( GOD OF THE SEA )
สังกัด สมาชิก 1 ใน 170 ประเทศสหพันรัฐบาลโลก(World Goverment)
อายุ -- / เกิด 3 กรกฏาคม
อายุ -- / เกิด 3 กรกฏาคม
ส่วนสูง ประมาณ 650 cm.
ปราการ เกาะเงือก(Fishman Island)
ปราการ เกาะเงือก(Fishman Island)
ตำแหน่ง พระราชาเผ่าเงือกแห่งราชอาณาจักร ริวงู
( KING OF RYUGU KINGDOM )
ผลปีศาจ ----
( KING OF RYUGU KINGDOM )
ผลปีศาจ ----
อาวุธ หอกสามง่ามหรือตรีสูร(Gigantic Trident Fitting)
ครอบครัว ราชินีโอโตฮิเมะ(Otohime) ,ลูกชายคนโตฟูกะโบชิ (Fukaboshi) ,คนรองริวโบชิ(Ryuboshi) , คนเล็กมันโบชิ(Manboshi) , คนสุดท้องชิราโฮชิ( Shirahoshit)
ครอบครัว ราชินีโอโตฮิเมะ(Otohime) ,ลูกชายคนโตฟูกะโบชิ (Fukaboshi) ,คนรองริวโบชิ(Ryuboshi) , คนเล็กมันโบชิ(Manboshi) , คนสุดท้องชิราโฮชิ( Shirahoshit)
เผ่าพันธุ์ มนุษย์เงือกปลา ซีลาเคนท์(coelacanth)ปลาทะเลลึกดึกดำบรรพ์
- ชื่อ เนปจูน ในสมัยโบราณเป็นชื่อเรียกเทพเจ้าแห่งท้องทะเลของชาวโรมัน
- ปลา ซีลาเคนท์ สายพันธ์อินโดนีเซีย ถูกกล่าวขานจากชนเผ่าท้องถิ่นว่าเป็น เทพเจ้า "Raja Laut"ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า ราชาแห่งท้องทะเล
..........................【】 เปิดตำนานปลาดึกดำบรรพ์ที่เคยมีชีวิตอยู่เมื่อครั้งไดโน เสาร์ครองโลกซีลาแคนท์. ซากปลาฟอสซิลที่ยังมีชีวิต 【】
ราชาเนปจูน แห่งอาณาจักร ริวงู เป็นที่รู้จักกันดีถึงความแข็งแกร่งและน่าเกรงขามด้านพละกำลังที่มหาศาล และมีพลังที่ได้มาจากเผ่าพันธ์เงือกที่มีลักษณะคร้ายกับที่จินเบมี นั้นคือการบังคับน้ำแต่ของราชาเนปจูนต่างออกไป เป็นก่อตัวเป็นเกรียวครื่นน้ำวนที่มีพลังทำลายล้างสูงคร้ายหอกแหลมคมที่พุ่งเข้า ใส่ศัตรูนอกจากนี้ความสามารถของราชาเนปจูนยังมีความสามารถที่ได้มาจากเผ่าพันธ์ ปลาซีลาเคนท์ยักษ์ (coelacanth) ปลาชนิดนี้เป็นปลาชนิดพิเศษที่เรียกได้ว่าเก่าแก่ที่สุดในโลกสามารถทนต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งร้อนและหนาวได้ดีเป็นพิเศษสามารถอาศัยอยู่ในน้ำลึกที่มีความดันสูงได้ทำให้รู้ว่าปลาชนิดนี้ ทั้งแข็งแกร่ง อึด และทนทานแบบสุดๆ
 |
| คิงเนปจูน / King Neptune |
แต่จง.!!.หันหน้าคุย..กับศัตรูแทน.."
ราชาเนปจูนเป็นราชาอาณาจักรเงือก มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยยังหนุ่ม ซึ่งชื่อของเค้าถูกกล่าวขานกันว่าเป็นหนึ่งในสหายสนิทของ หนวดขาว ทำให้เกาะเงือกของ ราชาเนปจูนได้รับการคุ้มครองจาก กลุ่มของหนวดขาว แต่ทว่าอำนาจของหนวดขาวทำได้เพียงคุ้มกันผู้ที่เกรงกลัว ชื่อเสียงของหนวดขาวเท่านั้นแต่สำหรับผู้ที่เป็นศัตรูหรือเกียจชังหนวดขาว การเหยียบย่างเข้าไปบนเกาะที่หนวดขาวคุ้มครองอยู่ และลักพาตัวเงือกไปขายเป็นทาส คือการดูหมิ่นอย่างแรงซึ่งนั่นก็มีน้อยคนนักที่กล้าทำ ทำให้เกาะเงือกเงืยบ สงบเรื่อยมา แต่ดูเหมือนความสงบนี้จะไม่คงทนถาวร ข่าวการตายของหนวดขาวกระจายไปทั่วโลกอำนาจของหนวดขาวที่คุ้มครองเกาะน้อย ใหญ่ทั่วโลกก็หมดลงตามไปด้วยทำให้เหล่าโจรสลัดต่างพากันมาที่เกาะเงือกเพื่อ หวังจะจับ นางเงือกที่มีราคาสูงถึงตัวละ 70 ล้านเบรี ไปขายในตลาดค้าทาส
ทำให้ราชาเนปจูนและเหล่าทหารองครักษ์พยายามอย่างเต็มที่เพื่อคุ้มครองประชากรของเกาะเงือกให้พ้นภัย จึงจำเป็นต้องหาขุมกำลังใหม่มาคุ้มครองประชากรนางเงือกที่มีจำนวนน้อยอยู่แล้วไม่ใช้สูญพันธืไป โดยผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกันกับหนวดขาวที่พอจะมีบารมีสูสีกันก็คือ 1 ใน 4 จักรพรรดิ "บิ็กมัม" ชาล็อต หลินหลิน แต่การคุ้มครองครั้งนี้ต่างออกไปจากที่ครั้งหนวดขาวที่เคยคุ้มครองในแบบเพื่อน แต่กับบิ๊กมัมเป็นการคุ้มครองในแบบธุรกิจที่ต้องจ่ายค่าคุ้มครองเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน
................................
【】นอกเรื่องวันพีชความรู้รอบตัว【】
เปิดตำนานปลาดึกดำบรรพ์ซีลาแคนท์... ซากปลาฟอสซิลที่ยังมีชีวิต!!....
ปลาซีลาแคนท์ (Latimer Chalumnei) จากหลักฐานทางซากฟอสซิล ปลาซีลาแคนท์ถือกำเนิดขึ้นบนโลกเราเมื่อ 360 ล้านปีก่อน โดยยุคที่ปลาซีลาแคนท์รุ่งเรืองที่สุดเมื่อ 240 ล้านปีก่อน ก่อนปี 1938 มนุษย์เราเชื่อว่าปลาชนิดนี้ได้ สูญพันธุ์ไปแล้วเมื่อ 80 ล้านปีก่อน เนื่องจากไม่มีหลักฐานทางฟอสซิลวิทยาเลยในช่วงเวลาดังกล่าว เหตุผลทางวิทยาศาสตร์เพียงข้อเดียวที่พอจะฟังขึ้นในการอธิบายเกี่ยวกับ เรื่องนี้ก็คือแหล่งที่อยู่ของปลาชนิดนี้เป็นบริเวณ ของเกาะภูเขาไฟเกิดใหม่ที่มีผาชันและถ้ำใต้น้ำในแนวดิ่งซึ่งไม่เอื้ออำนวยอย่างยิ่งต่อการเกิดฟอสซิล
เปิดตำนานปลาดึกดำบรรพ์ซีลาแคนท์... ซากปลาฟอสซิลที่ยังมีชีวิต!!....
ปลาซีลาแคนท์ (Latimer Chalumnei) จากหลักฐานทางซากฟอสซิล ปลาซีลาแคนท์ถือกำเนิดขึ้นบนโลกเราเมื่อ 360 ล้านปีก่อน โดยยุคที่ปลาซีลาแคนท์รุ่งเรืองที่สุดเมื่อ 240 ล้านปีก่อน ก่อนปี 1938 มนุษย์เราเชื่อว่าปลาชนิดนี้ได้ สูญพันธุ์ไปแล้วเมื่อ 80 ล้านปีก่อน เนื่องจากไม่มีหลักฐานทางฟอสซิลวิทยาเลยในช่วงเวลาดังกล่าว เหตุผลทางวิทยาศาสตร์เพียงข้อเดียวที่พอจะฟังขึ้นในการอธิบายเกี่ยวกับ เรื่องนี้ก็คือแหล่งที่อยู่ของปลาชนิดนี้เป็นบริเวณ ของเกาะภูเขาไฟเกิดใหม่ที่มีผาชันและถ้ำใต้น้ำในแนวดิ่งซึ่งไม่เอื้ออำนวยอย่างยิ่งต่อการเกิดฟอสซิล
 |
| ปลาซีลาแคนท์ /Latimer Chalumnei |
ชาวเกาะ Comoran รู้จักปลาชนิดนี้ในนามของปลา Gombessa และทุกๆครั้งที่คนเหล่านี้จับปลาซีลาคานท์ได้ เขาจะปล่อยมันกลับลงทะเล เพราะเนื้อมันกินไม่ได้ (เนี่ย ถ้าเนื้อของมันกินได้และมีรสชาติอร่อยคงไม่เหลือมาให้นักวิทยาศาสตร์ได้พบ หรอก ) ในช่วงเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ชาวประมงจับปลาซีลาคานท์ได้โดยบังเอิญ 3-12 ตัว ถึงแม้จะได้รับความคุ้มครองเพียงใด ปลาซีลาคานท์นั้น ก็ลดจำนวนเหลือน้อยลงไปทุกที สาเหตุเพราะ การลักลอบฆ่ามันเพื่อแลกกับเงิน 10,000-50,000 บาท ในขณะที่รายได้ต่อปีของประชากรชาว Comoran เพียง 10,000 บาทต่อปีเท่านั้น และการที่ชาวเกาะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นก็ทำให้การลักลอบจับปลาซีลาคานท์มีมาก ขึ้นตามไปด้วย ในอดีตพบว่าปลาซีลาคานท์อาศัยอยู่ในถ้ำใต้น้ำ 5-20 ตัว แต่ทุกวันนี้มีเพียง 5-6 ตัวเท่านั้น ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยมากเลยทีเดียว
 |
| ปลา์ซีลาแคนท์ /Coelacanth |
สมาคมนักอนุรักษ์ทั้งหลายจึงพยายามอนุรักษ์ ปลาดึกดำบรรพ์นี้โดยขอร้องให้รัฐบาล Comoran ออกกฎหมายห้ามชาวประมงจับปลาน้ำลึกและให้ธนาคารโลกสนับสนุนโครงการติดตั้ง อุปกรณ์ถ่ายภาพใต้น้ำระยะไกลเพื่อจับภาพตามถ้ำที่ปลาซีลาคานท์อาศัยอยู่เป็น วีดีโอสดๆให้นักท่องเที่ยวและนักวิทยาศาสตร์ได้ชมกัน การติดตั้งอุปกรณ์ถ่ายภาพใต้น้ำระยะไกลสามารถนำเงินเข้ามาสู่วงการธุรกิจ ท่องเที่ยวของ Comoran มากและจะทำให้ทุกคนมีความรู้สึกที่จะอนุรักษ์ปลาชนิดนี้ หากมิฉะนั้นแล้วภายในระยะเวลา 5 ปีจะไม่มีปลาซีลาคานท์ให้เห็นกันอีกเลย สามารถอยู่มาได้เป็นระยะเวลา 400 ร้อยล้านปี ผ่านหายนะครั้งใหญ่ของโลกมาได้แต่กลับต้องมาสูญพันธุ์ด้วยน้ำมือของมนุษย์ เพียงระยะเวลาแค่ 60 ปีเชียวหรือ ?
..................................