ฉายา ซามูไรคินเอม่อน
- จิ้งจอกเพลิง -
(FOXFIRE KIN'EMON)
ค่าหัววันพีช ประมาณ
145,000,000 เบรี
อายุ ..... ปี /29 มกราคม
ส่วนสูง 277 Cm.
ปราการ ประเทศวาโนะ(Wano Country)
ตำแหน่ง ซามูไรแห่งวาโนะ(Samurai)
อาวุธ ดาบคิสุเนะ (KITSUNEBI RYU)
ผลปีศาจ ..ไม่ทราบชื่อ..พารามิเซีย/เหนือมนุษย์
ผลลวงตา : สามารถเปลี่ยนใบไม้ให้กลายเป็นสิ่งของตามที่นึกคิดได้
สมาชิก นายท่านโคสุกิ โอเด้ง(Kosuki Oden) ,นายน้อยโมโมโนะสุเกะ(Momonosuke) ,เคนจูโร่(Kenjuro) ,ไรโซ(Raizo)
เผ่าพันธุ์ มนุษย์
“ไม่มีวันลืม ไม่ลืมอย่างแน่นอน..บุญคุณที่ช่วยเหลือข้าในครั้งนี้ ......
ข้าคินเอม่อนผู้นี้.!!....จะไม่มีวันลืมมันไปตลอดชีวิต”
กล่าวโดย ซามูไรคินเอม่อน
คิตซึเนะบิริว คินเอม่อน(Kitsune bi-Kin'emon)เป็นชายที่มีรูปร่างสูงใหญ่โดยรวมรูปลักษณ์ของเค้าถอดแบบมาจากซามูไรยุคโบราณของญี่ปุ่นทั้งทรงผมที่ไว้จุก ชุดคาราเต้ลายขาวดำและสวมรองเท้าเกี๊ยญี่ปุ่น พกดาบคาตานะและมีดสั้นฮาราคีรีติดตัวเสมอ นิสัยของเค้าเรียกได้ว่าเป็นผู้ยึดถือวิถีแห่งซามูไรอย่างเคร่งครัด ไม่ขอร้องและขอความเมตตาจากผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม แต่ก็ดูเป็นคนจริงจัง มีความรักให้กับพวกพ้องอย่างเต็มเปื่ยม พร้อมที่จะเสี่ยงชีวิตเมื่อเพื่อนตกอยู่ในอันตรายแม้มันจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม
.......................
ซามูไรพเนจร คิตซึเนะบิริว คินเอม่อน แห่ง วาโนะดินแดนโพ้นทะเล เป็นผู้มีพลังจาก ผลปีศาจ ที่ยังคงเป็นปริศนา แม้แต่เจ้าตัวเองยังไม่รู้ว่าพลังนี้มีชื่อว่าอะไร มีพลังยังงัย ไม่รู้แม้กะทั่งว่าพลังที่ใช้อยู่คือพลังจากผลปีศาจ โดยคิดไปว่านี่เป็นพรสวรรค์พิเศษที่ฟ้าประทานมาให้ พลังนี้เป็นพลังที่อิงมาจากตำนาน "ทานูกิ" ที่กล่าวกันว่าทุกครั้งที่ทานูกิเพ่งมองใครคนๆนั้นจะถูกสะกดให้หลงไปกับภาพลวงตา พลังนี้จึงเป็นพลัง ผลลวงตา สายพารามิเซียที่เน้นดานการเสริมพลังมากกว่าการโจมตี โดยทุกครั้งที่ใช้จะวางใบไม้ไว้บนหัวหรือสิ่งของเพื่อใช้เป็นจุดเพ่งมองสายตาให้หลงเพ่งมองไปชั่วขณะโดยไม่รู้ตัวว่าตัวเองถูกสะกดในให้ชั่วว่าสิ่งที่จะเห็นต่อไปนั้นมีอยู่จริง
จุดอ่อน : พลังนี้คือคำลวง หลงให้เพ่งมองใบไม้หากไม่มองก็ไม่ถูกมลสะกด
จิ้งจอกเพลิง คินเอม่อน - Kinemon of Foxfire |
"ถ้าปีศาจมีอยู่จริง...จงอย่ากลัวที่จะเผชิญหน้ากับมัน
เพราะพระเจ้าจะอยู่เคียงข้าง...ผู้กล้าหาญเสมอ."
คินเอม่อน แห่งวาโนะคุนิ ซามูไรผู้มีฝีมือดาบเป็นเลิศและยังเป็นผู้มีพลังจากผลปีศาจที่แปลกประหลาดพลังของเค้าเป็นสายย่อยของสายพารามิเซียที่มีชื่อว่า “จิต” เป็นพลังที่ร่างต้นเปร่งออกมามีลักษณะคร้ายสายโลเกีย จับต้องไม่ได้มันเป็นเพียงการนึกคิดของร่างต้นจนเกิดเป็นพลังขึ้นมา โดยพลังของคินเอม่อนมีรูปแบบพลังระยะไกลในการเปลี่ยนแปลงวัตถุจากใบไม้ให้กลายเป็นวัตถุตามแต่ที่นึกคิด พลังนี้ไม่ถูกใช้ให้เห็นมากนักและอาจเป็นไปได้ว่าพลังนี้เป็นเพียงพลังเสริมที่ไม่อาจใช้โจมตีศัตรูได้เพราะเป็นพลังที่ใช้เปลี่ยนแปลงวัตถุที่ผู้อื่นนึกคิดไม่ใช่วัตถุที่เค้าคิดขึ้นจึงไม่อาจเปลี่ยนให้เป็นอาวุธหรือสิ่งของที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวมนุษย์ได้
ปรากฏตัวครั้งแรกในโลกวันพีช บนเกาะพั้งค์ฮาร์ซาดซึ่งเป็นดินแดนต้องห้ามที่มามีผู้ใดกล้าเหยียบย่าง ขึ้นบนเกาะแต่สำหรับคินเอม่อน เค้ามาที่เกาะนี้เพราะความบังเอิญ เรือที่เค้านั่งมาพร้อมกับพรรคพวกและลูกชายเกิดเรือแตกและถูกพัดมาที่เกาะนี้ แต่เมื่อลืมตาตื่นกลับไม่พบใครเลยจึงเริ่มออกเดินค้นหาไม่นานเค้าก็พบ...ชายคนหนึ่งเค้าคือ ทาฟราก้า ลอว์ 7 เทพโจรสลัดจอมโหด ลอไม้พูดพร่ำทำเพลง เข้าโจมตีใส่คินเอม่อนอย่างไม่ทันตั้งตัว เพียงชั่วพริบตาคินเอม่อนก็พ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว..เค้าหลับไปอีกแล้ว..เมื่อลืมตาขึ้นคราวนี้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมโลกกลับตาลปัตไปหมด ขยับร่างกายไม่ได้ ร้องเรียกใครก็ไม่มีใครมา มีเพียงความสิ้นหวังที่อยากจะตายๆไปซะแต่ก็ทำไม่ได้...
วันเวลาผ่านไปเนิ่นนาน จนกระทั้งมีเสียงฝีเท้าจากชายคนหนึ่งเดินเข้ามาเค้าถามว่า “นายเป็นใคร” คำพูดนี้เป็นเหมือนเสียงสวรรค์ที่ไม่ได้ยินมานาน จากชายที่มีชื่อว่า ซันจิ ด้วยความดีใจคินเอม่อนอาจจะปากเสียไปบ้างกับการสนทนาในครั้งแรกที่ได้พบ แต่ท้ายที่สุดหลังจากผ่านอันตรายมาด้วยกัน คินเอม่อนตระหนักแล้วว่าคนพวกนี้เป็นมิตรแท้ ที่หาไม่ได้ง่ายๆในท้องทะเลที่กว้างใหญ่และเค้าพร้อมที่จะช่วยสหายใหม่ของเค้าให้บรรลุจุดมุ่งหมายจนสุดทาง..แม้มันจะยากรำบากและอาจต้องสละชีวิตก็ตาม...
วันเวลาผ่านไปเนิ่นนาน จนกระทั้งมีเสียงฝีเท้าจากชายคนหนึ่งเดินเข้ามาเค้าถามว่า “นายเป็นใคร” คำพูดนี้เป็นเหมือนเสียงสวรรค์ที่ไม่ได้ยินมานาน จากชายที่มีชื่อว่า ซันจิ ด้วยความดีใจคินเอม่อนอาจจะปากเสียไปบ้างกับการสนทนาในครั้งแรกที่ได้พบ แต่ท้ายที่สุดหลังจากผ่านอันตรายมาด้วยกัน คินเอม่อนตระหนักแล้วว่าคนพวกนี้เป็นมิตรแท้ ที่หาไม่ได้ง่ายๆในท้องทะเลที่กว้างใหญ่และเค้าพร้อมที่จะช่วยสหายใหม่ของเค้าให้บรรลุจุดมุ่งหมายจนสุดทาง..แม้มันจะยากรำบากและอาจต้องสละชีวิตก็ตาม...
...........................