ฉายา มนุษย์ลูกกวาด (CANDY HUMAN)
ค่าหัววันพีช 700,000,000
อายุ 50 ปี/14 มีนาคม
- เกิดในท็อตโตะแลนต์
ส่วนสูง 333 Cm.
ปราการ ราชาเกาะลูกกวาด(Candy Island)
ตำแหน่ง บุตรชายลำดับที่ 1 (1st Place)
- รัฐมนตรีกระทรวงลูกอม(Minister of Candy)
- สมาชิกกลุ่มโจรสลัด บิ๊กมัม(Bigmom Pirates)
ผลลูกอม : มีพลังในการเปลี่ยนศัตรูให้เป็นลูกอมหรือสร้างลูกอมในแบบแท่งน้ำตาลได้มากตามต้องการ
ลูกเรือ แม่ใหญ่ชาล็อต หลินหลิน(ฺLinLin) ,แคร็กเกอร์ (Cracker) ,สมูทตี้ (Smoothie) ,คาตาคูริ (Katakuri) ,สแน็ค (SnacK) ,ไดฟุคุ(Daifuku) ,โอเวน(Oven) ,โอเปร่า (Opera) ,กาแล็ต (Galette) ,มอนเตออ(Mont-d'Or) ,บรูเล่ (Brulee) ,พลาริน (Praline)
เผ่าพันธุ์ มนุษย์
ชาล็อต เปโรเปรอส(Charlotte Perospero)บุตรชายคนแรกของตระกูลที่ดูเหมือนจะมีอำนาจและมีบารมีสูงพอสมควร รูปลักษณ์ภายนอกยังคงอิงมาจาก ดินแดนวันเดอร์แลนต์(Alice in wonderland) ดูคร้ายตัวตลกผอม สูง จมูกแหลมดูเย่อหยิ่ง มีลักษณะเด่นอยู่ที่ลิ้นที่หนา ยาวและใหญ่ชอบที่จะใช้ลิ้นของตนเลียอมยิ้มอยู่ตลอดเวลา นิสัยของเค้านอกจากความเย่อหยิ่งที่เกิดมาในตระกูลบิ็กมัมเค้ายังมีนิสัย ซาดิสต์ชอบทรมารศัตรูให้ตายอย่างช้าๆคร้ายการลิ้มรสลูกกวาดที่ต้องค่อยๆเลียให้ละลายทีละน้อย หมดไปอย่างช้าๆ
- ตระกูลชาร์ล็อตต์.มีธีมสมาชิกในครอบครัวล้วนมาจากชื่อของขนม เพโรเพโร คือเสียงเลีย ลูกกวาด (CANDY)
- กลุ่มโจรสลัดบิ็กมัมแทบทุกคนล้วนได้แรงบันดารใจจากตัวละครในเทพนิยาย เพโรเพโร ก็คือ พ่อมดในวรรณกรรมของเชคเปีย " The Tempest "
...........................
【】 เปิดตำนานวรรณกรรมชิ้นสุดท้ายของกวีชื่อก้องโลก วิลเลียม เชคสเปียร์ เรื่องราวของพ่อมดผู้ถูกเนรเทศไปยังดินแดนแห่งภูติ ในชื่อเดอะแทมเพลต/The Tempest 【】
ชาล็อต เพโระเพโระ รัฐมนตรีลูกกวาดแห่งดินแดนท็อตโต๊ะแลนต์ เป็นผู้มีพลังจาก ผลปีศาจ เพโร เพโร่ Pero Pero :Lick Lick :ผลน้ำตาลหรือผลลูกกวาด พลังนี้มีชื่อแปลตามตัวว่าการเลียแต่ถ้าดูจากลักษณะการใช้มันคือการสร้างน้ำตาลให้มีลักษณะต่างๆตามต้องการคร้ายก้อน "แตงเม" ที่เปลี่ยนรูปต่างๆได้โดยง่าย ไม่ว่าจะเป็นของชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่อย่างกำแพงหรือบันไดก็สามารถสร้างขึ้นมาได้ และยังรวมถึงการเปลี่ยนสิ่งใดก็ตามที่เค้าสัมผัสถูกให้กลายเป็นลูกกวาดที่ดูเงางาม หอมหวานชวนกินซึ่งแน่นอนเมื่อถูกเปลี่ยนไม่ว่าสิ่งใด หรือมนุษย์คนไหนก็ตามหากถูกเปลี่ยนแล้วเป็นไปได้ว่าจะคงอยู่ในรูปก้อนน้ำตาลเช่นนั้นตลอดไปจนกว่าผู้ใช้จะปลดปล่อยมันหรือไม่ก็ต้องถูกกินทั้งเป็นทีละน้อยจนกว่าจะสลายหายไปจนหมด
จุดอ่อน : พลังนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะอ่อนตัวเมื่อถูกไฟ และละลายเมื่อถูกน้ำ
ตระกูลอันดับหนึ่ง ชาล็อต - Charlotte Family |
เมื่อเรารู้สึกผิดพลาด....คิดซะว่าเราได้เรียนรู้
เมื่อเราล้มเหลว...คิดซะว่านั่นคือประสบการณ์ชีวิต
แต่หากเราพ่ายแพ้..ก็ให้ถือซะว่าเราโชคดีที่ได้เกิดใหม่อีกครั้ง”
ชาล็อต เปโรเปรอส(Charlotte Perospero).บุตรชายคนแรกของตระกูล ชาล็อตเค้าเกิดขึ้นเมื่อ 50 ปีก่อนซึ่งในตอนนั้น บิ๊กมัมมีอายุเพียง 18 ปีเท่านั้นเป็นอีกหนึ่งบุตรชายที่แม่ภาคภูมิใจมากเพราะเค้านั้นเก่งกาจ ทรงอำนาจ และมากด้วยกลอุบาย ปรากฏให้เห็นครั้งแรกในอดีตเมื่อประมาณ 5 ปีก่อนในการเป็นหนึ่งในผู้เห็นจุดจบของกลุ่มโจรสลัด น็อคซึ่งในตอนนั้น เพลโดรหัวหน้ากลุ่มอาจหาญท้าทายกลุ่มของ บิ๊กมัมโดยเข้ามาแฝงตัวเพื่อหวังขโมยจารึกบน โร๊ดโพเนกรีฟ แต่ก็ถูกจับได้เสียก่อนจึงต้องถูกลงโทษด้วยการหมุนกงล้อแห่งชะตาและนั่นนำมาซึ่งจุดจบของกลุ่มโจรสลัด น็อค ตัวกัปตันถูกชิงอายุไป 70 ปีแต่ขอแลก 20 ปีกับดวงตาข้างหนึ่งจึงมีชีวิตรอดมาได้ ก่อนจะถูกปล่อยตัวไป ซึ่งเปโรเปรอสเป็นคนคุมตัวเพลโดรไปส่งที่นอกอาณาเขตพร้อมกับกล่าวทิ้งท้ายว่า
"ชีวิตมีค่า..ถ้าแพ้ก็ต้องยอมรับ ถ้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ..ก็ต้องยอมจ่าย."
ในงานวันแต่งงานครั้งประวัติศาสตร์ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กับกลุ่มเจลม่า ที่มีวิทยาการด้านการผลิตซุปเปอร์มนุษย์ เมื่องานเริ่มทุกอย่างเป็นไปตามแผนสมาชิกของเจลม่าทุกคนเข้ามานั่งในที่ๆจัดเตรียมเอาไว้โดยไม่รู้เลยว่านี่คือหนึ่งในแผนที่เตรียมไว้ ไม่นานความวุ่นวายเริ่มก่อตัวขึ้นพวกของซันจิปรากฏตัวขึ้นนั่นหมายถึงการเป็นพันธมิตรเป็นอันล้มเลิก เปรอส ใช้พลังของเค้าตรึงพวกเจลม่าไว้กับที่ก่อนที่จะบอกว่า ไอ้พวกหน้าโง่..ทุกอย่างมันเป็นแผนมาตั้งแต่ต้น พวกแกต้องทิ้งทุกอย่างไว้ที่นี่รวมทั้งชีวิตพวกแกด้วย..!!.. แต่แล้วก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดก่อนจะจบเกมส์ บิ๊กมัม ได้ระเบิดพลังฮาคิออกมาพร้อมเสียงตะโกนจนดังลั่น ครื่นพลังทำให้พลังของเปรอสหยุดชะงักไปชั่วครู่ ทำให้ศัตรูดิ้นหลุดจากพันธนาการในทันที
การต่อสู้ที่แท้จริงเริ่มขึ้นแล้ว พวกเจลม่าสวมบอดี้สูทพร้อมสู้เต็มอัตราศึก การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือดพร้อมกับการป้องกัน แม่ใหญ่ ที่เป็นเป้าหมายของการลอบสังหารไปพร้อมๆกัน ก่อนที่ทุกอย่างจะรู้ผลแพ้ชนะปราสาทก็เกิดถล่มลงมาซะก่อน พร้อมกับแม่ใหญ่ที่ได้สติคืนมา พร้อมร้องหาเค็กแต่งงานแสนหวาน เปรอส เห็นท่าไม่ดีถ้าขืนปล่อยไว้แม่ใหญ่ได้กลืนกินอายุทุกคนแทนเค็กเป็นแน่ จึงรีบเข้าไปบอกว่าพวกกลุ่มหมวกฟางที่กำลังหนีเป็นผู้ขโมยเค๊กไป..!!..ก่อนที่ตัวเค้าและน้องชายจะแยกตัวไปดักศัตรูที่เรือของพวกมัน
การพบกันของศัตรูในอดีต เมื่อเพลโดรพร้อมด้วยพรรคพวก หนีบิ๊กมัมมาถึงเรือก็ต้องตกใจกับคำกล่าวทักทายของ เปรอส "หมดหนทางหนีแล้วสินะ.!!...มันก็เหมือนในอดีตอีกแล้วแต่ครั้งนี้..คงไม่มีอะไรให้ต้องแลกนอกจากชีวิตแล้วสินะ" เพลโดร หมดหนทางแล้วจริงๆ อับจนหนทางหนีทุกคนกำลังจะตาย..แต่เค้ากลับยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า ก็เหมือนครั้งนั้น..ถ้าอยากมีชีวิตรอด.!!.ต้องยอมจ่าย พริบตาก็เกิดแสงสว่างวาบเข้าตา เปรอส ก่อนที่เค้าจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้งพบว่ารอบข้างไหม้เกรียมด้วยแรงระเบิด ศัตรูหายไปแล้วพร้อมกับแขนขวาที่ขาดหายไป แก..!! แก..ไอ้เพลโดร.!..ศึกครั้งนี้ไม่จบง่ายๆแน่..แค้นนี้ต้องชำระและพรรคพวกของแกต้องเป็นผู้ชดใช้
..............................
【】 นอกเรื่องความรู้รอบตัว 【】
เปิดตำนานวรรณกรรมชิ้นสุดท้ายของกวีเอก ก้องโลก วิลเลียม เชคสเปียร์ ในชื่อ เดอะแทมเพลต /The Tempest
ผลงานชิ้นสุดท้ายของกวีเอกวิลเลียม เชคสเปียร ์(William Shakespeare) นี้ถูกเขียนขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1610-1611 โดยเนื้อเรื่องจะกล่าวถึงดยุคแห่งมิลาน พรอสเฟโร่ ผู้ถูกทรยศและหักหลังจนต้องถูกเนรเทศไปอยู่บนเกาะล้าง ซึ่งเนื้อเรื่องในส่วนนี้ เชคสเปียกล่าวว่าเค้าได้แรงบัลดาลใจมาจากการอ่านเรื่องของ ดยุคคนหนึ่งในมิลานซึ่งตัวของดยุคผู้นี้เองก็ถูกเนรเทศในปี 1,491 และนั่นเองทำให้ เชคสเปียร็เริ่มต้นประพันธ์บทกวีชิ้นเอกชิ้นสุดท้ายนี้ขึ้นมาก่อนจะเสียชีวิตในปี 1,616 มีอายุได้เพียง 52 ปี
The Tempest เริ่มต้นขึ้นโดยการพร่ำพรรณนาถึงตัวเอกในเรื่องเมื่อ 12 ปีก่อน นั่นคือตัวของท่านดยุคพรอสเพโรแห่งมิลาน (Duke Prospero of Milan) ผู้ชอบอ่านหนังสือเวทมนตร์คาถาเป็นกิจวัตรและให้น้องชายอย่าง แอนโตนิโย่(Antonio) ปกครองบ้านเมืองแทนน้องชายจึงสมคบกับกษัตริย์ อลองโซ(King Alonso of Naples) ร่วมมือกันก่อการปฏิวัติรัฐประหารโค่นอำนาจพรอสเพโรผู้เป็นพี่ชาย จนพรอสเพโรกับมิแรนดาลูกสาวเพียงคนเดียวของเค้า ต้องซมซานหนีลงเรือผุๆ มาใช้ชีวิตอยู่บนเกาะร้างกลางทะเล อันห่างไกลผู้คน โดยมีข้าราชบริพารผู้ภักดีอย่าง กอนซาโล(Gonzalo) ลอบนำอาหาร เสื้อผ้าและหนังสือเวทมนย์ต่างๆลงเรือไปให้
เมื่อเรือมาติดเกาะแห่งหนึ่ง พรอสเพโร ได้พยายามสร้างชีวิตใหม่และลงหลักปักฐานในเกาะแห่งนี้ เค้าเริ่มยึดครองและพยายามสร้างโลกของตัวเองบนเกาะแห่งนี้ สิ่งหนึ่งที่ พรอสเพโร ทำ นอกจากการใช้เวทมนตร์คาถา คือการขยายอำนาจปกครองคนบนเกาะ ซึ่งแต่เดิมเกาะแห่งนี้ไม่ใช่เกาะว่างเปล่า ที่ใครๆจะสร้างอะไรก็ได้ เพราะมันปกครองโดดยเหล่าภูตอย่าง แอเรียล(Ariel) แต่ด้วยความช่วยเหลือจาก ผู้รับใช้อย่างคาริบาน(Caliban) ที่ขโมยตำราเวทมนย์และเสบียงอาหารมาให้ทุกอย่างจึงดูจะราบรื่นไม่ติดขัดอะไร
เนื้อเรื่องหลักเริ่มต้นขึ้นเมื่อ เรือลำหนึ่งแล่นผ่านมาที่เกาะของ พรอสเพโร มันเป็นเรือของ กษัตริย์อลอนโซ่และน้องชายของเขาแอนโตนิโย่ที่บังเอิญแล่นผ่านมาหลังกลับจากงานแต่งงานลูกสาวของอลอนโซ่ เมื่อเห็นว่าคู่แค้นทั้งสองมาพร้อมกัน พรอสเพโร จึงเสกเวทมนตร์ให้เกิดพายุกะหน่ำเข้าใส่เรือในทันที ไม่นานเรือก็ถูกสายฟ้าฟาดจมลง กษัตริย์อลอนโซ่ และลูกเรือจำนวนมากจนปัญญาที่จะกู้เรือได้แต่หนีตาย หาทางรอดให้ตัวเอง และทางรอดเดียวในตอนนี้ก็คือเกาะร้างที่อยู่ใกล้กันนี้นั่นเอง ซึ่งก็ตรงกับความต้องการของ พรอสเพโร เพราะนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการแก้แค้นที่รอคอยมานาน
หลังจาก พรอสเพรอส มั่นใจแล้วว่าทุกคนปลอดภัยจากเรือแตก เค้าเริ่มหันมาคุยกับลูกสาว มิแรนดา ถึงเรื่องที่พวกมันทำกับพ่อเมื่อ 12 ปีก่อนและสั่งให้เธอเข้าไปนอนในถ้ำซะทุกอย่างพ่อจะจัดการเอง แล้วจึงหันมาสั่งให้ ภูตแอเรียล เริ่มต้นแผนการแก้แค้นในทันที แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่ม แอเรียลได้ทวงถามถึงอิสระภาพของเธอว่าหากช่วยงานในครั้งนี้เธอจะได้เป็นอิสระแน่ใช่มั้ย พรอสเพโร จึงกล่าวว่า "ลืมแล้วเหรอ เรื่องแม่มด ที่เคยขังเจ้าไว้ในต้นไม้แล้วใครกันเล่าที่ช่วยเจ้าออกมา จงรับใช้ข้าให้สมกับที่ได้ช่วยชีวิตเจ้า" แต่ก็เอาเถอะแล้วชั้นจะปลดปล่อยเธอเมื่อถึงเวลาอันสมควร
ภายในถ้ำ มิแรนดาตื่นขึ้น จากเสียงทะเลาะกันของพ่อกับคนรับใช้ คาริบาน ที่ว่ากล่าวพรอสเพโร ว่าเป็นคนไม่ดีก่อนที่จะถูกไล่ให้ไปเก็บฟืน ไม่นานนักปรากฏร่างชายหนุ่มเดินโซซัดโซเซเข้ามาในถ้ำเค้าคือ เฟอร์ดินานด์ (Ferdinand) บุตรของกษัตริย์อลอนโซ่ เมื่อทั้งสองได้พบกันเหมือนทุกอย่างหยุดนิ่งความรักได้ก่อตัวขึ้นแล้ว แต่..!!..เดี๋ยวพรอสเพโรรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ เค้าจึงรีบตะโกนด่าเฟอร์ดินนานในทันทีว่า เป็นจอมลวงโลกโกหกว่าเป็นเจ้าชายแห่งเนเปิลส์ เพื่อหลอกล่อลูกสาวของเค้า โทษของมันคือจำคุก ตลอดชีวิตแล้วจึงสั่งให้คนรับใช้ควบคุมตัวไปคุมขังในทันทีและจึงสั่งให้ ภูตแอเรียลไปจัดการพวกที่เหลือ
ส่วนใต้ของเกาะ ที่ๆซึ่ง กษัตริย์อลอนโซ่ และพรรคพวกลอยมาติด แม้ในตอนนี้ทุกคนจะสิ้นหวังแต่ กษัตริย์อลอนโซ่ ยังคงพยายามมองในแง่ดีว่าแม้เค้าจะไม่ได้กลับไป แต่ลูกชายของเค้าก็น่าจะยังมีชีวิตรอดอยู่ต่อไปได้ แอเรียลเริ่มบรรเลงเพลงนิทรา ไม่นานทุกคนก็หลับไปในฝัน แอเรียลเริ่มต้นยุยงให้ทุกคนเห็นว่า "หากกษัตริย์ตาย..ใครจะเป็นทายาทสืบต่อและหากไม่มีทายาทละ..มันก็ต้องเป็นพวกขุนนางนะสิที่จะกุมอำนาจ" ทุกคนเริ่มหวาดระแวงกันในฝันแม้ตื่นขึ้นทุกอย่างก็ดูจะไม่เหมือนเดิมซะแล้ว
ทางด้าน เฟอร์ดินาน หลังถูกจับกุม เค้าถูกใช้ให้ทำงานหนัก ขนไม้แบกฟืน ไม่มีหยุดพัก จนมิแรนด้าเริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเค้าเป็นอย่างมาก ทุกครั้งที่ พรอสเพรอส เผลอเธอเองก็มักจะเข้ามาพูดคุยให้กำลังใจอยู่เสมอ จนในที่สุดความรักก็ก่อตัวขึ้นมันเป็นความรู้สึกที่ไม่อาจหักห้ามใจได้ แม้แต่พรอสเพรอสเองก็เริ่มรู้สึกใจอ่อนทั้งสองและยอมรับความรักที่ทั้งสองมีให้กัน ไม่นานพิธีแต่งงานก็ถูกจัดขึ้นโดยมีบรรดาเหล่าภูต แห่งป่าร่วมเป็นสักขีพยานและร่วมแสดงความยินดี
ในตอนนี้ พรอสเพรอส ไม่รู้สึกโกรธเคียง ใครหรืออะไรอีกแล้วเค้าอภัยให้ทุกคนที่เคยทำไม่ดีกับเค้า จึงสั่งให้ แอเรียลไปพาพวกที่เหลือที่ยังคงหลงป่าอยู่ มาที่นี่เพื่อปรับความเข้าใจกัน เมื่ออลอนโซ่มาถึงและได้เผชิญหน้ากับพรอสเพโรเป็นครั้งแรกเค้ากล่าวว่า เค้าไม่เหลืออะไรแล้วแม้แต่ลูกชายทุกอย่างที่ทำมาล้วนไร้ค่า พลอสเพโรรีบเปิดม่านออกในทันทีเผยให้เห็น เฟอร์ดินานและมิแรนดากำลังเล่นหมากรุกกันอยู่ กษัตริย์อลอนโซ่รู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่ได้เห็นเป็นอย่างมากแต่ก็ดีใจไปพร้อมๆกัน ทั้งหมดเริ่มล้อมวงเข้าหากัน กอดกัน ปรับความเข้าใจกัน
บทส่งท้าย พรอสเพโร สั่งให้ แอเรียลคืนสติให้กับลูกเรือและบรรดาลเรือขึ้นมาใหม่ เพื่อใช้เดินทางกลับอิตาลีเพื่อกลับไปเป็น ดยุคอีกครั้ง แต่ก่อนจากไป พรอสเพโรได้คืนอิสระภาพให้แอเรียลและสั่งเป็นครั้งสุดท้ายให้ดูแลครื่น ลมในทะเลให้ดีอย่าให้ใครต้องเดือดร้อนอีก
...........................