ONEPIECE StrawHat Pirate_มังกี้ ดี ลูฟี่_Monkey D. Luffy ★ モンキー

WANTED NewWorld Monkey D.Luffy

ฉายา  ลูฟี่มนุษย์ยาง 
  (THE BOUND MAN)
    - หมวกฟาง ลูฟี่ -
 ( STRAWHAT LUFFY )
ค่าหัว New!  1,5000,000,000
- 500,000,000
- 30,000,000 เบรี
อายุ 19 ปี/ 5 พฏษภาคม

- หมู่บ้านฟูซา
- เกิดที่ทะเลตะวันออก(อิสต์บลู - Eastblue)

ส่วนสูง 174 cm./กรุ๊บเลือด F

เรือ เทาซัน ซันนี่ (Thousand Sunny)

ตำแหน่ง กัปตันกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง(CAPTION OF STRAWHAT PIRATE)

ผลปีศาจ โกมุ โกมุ(Gomu Gomu)สายพาราเซีย/เหนือมนุษย์

ผลยาง: มีความสามารถในการใช้ร่างกายที่เป็นยางในการเป่าลมเข้าไปจนเหมือนเป็นลูกโป่งเพื่อช่วยในการรับและโจมตีศัตรูด้วยร่างกายขนาดยักษ์

ธาตุปฏิปักษ์-จุดอ่อน  แพ้ความร้อนและไฟ
ความสามารถพิเศษ  จิตใจที่มุ่งมั่นและไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด
- ฮาคิแห่งราชัน(Haoshoku Haki)และความสามารถทั้ง 3 ของฮาคิ
ลูกเรือ โซโล(Zoro) ,นามิ(Nami) ,อุซป(Usopp) ,ซันจิ(Sanji) ,บลู๊ค(Brook) ,ช็อปเปอร์(Chopper) ,โรบิน(Robin) ,แฟรงกี้(FrankY)

ครอบครัว ปู่-มังกี้ ดี การ์บ(Monky D.Garp) พ่อ-มังกี้ ดี ดราก้อน(Monky D.Dragon) พี่-โปรโตกัส ดีเอส(Portgas D.Ace)

เผ่าพันธุ์  มนุษย์-ผู้สืบสายเลือดแห่งดี(สามารถได้ยินเสียงในจิตใจของทุกสิ่งมีชีวิต)

"โจรสลัดที่ทิ้งชื่อของตนมีแต่ตอนตายเท่านั้น....

จงจำชื่อของฉันเอาไว้ให้ดี..เพราะฉันคือคนที่จะเป็น.!.

จ้าวแห่งโจรสลัดในอนาคต...."

กล่าวโดย มังกี้ ลูฟี่

               ประวัติ.มังกี้ ดี ลูฟี่(Monkey D. Luffy) หลังผ่านเหตุการณ์ที่มารีนฟอร์ดมา 2 ปี(2Y) ลูฟี่ปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมความมั่นใจเต็มเปี่ยม กับรูปร่างที่สูงกว่าเดิมเล็กน้อยและดูเหมือนแขนจะยาวกว่าเดิมด้วย  ลักษณะโดยทั่วไปเปลียนแปลงจากเดิมไม่มากนักนอกจากจุดเด่นเป็นรอยแผลเป็นรูปกากบาทขนาดใหญ่ที่กลางหน้าอกซึ่งเกิดจากฝีมืของอาคาอินุ นอกจากรูปร่าง เสื้อผ้าและหมวกฟางที่คงเดิมมีสิ่งหนึ่งที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิงนั่นคือชื่อเสียงของเค้าที่โด่งดังในหมู่โจรสลัดและพวกทหารเรือมากขึ้น แต่นั่นน่าจะป็นเรื่องร้ายมากกว่าดีเพราะส่วนใหญ่ต้องการจัดการลูฟี่เพื่อหวังชื่อเสียง แต่นั่นก็ต้องผ่านลูกเรือจอมเก๋าทั้ง 8 ของเค้าไปให้ได้ซะก่อน  หลังผ่านเรื่องย่ำแย่ไปจิตใจของเค้ายังคงใสซื่อแต่ก็กล้าหาญปราศจากความกลัวใดๆเหมือนดั่งเช่นในอดีตต่างออกไปก็ตรงที่เค้าดูใจร้อนขึ้น หากเห็นผู้อื่นถูกรังแกจะไม่รีรอรีบเข้าไปช่วยในทันทีนั่นอาจเป็นเพราะเค้ารู้ดีว่าเพียงเสี้ยววินาทีที่รีรออาจต้องสูญเสียคนที่รักไป.........

        -   ลูฟี่เป็นน้องชายคนที่ 4.   สัญชาติบลาซิล.
         -   ชอบกินเนื้อติดกระดูกและเนื้อก้อนใหญ่ๆ
         -   ความฝันนอนระเมอ"เนื้อ เนื้อ เนื้อ....ราชาโจรสลัด !!.."  
        -  ใส่เสื้อทีมฟุตบอลหมายเลข (01 - Go) และ (51 - Mu) แปลว่ายาง 
         -  ชอบกลิ่นเนื้อ.  ชอบดอกดาวกระจาย(คอสมอส-Cosmos).  สีประจำตัวคือสีแดง.  ชอบเลี้ยงลิง. ทายาทดราก้อน(มังกร-Dragon)
.........................

► เปิดตำนานโจรสลัดราชสีห์ผู้บ้าครั่ง เทวทูตกลางไฟสงคราม เฮนดริ จาคอฟ ลูซิเฟอร์ -FALLEN ANGEL ◄

   

        หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่มารีนฟอร์ด แม้ว่าลูฟี่จะสามารถหนีรอดมาได้แต่เมื่อรู้สึกตัวเค้ากลับพบกับความจริงที่แสนเจ็บปวดในการสูญเสียพี่ชายอันเป็นที่รักและภาคภูมิใจไป...อีกครั้งนึงแล้วหลังจากสูญเสีย ซาโบไปความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้งแล้ว ทำให้เค้าคิดว่าทั้งหมดเป็นเพราะความอ่อนแอของเค้าที่ไม่สามารถปกป้องและช่วยพี่ชายได้และเค้าน่าจะตาย......ตายไปซะ...... โชคยังดีที่ในขณะนั้นมี จินเบ อยู่ด้วยทำให้เข้าใจสิ่งที่ลูฟี่เผชิญอยู่นั้นคือการสูญเสียคนสำคัญที่เป็นเหมือนครอบครัวเดียวกันไปโดยชี้ให้ลูฟี่เห็นว่า ความตายนั้นอย่างไร้ประโยชน์นั้นช่างไร้คุณค่าและไร้ความหมาย  จงมีชีวิตอยู่เพื่อคนที่รักและพวกพ้องที่เชื่อมั่นในตัวเรา

"ไม่มีใครลืมครอบครัวที่จากไปได้.....

แต่หากต้องการรับผิดชอบต่อการตายของเค้า..

ก็จงมีชีวิตอยู่และสานฝันของผู้ล่วงลับให้เป็นจริงต่อไป" 

           ทำให้ลูฟี่รู้ตัวถึงความฝันของเอสในการเป็นโจรสลัดที่ยิ่งใหญ่และใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรีตามใจปรารถนา จึงตั้งใจจะสานต่อความฝันนี้เอง  หลังจากรู้สึกตัวลูฟี่คิดถึงพวกพรรคที่เชื่อมั่นในตัวเค้าเป็นอย่างมากและเพื่อปกป้องพวกเค้าจึงจำเป็นต้องแข็งแกร่งกว่านี้ขึ้นไปอีกโชคดีที่ช่วงเวลานั้น เรย์ลี่ที่ทราบข่าวลูฟี่จึงตามมาหาที่เกาะ อเมซอน ลิลลี่และเสนอที่จะสอนให้ลูฟี่ได้ใช้พลัง ฮาคิ(HAKI) ทั้งสามที่ถูกซ่อนอยู่ภายในตัวของลูฟี่ให้เป็นเพื่อเพิ่มพลังในการโจมตีให้มากขึ้นและใช้ผสมผสานกับพลังผลปีศาจให้สามารถใช้ควบคู่กันในการต่อสู้และใช้มันต่อกรกับเหล่าโจรสลัดมากฝีมือและพวกทหารเรือยศสูง ในอนาคตได้อย่างเท่าเทียมกัน  ซึ่งในตอนแรกลูฟี่ยังไม่รู้จักพลังฮาคิมากนักแต่เมื่อได้รับการสั่งสอนจากเรย์ลี่ทำให้เข้าใจว่าพลังฮาคินั้นช่างร้ายกาจและหลากหลาย มีหลายครั้งที่ศัตรูของเค้าใช้มันแต่ไม่รู้ว่าคืออะไรรู้แต่ว่ามันช่างแข็งแกร่งและร้ายกาจ แต่จากนี้ต่อไปเค้าเองก็จะแข็งแกร่งเช่นนั้นเหมือนกันและจะไม่แพ้ใครอีกต่อไป 

ประวัติชีวิตวัยเด็ก มังกี้ ดี.ลูฟี่(Luffy Romance Dawn )

มังกี้ ดี ลูฟี่(Monkey D. Luffy)

"สักวัน สักวัน..!. ผมจะแข็งแกร่งและเก่งขึ้นกว่านี้........

เพื่อไม่ให้ใครต้องมาเจ็บตัวเพราะผมอีก...!..."

                   ในวัยเด็กลูฟี  มีอดีตที่แสนเศร้าไม่แพ้ตัวละครอื่นๆเลยโดยลูฟี่เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกทิ้ง ตั้งแต่เกิดโดยไม่เคยรับรู้ว่าใครเป็นพ่อและแม่ โดยถูกทิ้งไว้ที่หมู่บ้านฟูซาบนเกาะ ดาวท์(DAWN) มีพลโทการ์ปที่เป็นลุงคอยดูแล  แต่ก็ไม่สามารถดูแลลูฟี่ได้ตลอดเพราะเค้ามีหน้าที่ๆสำคัญกว่าต้องทำจึงปล่อยให้ลูฟี่อยู่เพียงลำพัง ช่วงหนึ่งในวัยเด็กมีกลุ่มโจรสลัดกลุ่มหนึ่งได้เข้ามาในหมู่บ้าน ลูฟี่จึงได้พบกับกลุ่มโจรสลัดที่มีชื่อว่า กลุ่มโจรสลัดผมแดง ลูฟี่ที่เหงาอยู่แล้วด้วยความที่เป็นคนอารมณ์ดีในเวลาไม่นานก็ได้เป็นเพื่อนกับเหล่าบรรดาโจรสลัดกลุ่มผมแดง และอีกทั้งยังอยากจะขอเข้าร่วมกลุ่มโจรสลัดผมแดงอีกด้วยแต่ แชงคูส หัวหน้ากลุ่มโจรสลัดผมแดงไม่ต้องการให้ลูฟี่เข้าร่วมเพราะเห็นว่ายังเด็กเหลือเกินอีก 10ปีค่อยมาพูดกัน.  ช่วงระหว่างนี้เองลูฟี่ได้กินผลปีศาจ ที่ชื่อว่าผลโกมุโกมุ เข้าไปโดยคิดว่าเป็นผลไม้ธรรมดา ทำให้ร่างกายมีลักษณะพิเศษคือ มีคุณสมบัติเป็นยางทั้งตัวและจะว่ายน้ำไม่ได้ไปตลอดชีวิต ในช่วงที่กำลังคุยกันอยู่มีกลุ่มโจรภูเขาได้เข้ามาในหมู่บ้านและไปหาเรื่องกับกลุ่มโจรสลัดผมแดงที่กำลังจัดงานฉลองกันอยู่ แต่ว่าพวกแชงคูสไม่ตอบโต้คืน ซึ่งทำให้ลูฟี่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก

            หลังจากนั้นลูฟี่จึงไปแก้แค้นให้พวกแชงคูส แต่ว่าถูกกลุ่มโจรภูเขาจับตัวไป พวกแชงคูสจึงเข้าไปช่วยจากพวกโจรภูเขา แต่ฮิกุมะที่เป็นหัวหน้าไม่สามารถสู้ได้ จึงจับตัวลูฟี่ไปเป็นตัวประกันเพื่อหนีออกทางทะเล แชงคูสได้ตามไปช่วยลูฟี่ออกมาได้แต่ตัวแชงคูสนั้นถูกสัตว์ร้ายในทะเลกัดแขน ขาดไปข้างหนึ่ง   หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มโจรสลัดผมแดง ก็ได้เดินทางไปที่อื่นต่อและแชงคูสได้มอบหมวกฟางที่เขาใส่อยู่เป็นประจำให้ ลูฟี่ และลูฟี่ก็ได้สัญญากับแชงคูสว่าจะก้าวข้ามแชงคูสไปอีกและจะเป็นราชาโจรสลัดที่ปกครองทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

มังกี้ ดี ลูฟี่ในวัยเด็ก - D. Luffy

           หลังจากที่แชงคูสจากไปข่าวที่มีโจรสลัดมาที่เกาะได้ยินไปถึงหู การ์ปทำให้เค้ารีบมาที่เกาะในทันทีและรีบนำลูฟี่ไปให้ดาดันที่อยู่ในภูเขาลึกและไกลจากท่าเรือเพื่อหวังเป็นการตัดไฟแต่ต้นลมไม่ต้องการให้ลูฟี่เห็นโจรสลัดคนไหนอีกและคิดที่จะเอาเป็นตัวอย่างเพราะสายเลือดมันแรงเหลือเกิน.  ดาดันนั้นเป็นโจรภูเขาของหมู่บ้าน ไวต์มิลที่ห่างไกลผู้คนคอยดูแลแทน ลูฟี่ที่ในขณะนั้นอายุเพียง 6ขวบและได้กินผลปีศาจเข้าไปแล้วได้รู้จักกับเอสที่อายุ 10ขวบเป็นครั้งแรกซึ่งเอสรู้สึกไม่ชอบหน้าลูฟี่ตั้งแต่แรกเห็นแต่ตรงกันข้าม ลูฟี่พยายามผูกมิตรและตามติดเอสไปทุกที่และทำให้ความลับของเอสและซาโบที่ ต้องการรวบรวมเงินไปซื้อเรือเพื่อออกทะเลไปเป็นโจรสลัด ทำให้เอสคิดจะฆ่าลูฟี่ปิดปากแต่ก็ทำไม่ลงในเวลาต่อมาพวกกลุ่มโจรสลัดบลูแจมต้องการ สมบัติที่เอสและซาโบสะสมไว้จึงจับลูฟี่ไปทรมานแต่ลูฟี่ก็ไม่ยอมตายดีกว่ายอมบอกที่ซ่อนเงิน ทำให้เอสและซาโบซึ้งในน้ำใจเป็นอย่างมากบุกเข้าไปช่วยลูฟี่ออกมาได้และทำให้มิตรภาพของทั้งสาม ยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นและกลายมาเป็นพี่น้องร่วมสาบานกันและสัญญาว่าจะไม่ทอดทิ้งกันไปตลอด

 
.........................................

【】 นอกเรื่องวันพีชความรู้รอบตัว【】

              เปิดตำนานโจรสลัดราชสีห์ เฮนดริ จาคอฟ ลูซิเฟอร์(Hendrick Jacobszoon Lucifer) 1583-1627  Netherlands

             เฮนดริ จาคอฟ ลูซิเฟอร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ fallen angel Lucifer  เป็นโจรสลัดชาวดัทซ์ (เนเธอร์แลนต์) เกิด ในปี ค.ศ.1583 ชีวิตของลูซิเฟอร์ไม่เป็นที่เปิดเผยมากนักรู้เพียงแต่ว่าเค้าเป็นกัปตันเรือ ขนส่งสินค้าของ บริษัท เวสต์อินเดีย ไม่ปรากฏชื่อครอบครัวให้ได้ทราบรู้เพียงแต่ว่ามีลูกชาย 1 คนซึ่งในภายหลังได้สืบทอดตำแหน่งกัปตันเรือ เทเวอร์(Ter Veere) ต่อจากพ่อของเค้า

                ในปี ค.ศ. 1627 เป็นช่วงปีที่รุ่งเรืองและมีชื่อเสียงมากที่สุดของเค้าแต่ก็เป็นช่วงปีที่นำมาซึ่งจุดจบของเค้าเช่นกัน ในวันที่ 22 มกราคม ลูซิเฟอร์นำกองเรือ 36ลำ พร้อมด้วยสินค้าเดินทางไปยังบราซิลเพื่อตั้งรกรากเป็นอาณานิคมใหม่

เฮนดริ จาคอฟ ลูซิเฟอร์ - fallen angel Lucifer

            ระหว่างการเดินทาง  3 มีนาคม  เรือของพวกเค้าก็มาถึงแม่น้ำอเมซอน  แต่ดูเหมือนอาณานิคมใหม่ได้ย้ายไปเสียแล้วทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังและ ปริศนาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่  คนกลุ่มหนึ่งต้องการจะตั้งรกรากที่นี่ต่อแต่ลูซิเฟอร์ต้องการออกค้นหาความจริงจึงออกตามข่าวในทันที โดยส่งลูกน้องสองคนไปที่หมู่บ้านของชาวอินเดียนท้องถิ่นเพื่อสอบถาม ถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ได้ความว่า อาณานิคมเริ่มขยายตัวมากขึ้นจนทำให้อินเดียนแดงท้องถิ่นเผ่าอื่นเริ่มไม่พอ ใจจนเกิดการกระทบกะทั่งจนเกิดการต่อสู้กันขึ้น ประชากรส่วนหนึ่งเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะจึงย้ายถิ่นฐานไป    ลูซิเฟอร์เมื่อได้ยินจึงแล่นเรือเรียบชายฝั่ง บาร์บาโดส ไปทางตะวันตกของคิวบาจนมาถึงชายฝั่งของบราซิลจึงขึ้นฝั่งที่นี่เพื่อหา เสบียง  แลกเปลี่ยนสินค้ากับชาวพื้นเมืองและสอบถามข้อมูล วันที่ 4 พฏษภาคม ได้พบเรือสัญชาติดัตซ์โดยบังเอิญ 2 ลำคือ Kater และ Bruinvis หลังจากพูดคุยกันทั้งหมอก็ตกลงเป็นพันธมิตรร่วมเดินทางไปด้วยกัน

             10 พฤษภาคม  1627   กองเรือของเค้าพบเรือ ลำหนึ่งลอยนิ่งอยู่จึงเข้าไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นของพวกสเปน แต่ดูเหมือนจะเสียหนักจากการรบกับเรือของพวกอังกฏษหลังจากสำรวจและปล้นสะดม เอาของมีค่ามาจนหมดพวกเค้าก็เผาเรือทิ้งและแล่นเรือจากไป  วันที่ 26 พฏษภาคม เรือแล่นมาถึง เฮติ วันที่ 10 มิถุนายน เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นจุดสนใจจากกองเรือของพวกสเปน พวกเค้าตัดสินใจแยกกองเรือออกเป็น 2 ส่วน  3 ลำแล่นไปทางใต้ของจาเมก้า อีก 2 ลำแล่นไปตามแนวชายฝั่งทางใต้ของคิวบาก่อนจะมาบรรจบกันที่เกาะแห่งหนึ่งและ เดินทางร่วมกันต่อไปยัง ซานแอนโทนิโอ ทางตะวันตกของคิวบา

           8 กรกฏาคม  1627  กองเรือของลูซิเฟอร์ พบกองเรือขนสินค้าขนาดใหญ่ของพวกสเปนชื่อ เซนต์ แอนโธนี่เข้า จึงเกิดการปะทะครั้งใหญ่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ขึ้น แต่การโจมตีครั้งนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะผู้นำของฝ่ายสเปนเป็นถึงพลเรือ เอกที่มากประสบการ ฝ่ายสเปนที่มีจำนวนเรือมากกว่าเริ่มปะกบเรือของฝ่ายลูซิเฟอร์ และระดมยิงจนเรือเริ่มลุกไหม้ แม้กะนั้น ลูซิเฟอร์ยังคงใช้ดาบคู่กายฟาดฟันศัตรูอย่างไม่ลดละฆ่าพวกสเปนได้หลายสิบคน ก่อนจะถูกยิงด้วยปืนเข้าที่กลางหน้าอกบาดเจ็บสาหัสแต่จากคำบอกเล่าของบรรดาลูกเรือ กัปตันของพวกเค้าแม้บาดเจ็บเลือดไหลนองแต่ก็ยังคงสู้ต่อดั่งสิงโตผู้บ้าครั่ง  จนสามารถเอาชนะศึกครั้งนี้มาได้และยึดเรือขนสินค้าของพวกสเปนที่บรรทุกหนัง สัตว์กว่า 4280 ผืน ขี้ผึ้งและเหรียญทองอีกจำนวนมากมาได้

         หลัง จากถ่ายเทสมบัติมายังเรือของตนได้ทั้งหมด ลูซิเฟอร์ เดินกลับเข้าไปยังห้องพักส่วนตัวของเค้าแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง ด้วยความอ่อนเพลีย  แต่จากบาดแผลที่ได้รับจากสงคราม "ทำให้เค้าไม่ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกเลย.." ในขณะที่ เรือกำลังเดินทางกลับไปยังบ้านเกิด

..........................