• http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/.StawHat%20%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%9F%E0%B8%B2%E0%B8%87%20N.
  • http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Yonkou%20Lord%20White
  • http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Wanted%20Pir.D.Q.X.T
  • http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Yonkou%20Lord%20Red
  • http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Yonkou%20Lord%20Black
  • http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Wanted%20Pir.KingPirate
  • http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Wanted%20Pir.Sunny
....

One Piece วันพีช ดอลตัน Dalton ★ ドルトン

MARINE World Noble DALTON
http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Tribe%20Drum%20-%20Snowฉายา ราชาดอลตัน
 ( KING DALTON )
- ผู้พิทักษ์แห่งอาณาจักรดรัม
สังกัด ภายใต้การดูแลของสหพันรัฐบาลโลก(World Goverment) 
- เผ่ามังกรฟ้า(World Nobles)
อายุ 37 ปี
- เกิด เกาะดรัม/แกรนต์ไล
ส่วนสูง  197 cm
ตำแหน่ง ราชาเกาะซากุระใหม่ (King of Sakura )
- ราชองครักษ์อาณาจักรดรัม(Drum Kingdom  
อาวุธ ดาบสปาดี้ (Spade-Fiddle Banff)
ผลปีศาจ อุชิ อุชิ โมเดลไบซัน (Ushi Ushi MODEL Bison)สายโซออน/สัตว์โบราณยุคน้ำแข็ง
ผลกระทิงสายพันธ์ไบซัน : เน้นด้านพละกำลังและความเร็ว ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ แปลงร่างในแบบกึ่งไบซัน แข็งแรงและฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
เผ่าพันธุ์  มนุษย์ 

 "การเป็นกษัตริย์ที่ดีในความหมายของข้าไม่ใช่อยู่เหนือประชาชน
แต่ต้องอยู่เคียงข้างประชาชน..ทุกเมื่อเมื่อพวกเค้าต้องการ"
กล่าวโดย ราชาดอลตัน

              ประวัติ.ดอลตัน (Dalton)  เป็นขุนนางหนุ่มที่ดูสง่างามและองอาจมักจะยืนอกผายใหล่ผึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังในการปกป้องคุ้มครองผู้ที่อ่อนแอกว่า เค้ามีใบหน้าที่ดูคร้ายสี่เหลี่ยมไว้เคราแพะและมีผมสีดำ มักจะสวมใส่เกราะเหล็กและพกอาวุธประจำกายติดตัวอยู่ตลอด นิสัยของเค้าซื่อสัตว์ต่อเจ้านายแม้ตัวตายโดยคำว่าทรยศ หักหลังไม่มีอยู่ในความคิดของเค้าแต่ทว่าในเนื้อเรื่องการกระทำที่โหดเหี้ยมของราชาวาโปลู เจ้านายของเค้าที่ทำให้เค้าสุดจะทนแต่ก็ต้องทนต่อคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับพ่อของ วาโปลูที่จะช่วยดูแลอาณาจักรต่อไปจนกระทั้งวาโปลูได้สั่งให้ทหารฆ่าดอลตัยซะและไม่ถือว่าดอลตันเป็นคนของอาณาจักรอีกต่อไป แต่โชคดีที่ดอลตันรอดมาได้และถือว่าตนได้ตายไปแล้วและเกิดใหม่เพื่อคุ้มครองประชาชนที่อ่อนแอของตน 
           - ดอลตันเป็นตัวละครตัวแรกในการ์ตูนที่แสดงให้เห็นพลังจากผลปีศาจสายโซออน
http://pirateonepiece.blogspot.com/2012/08/marine-shirahoshi.html.............................. 





       ดอลตันวีรบุรุษแห่งอาณาจักรน้ำแข็ง ถึงแม้ว่าเค้าจะเป็นคนรักสงบแต่ก็ความสามารถหลายอย่างในการต่อสู้ทั้งจาก อาวุธประจำกายที่โจมตีได้รุนแรงและรวดเร็ว แต่ไม่เน้นที่การฆ่าจะทำได้เพียงทำให้ศัตรูสลบเท่านั้น นอกจากนี้เค้ายังเป็นผู้มีพลังจาก  ผลไม้ปีศาจ  อุชิ อุชิ โมเดลไบซัน (Ushi Ushi Model:Bison) สายโซออน เป็นผลวัวไบซัน  ที่สามารถกลายร่างเป็นวัวไบซันที่สมบูรณ์แบบ มีความโดดเด่นด้านความแข็งแกร่งและความเร็วในการเครื่อนที่สูงแม้อยู่ในสภาพอากาศที่เต็มไปด้วยพายุน้ำแข็ง  ทนทานสามารถปรับสภาพร่างกายให้อยู่ได้ในภูมิประเทศที่หนาวเย็นได้ มีร่างกายที่มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษด้วยกล้ามเนื้อส่วนอกและลำตัวที่หนาขนาดชนก้อนหินยังไม่สะเทือนและสามารถพื้นตัวจากบาดแผลหรือจากอาการบาดเจ็บได้เร็วเป็นพิเศษ
         จุดอ่อน : การเป็นคนดีของดอลตันเป็นสิ่งที่รู้โดยทั่วไปและนั้นคือจุดอ่อนที่ใช้เล่นงานเค้าได้เป็นอย่างดี

วัวไบซัน ดอลตัน - Dalton
 "ราชาที่ต้องเป็นที่ยอมรับจากรัฐบาลโลกที่ชั่วร้ายนั้น....
ข้าไม่ต้องการ..สำหรับข้าขอเพียง ประชาชนของข้ายอมรับ.. 
แม้สักคน.!!...ก็เพียงพอแล้วที่จะเป็นราชา.."

            ราชาดอลตันราชาคนใหม่แห่ง ดรัม ในอดีตเคยเป็นมือขวาของกษัตริย์วาโปรูและเป็น 1ใน3 ผู้พิทักษ์เกาะดูแลกองกำลังป้องกันอาณาจักรอีดรัม รับใช้วาพูด้วยความซื่อสัตว์จนกระทั่ง อาณาจักรถูกโจมตีโดยกลุ่มโจรสลัดหนวดดำที่ร้ายกาจจึงทิ้งอาณาจักรและประชาชน หนีเอาตัวรอด ดอลตันจึงตั้งตนเป็นผู้พิทักษ์เกาะเพื่อคุ้มครองประชาชนหลังจากโจรสลัดหนวด ดำจากไป กษัตริย์วาพูคิดทวงอำนาจกษัตริย์คืน ดอลตันและประชาชนบนเกาะจึงรุกขึ้นต่อต้านแต่กลับถูกทำร้ายเกือบตายโชคดี กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางเข้ามาช่วยไว้ได้ทันและจัดการวาพูจนราบคาบและขับไล่ออก จากเกาะไป

ไบซัน ดอลตัน - Dalton
                  หลังจากขับไล่กษัตร์จอมโฉด วาโปลู ออกไปจากอาณาจักร ดอลตันจึงได้รับเลือกจากชาวเมืองและสหพันธ์รัฐบาลโลกแต่งตั้งให้เป็นให้ กษัตริย์คนใหม่แทนตำแหน่งที่ว่างลงของ วาพูและเปลี่ยนชื่อเป็น "อาณาจักรซากุระ" ตามความเชื่อของหมอฮิลลุคที่ว่าอาณาจักรนี้ป่วยหากได้เห็น ดอกซากุระ ไม่ว่าโรคอะไรก็จะหายป่วยแม้แต่อาณาจักรก็จะหายป่วยได้และก็เป็นตามนั้นหลัง จากเห็นดอกซากุระที่ดอกเตอร์ ฮิลลุคทำขึ้นอาณาจักรก็กลับมาเจริญรุ่งเรืองและมีการพัฒนาให้เป็นเกาะอันดับ หนึ่งทางการแพทย์เหมือนดั่งในอดีตโดยมีสัญลักษณ์เป็นดอกซากุระ  
 .........................................  

 【】 นอกเรื่องความรู้รอบตัว 【】
          เปิดตำนานผู้อยู่รอดจากยุคน้ำแข็ง ควายไบซัน จักรพรรดิ​แห่ง​พง​ไพรในทุ่งน้ำแข็ง / BISAN

            ไบซัน​ยุโรป (Bison bonasus) หรือ​บาง​ครั้ง​ก็​เรียก​กัน​ว่า วีเซนต์  ​แบ่ง​เป็น​ชนิด​ย่อย ๆ ได้​สอง​ชนิด​คือ​ไบซัน​ที่​ลุ่ม​ยุโรป และ​ไบซัน​แห่ง​เทือก​เขา​คอเคซัส หรือ​ไบซัน​ภูเขา. ไบซัน​แห่ง​เทือก​เขา​คอเคซัส​ตัว​สุด​ท้าย​ตาย​เมื่อ​ปี 1927.  เดิม​ที​อาศัย​อยู่​เป็น​จำนวน​มาก​ใน​ภูมิภาค​ส่วน​ใหญ่​ของ​ทวีป​ยุโรป. ไบซัน​ตัว​ผู้​ที่​โต​เต็ม​ขนาด​แล้ว​อาจ​มี​น้ำหนัก​ถึง 900 กิโลกรัม​และ​สูง​ได้​เกือบ 2 เมตร​เมื่อ​วัด​ถึง​บ่า​ของ​มัน. สัตว์​เลี้ยง​ลูก​ด้วย​นม​ร่าง​ใหญ่​เหล่า​นี้​เคย​ถูก​เรียก​ว่า จักรพรรดิ​แห่ง​พง​ไพร.  ลักษณะ​ที่​โดด​เด่น​ของ​ไบซัน​ก็​คือ​ขนาด​ที่​ไม่​ได้​สัดส่วน​กัน​ของ​ลำ​ตัว​ส่วน​หน้า​กับ​ส่วน​หลัง. ช่วง​บ่า​ด้าน​หน้า​ของ​มัน​ที่​ทั้ง​กว้าง​และ​หนัก​นั้น​มี​หนอก​นูน​ขึ้น​มา​อย่าง​เด่น​ชัด ขณะ​ที่​ส่วน​หลัง​ของ​ลำ​ตัว​ค่อนข้าง​เล็ก​เมื่อ​เทียบ​กัน. ส่วน​หลัง​นี้​มี​ขน​สั้น ๆ ปก​คลุม​อยู่ ขณะ​ที่​ส่วน​หน้า​มี​ขน​ยาว​รุงรัง​แถม​ยัง​มี​เครา​ด้วย.  
http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Tribe%20Drum%2FSnow
          เกือบ​สูญ​พันธุ์  มี​การ​กะ​ประมาณ​กัน​ว่า ใน​ทุก​วัน​นี้​มี​ไบซัน​ยุโรป​เหลือ​อยู่​เพียง​ไม่​กี่​พัน​ตัว. การ​ทำ​เกษตรกรรม​และ​การ​ถาง​ป่า​ทำ​ให้​ที่​อยู่​อาศัย​ตาม​ธรรมชาติ​ของ​พวก​มัน​สูญ​สิ้น​ไป และ​นัก​ลักลอบ​ล่า​สัตว์​ก็​เข่น​ฆ่า​พวก​มัน​อย่าง​ไม่​ลด​ละ. พอ​ถึง​ศตวรรษ​ที่​แปด ไบซัน​ยุโรป​ใน​อาณาจักร​โกล (ปัจจุบัน​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​ประเทศ​ฝรั่งเศส​และ​เบลเยียม) ก็​สูญ​สิ้น​ไป.  
           ใน​ศตวรรษ​ที่ 16 กษัตริย์​ชาว​โปแลนด์​ได้​ดำเนิน​การ​เพื่อ​พิทักษ์​คุ้มครอง​สัตว์​ป่า​ชนิด​นี้. หนึ่ง​ใน​กษัตริย์​องค์​แรก ๆ ที่​ได้​ให้​การ​ช่วยเหลือ​ก็​คือ​กษัตริย์​ซิกิสมุนด์​ที่​สอง เอากุสตุส ซึ่ง​ได้​ออก​พระ​ราชกฤษฎีกา​ว่า​การ​ฆ่า​ไบซัน​ยุโรป​นั้น​เป็น​ความ​ผิด​ที่​มี​โทษ​ถึง​ขั้น​ประหาร​ชีวิต. เหตุ​ใด​จึง​เป็น​เช่น​นั้น? ดร. ซบิกนีเยฟ ครา​ซิน​สกี ประจำ​อุทยาน​แห่ง​ชาติ​เบียวอฟเยชา กล่าว​ว่า “ความ​ตั้งใจ​นั้น​ก็​คือ เพื่อ​สงวน​สัตว์​เหล่า​นี้​เอา​ไว้​เป็น​รางวัล​ให้​พวก​ผู้​ปกครอง​และ​เหล่า​ข้า​ราชบริพาร​ได้​ล่า​กัน.” ทั้ง ๆ ที่​มี​บท​ลง​โทษ​อย่าง​รุนแรง แต่​กฎ​ข้อ​บังคับ​ดัง​กล่าว​ก็​ไม่​สามารถ​คุ้มครอง​เจ้า​ไบซัน​ป่า​ได้ และ​พอ​ถึง​สิ้น​ศตวรรษ​ที่ 18 ไบซัน​ยุโรป​ก็​มี​เหลือ​อยู่​เฉพาะ​ที่​ป่า​เบียวอฟเยชา​ทาง​ภาค​ตะวัน​ออก​ของ​โปแลนด์ และ​ใน​เทือก​เขา​คอเคซัส​เท่า​นั้น.  

http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Tribe%20Drum%2FSnow          ใน​ศตวรรษ​ที่ 19 สถานการณ์​ก็​เริ่ม​เปลี่ยน​ไป​ใน​ทาง​ที่​ดี​ขึ้น. หลัง​จาก​จักรวรรดิ​รัสเซีย​ได้​ยึด​ครอง​ป่า​เบียวอฟเยชา จักรพรรดิ​อะเล็กซานเดอร์​ที่​หนึ่ง​ก็​มี​รับสั่ง​ให้​คุ้มครอง​ไบซัน​ยุโรป. ไม่​นาน​ก็​เห็น​ผล. ประชากร​ไบซัน​เพิ่ม​จำนวน​ขึ้น​เรื่อย ๆ และ​พอ​ถึง​ปี 1857 ไบซัน​ยุโรป​ที่​อยู่​ภาย​ใต้​การ​คุ้มครอง​ของ​รัฐบาล​ก็​มี​เกือบ​ถึง 1,900 ตัว. ต่อ​มา มี​การ​สร้าง​ที่​ให้​อาหาร​สัตว์​ขึ้น​เพื่อ​ให้​ไบซัน​มา​กิน​อาหาร​ได้​ใน​ช่วง​ฤดู​หนาว. มี​การ​วาง​แผน​อย่าง​รอบคอบ​เพื่อ​สร้าง​บ่อ​น้ำ และ​ถาง​ป่า​เพื่อ​ปลูก​พืช​เอา​ไว้​เลี้ยง​พวก​มัน.  น่า​เศร้า ช่วง​เวลา​ที่​น่า​ยินดี​สำหรับ​ไบซัน​เหล่า​นี้​เป็น​เพียง​ช่วง​เวลา​สั้น ๆ. ภาย​ใน​เวลา 60 ปี จำนวน​ไบซัน​ก็​ลด​ลง​เหลือ​เพียง​ครึ่ง​หนึ่ง. 
         จุด​จบ​ของ​ไบซัน​ป่า​ใน​โปแลนด์ ​เกิด​ขึ้น​ตอน​ที่​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​หนึ่ง​ระเบิด​ขึ้น. ทั้ง ๆ ที่​เยอรมนี​มี​การ​ออก​พระ​ราชกฤษฎีกา​ให้ “คุ้มครอง​ไบซัน​ไว้​เพื่อ​ชน​รุ่น​หลัง​ฐานะ​เป็น​อนุสรณ์​ทาง​ธรรมชาติ​ที่​ไม่​มี​ใด​เหมือน” แต่​สัตว์​เหล่า​นี้​ก็​ถูก​ฆ่า​ตาย​ไป​เป็น​จำนวน​มาก ทั้ง​โดย​กอง​ทหาร​ฝ่าย​เยอรมัน​ที่​ล่า​ถอย, พวก​นัก​ต่อ​สู้​ชาว​รัสเซีย​ที่​สู้​รบ​กับ​ฝ่าย​เยอรมัน, และ​นัก​ลักลอบ​ล่า​สัตว์​ที่​มี​อยู่​เสมอ​มา. ดัง​ที่​ได้​อธิบาย​ไว้​ใน​ตอน​ต้น​ของ​บทความ​นี้ 
http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Tribe%20Drum%2FSnow
           ใน​ปี 1919 ไบซัน​ยุโรป​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​ป่า​ตัว​สุด​ท้าย​ของ​โปแลนด์​ก็​ถูก​ฆ่า​ตาย.  รอด​จาก​การ​สูญ​สิ้น  ด้วย​ความ​พยายาม​ที่​จะ​อนุรักษ์​สัตว์​ชนิด​นี้​เอา​ไว้ จึง​มี​การ​ก่อ​ตั้ง​สมาคม​ระหว่าง​ประเทศ​เพื่อ​การ​คุ้มครอง​ไบซัน​ยุโรป​ขึ้น​ใน​ปี 1923. เป้าหมาย​แรก​ของ​สมาคม​นี้​ก็​คือ เพื่อ​นับ​จำนวน​ไบซัน​พันธุ์​แท้​ที่​ถูก​ขัง​ไว้​ตาม​ที่​ต่าง ๆ.* ปรากฏ​ว่า​มี​ไบซัน​ที่​ลุ่ม​ยุโรป​ซึ่ง​เป็น​พันธุ์​แท้​หลง​เหลือ​อยู่​ตาม​สวน​สัตว์​ต่าง ๆ ทั่ว​โลก 54 ตัว. 
         อย่าง​ไร​ก็​ตาม ใน​จำนวน​ทั้ง​หมด​นี้​ใช่​ว่า​ทุก​ตัว​สมบูรณ์​พอ​ที่​จะ​ผสม​พันธุ์​ได้. บาง​ตัว​ก็​แก่​เกิน​ไป ส่วน​บาง​ตัว​ก็​เป็น​โรค​ร้ายแรง. ใน​ที่​สุด ไบซัน 12 ตัว​ก็​ถูก​คัด​มา​เพื่อ​ช่วย​เพิ่ม​จำนวน​สัตว์​ป่า​ชนิด​นี้. เป็น​ที่​ทราบ​กัน​ดี​ว่า ไบซัน​ที่​ลุ่ม​ยุโรป​ทั้ง​หมด​ที่​มี​อยู่​ใน​ตอน​นี้​เป็น​ลูก​หลาน​ของ​ไบซัน​เพียง​ห้า​ตัว​จาก​จำนวน​ดัง​กล่าว..  
         ใน​ฤดู​ใบ​ไม้​ร่วง​ปี 1929 ก็​มี​เหตุ​การณ์​ที่​น่า​ยินดี​มาก​เกิด​ขึ้น เมื่อ​มี​การ​ปล่อย​ไบซัน​ที่​ลุ่ม​ยุโรป​สอง​ตัว​คืน​สู่​ป่า. พวก​มัน​ถูก​นำ​ไป​ปล่อย​ใน​เขต​สงวน​ที่​จัด​เตรียม​ไว้​เป็น​พิเศษ​ใน​ป่า​เบียวอฟเยชา. หลัง​จาก​สิบ​ปี​ผ่าน​ไป พวก​มัน​ก็​มี​จำนวน​เพิ่ม​ขึ้น​เป็น 16 ตัว.  รอด​จาก​การ​สูญ​พันธุ์​หรือ?  
        ใน​ตอน​ต้น​ศตวรรษ​ที่ 21 มี​ไบซัน​ยุโรป​อยู่​ประมาณ 2,900 ตัว​ทั่ว​โลก. ใน​จำนวน​นี้​มี​ประมาณ 700 ตัว​อยู่​ใน​โปแลนด์. ตลอด​ช่วง​เวลา​หลาย​ปี มี​การ​นำ​ไบซัน​เหล่า​นี้​ไป​ปล่อย​ที่​เบลารุส, คีร์กิซสถาน, ลิทัวเนีย, รัสเซีย, และ​ยูเครน​ด้วย.  แต่​นี่​ไม่​ได้​หมาย​ความ​ว่า​ไบซัน​ยุโรป​จะ​รอด​พ้น​อันตราย. พวก​หมัด​และ​เห็บ, โรค​ภัย, การ​ขาด​แคลน​อาหาร​และ​น้ำ, และ​ผู้​ลักลอบ​ล่า​สัตว์​ก็​ยัง​เป็น​ภัย​คุกคาม​อยู่​ร่ำ​ไป. 
........................