลอว์ และพรรคพวกมาร่วมกับเขาด้วย พวกเขาเข้ากันได้ดี เอ็ดเวิร์ด ลอว์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองผู้บัญชาการ ภายในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ เรือ Happy Delivery สามารถปล้นเรือ Greyhound ขนาด 200 ตันที่มีเส้นทางออกจาก Boston นับเป็นรางวัลใหญ่มากทีเดียว
          ไม่นาน เอ็ดเวิร์ด ลอว์ ก็ได้รับการเลื่อนชั้นเป็นผู้บัญชาการของเรือ sloop ซึ่งมีปืนใหญ่ 18 กระบอก นับเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ Low จากคนงานขนไม้กลายมาเป็นกัปตันเรือภายในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นแยกทางกับ Lowtherหลังจากที่เหล่าโจรสลัดไปปลีกวิเวกอยู่บนเกาะแห่งหนึ่งได้ไม่นานพวกเขาก็ถูกโจมตีโดยชนชาวพื้นเมืองกลุ่มใหญ่บนเกาะนั้น 
       แม้ว่าพวกเขาจะหนีมาได้แต่ว่าก็ต้องสูญเสียของที่ปล้นมาได้ไปเป็นจำนวนมาก รวมทั้งเรือ Happy Delivery ที่ถูกเผาด้วย ด้วยเรือที่เหลืออยู่พวกเขาก็กลับไปออกทะเลอีกครั้งและปล้นเรือมาได้จำนวนมาก 

          พฤษภาคม 1722 เอ็ดเวิร์ด ลอว์ และ จอร์จ โลว์เธอร์ ก็ตัดสินใจแยกทางกันด้วยดีและยังคงเป็นพันธมิตรต่อกัน เอ็ดเวิร์ด ลอว์ มีเรือ Brigantine 1 ลำเป็นเรือติดอาวุธมีปืนใหญ่ 2 กระบอก ปืนเล็ก (Swivel gun) อีก 4 กระบอกโดยมีลูกเรือภายใต้บัญชาการ 44 คนความสำเร็จของ Lowด้วยระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปี Edward Low ก็กลายเป็นโจรสลัดที่ประสบความสำเร็จมากมายและกลายเป็นโจรสลัดที่น่าเกรงขามมากที่สุดในโลก เขาและลูกเรือออกปล้นสะดมกินบริเวณกว้างตั้งแต่ทางชายฝั่งตะวันตกของอัฟริกาไปจนถึงบราซิล และจากทางตอนเหนือไปจนถึงทางใต้สุดของอเมริกา ธงโจรสลัดของเขาเป็นที่รู้จักไปทั่ว ธงพื้นดำมีรูปโครงกระดูกสีแดงอยู่ตรงกลางสร้างความหวาดหวั่นไปทั่วท้องทะเลธง 
         เอ็ดเวิร์ด ลอว์ เป็นโจรสลัดผู้มีความเฉลียวฉลาด เขารู้ว่าเวลาใดควรจะทำศึกด้วยวิธีใด และจะใช้กำลังเข้าสู้ก็ต่อเมื่อจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น เขายึดธงมาจากเรือหลายประเภท และนำเอาธงมาใช้ให้เหมาะสมตามสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นธงสเปน ธงอังกฤษ หรือธงของชาติใดก็ตาม ที่เขาคิดว่าเหยื่อของเขาจะมาจากชาตินั้น ๆ  เมื่อเรือของเหยื่อแล่นเข้ามาอยู่ในระยะ เขาก็จะชูธงโจรสลัด ขึ้นทันทีและเปิดการโจมตี ทำให้เรือหลาย ๆ ลำต้องยอมจำนน ลอว์ มักชนะข้าศึกด้วยเล่ห์เหลี่ยมเขาใช้เรือลำเล็ก ๆ เพียงไม่กี่ลำในการโจมตีศัตรูเขาใช้การพูดข่มขู่เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ เมื่อเขาต้องการเสบียงเขาก็จะส่งผู้นำสารออกไปเพื่อขู่ว่าจะโจมตีหากเหยื่อไม่ยอมทำตาม บางครั้งก็จะใช้ตัวประกันในการข่มขู่ด้วยโดยที่เขาไม่จำเป็นต้องยิงปืนเลยแม้แต่นัดเดียว โดยมากแล้วเขามักจะคืนตัวประกันกลับไปโดยไม่ทำอันตรายใด ๆ อาจเพราะเกรงว่าหากทำอะไรไม่ดีคำขู่ของเขาอาจจะใช้ไม่ได้ผลต่อไปในอนาคต
          ความอำมหิตของ เอ็ดเวิร์ด ลอว์ เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาเผาเรือลำหนึ่งทิ้งเมื่อเขาไม่ต้องการเรือลำนั้นอีกต่อไป เขาสั่งให้ผูกพ่อครัวของเรือลำนั้นติดไว้กับเสากระโดงเรือและจุดไฟเผาทั้งเป็นเหตุผลเพราะพ่อครัวคนนี้ชอบทอดอาหารทำให้มีกลิ่นน้ำมันติดตัวออกมาด้วย การกระทำเช่นนี้สร้างความบันเทิงให้กับเขาและพวกลูกเรืออย่างมาก 

        อีกเหตุการณ์หนึ่ง เอ็ดเวิร์ด ลอว์ และลูกเรือยึดเรือสัญชาติโปรตุเกสเอาไว้ได้ บาทหลวงสองคนของเรือถูกจับแขวนเอาไว้ที่เสากระโดงเรือและถูกสะบัดไปมาจนพวกเขาเสียชีวิตคาเชือก ส่วนผู้โดยสารชาวโปรตุเกสคนหนึ่งที่มองดูความตายของเพื่อนร่วมทางด้วยความเวทนา ถูกลูกเรือของ ลอว์ จับหั่นเป็นชิ้น ๆ ส่วนกัปตันของเรือโปรตุเกสลำนี้ถูกจับตัดลิ้น  ลอว์ สั่งให้เอาลิ้นของกัปตันผู้นี้ไปปรุงอาหารและสั่งให้กัปตันของเรือกินลิ้นตัวเอง  ลอว์ สั่งฆ่ากัปตันและลูกเรือทั้งหมด 32 คน อีกเหตุการณ์หนึ่งเขายึดเรือโจรสลัดสัญชาติสเปนเอาไว้ได้ บนเรือสเปนลำนั้นมีนักโทษชาวอังกฤษอยู่บนเรือเป็นจำนวนมาก  ลอว์ สั่งให้ปล่อยนักโทษชาวอังกฤษทั้งหมดและสั่งให้ฆ่าโจรสลัดชาวสเปนทั้งลำรวมทั้งหมด 70 คน
          เดือนมิถุนายน 1723  ลอว์ พาเรือ Fancy ออกเดินทางไปพร้อมกับเรือ Ranger บัญชาการโดย Charles Harris รองกัปตันผู้ซื่อสัตย์ หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการปล้นเรือมามากมายในแถบ Carolinas พวกเขาก็ได้พบกับเรือปืนใหญ่ 20 กระบอก เรือรบระดับ Man of War ของราชนาวีอังกฤษ เรือ Greyhound ซึ่งกำลังออกตามล่าโจรสลัดอยู่พอดี  ลอว์ และ Harris เข้าปะทะกับ Greyhound ซึ่งการปะทะกันครั้งนี้หนักหนาสาหัสกว่าที่ทั้งสองคาดการณ์ไว้มาก เรือ Greyhound โจมตีเรือ Ranger อย่างหนักหน่วงและยิงปืนใหญ่ทำลายเสากระโดงเรือจนหัก ทำให้เรือหมดสภาพสู้รบ  ลอว์ ตัดสินใจถอนตัวออกจากสมรภูมิโดยปล่อยให้ Harris และโจรสลัดที่เหลือเผชิญชะตากรรมตามลำพัง Harris และลูกเรือจำนวนหนึ่งถูกนำตัวไปลงโทษที่ New Port บางส่วนถูกประหารชีวิต บางส่วนได้รับการปล่อยตัว

  ขอบคุณบทความจาก Krezeegamer

..........................