One Piece Blackbeard มาร์แชล ดี ทีช Marshall D.Teach ★マーシャル・D・ティーチ

WANTED Marshall D.Teach 

ฉายา เดอะแบล็ค(BLACK)
  - ทีช.หนวดดำ -
   ( BLACKBEARD )

ค่าหัววันพีช จับตาย 0 เบรี
 อายุ 40  ปี/เกิด 3 สิงหาคม  
ส่วนสูง  344 cm.(11 ฟุต 2นิ้ว) 
เรือ Sabel of Xebec
ตำแหน่ง  กัปตันกลุ่มโจรสลัดหนวดดำ ดี.ทีช
   ( CAPTION OF BLACKBEARD PIRATE ) 
 -  1 ใน 7 เทพโจรสลัด(Seven Shichibukai) 
ผลปีศาจ   2 ชนิดในร่างเดียว
 มือขวา ยามิ ยามิ (YamiYami) สายโรเกีย  
ผล ความมืด : ดูดกลืนทุกสิ่งรวมถึงทำให้พลังของผลปีศาจอื่นสิ้นสภาพชั่วคราว

 มือซ้าย กูระ กูระ (GuraGura) สายพารามิเซีย

ผล แผ่นดินไหว : สามารถสร้างครื่นแผ่นดินไหวที่สามารถจมเกาะได้ในพริบตา  
อาวุธ ปืนสั้นหลายกระบอกและกรงเล็บเหล็ก
ลูกเรือ วอร์น ออก้า (Van Auger)  ,จีซัส บาเจส (Jesus Burgess) ,ด็อกเตอร์คิว(Doc Q) ,ราฟิต (Lafitte) ,ชิริว(Shiryuu)  ,ซานจวน วูลฟ์ (San Juan Wolf) ,วาสโก้ ช็อต(Basco Shot) ,แคทาลีนา ดีวอน (Catarina Devon)  ,อาบาโล่ ปิซาร์โร่ (Abalo Pizarro)

 เผ่าพันธุ์ มนุษย์ผู้สืบสายเลือดแห่งดี(มีความพิเศษอยู่ที่ร่างกายที่ทนมือ ทนเท้าได้ดี)

"...ข้า..!..คือผู้ที่โกลโรเจอร์เคยกล่าวไว้เมื่อนานมาแล้ว..."

"ผู้มีสายเลือดแห่ง .D จะเป็นผู้นำพาไปสู่ยุคสมัยใหม่"

 กล่าวโดย มาร์แชล ดี.ทีช  

           ประวัติ.มาร์แชล ดี ทีช(Marshall D.Teach) มาร์แชล เป็นชื่อสายพันธ์หนึ่งของค้างคาว มาจากชื่อเต็มๆคือ มงกุฎมาร์แชล มีลักษณะและรูปร่างใหญ่มีกร้ามเนื้อที่แข็งแกร่งและทนต่อการโจมตีทุกรูปแบบได้ดีเป็นพิเศษรวมถึงการรักษาบาดแผลให้หายเป็นปกติก็ทำได้อย่างรวดเร็วเค้าเป็นโจรสลัดที่มี สายเลือดแห่ง .D ซึ้งในโลกของ วันพีช มีเพียง 8 คนเท่านั้น โกลโรเจอร์เองก็มีเช่นกัน  ซึ้งถ้าดูภายนอกเหมือนจะไม่ร้ายกาจมากนัก แต่แฝงไว้ด้วยปริศนามากมาย อีกทั้งหนวดดำยังมีฝีมือสูงขนาดที่เคยฝากแผลไว้ที่บริเวณตาด้านซ้ายของแชงคูสเมื่อครั้งที่ยังไม่ได้กินผลปีศาจอีกด้วย ซึ้งจุดมุ่งหมายที่ยิ่งใหญ่สูงสุดเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือการเป็น "จ้าวแห่งโจรสลัด" ที่ปกครองด้วยความหวาดกลัว 

    - ชื่อของทิชนั้นในภาษาญี่ปุ่น ออกเสียงว่า Hige หรือ Kurohige เคราดำ

     - อายุของทิชดูอ่อนกว่าหน้าเป็นอันมากเพียง 38 โดยดูจากที่เค้าร่วมกับกลุ่มหนวดขาวตอนอายุ 16ปีซึ่งเป็นช่วงที่โกล โรเจอร์ตายและขณะนี้ผ่านมา 22ปี 

     - ชื่อของทิชมาจากชื่อของ โจรสลัดชื่อดังและชั่วร้ายที่สุดในอดีตในชื่อ Edward Teach หรือ Edward Thatchเป็นโจรสลัดอยู่ในแถบ น็อทโคโรไรน่า ทางตะวันออกของอเมริกามีอายุอยู่ในช่วงศัตวรรษที่ 18
....................................
【】  เปิดตำนานโจรสลัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในโลก กับชื่อหนวดดำเอ็ดเวิร์ด ทีชจอมโหดหรือไอ้เคราดำ ปีศาจโจรสลัดคนสุดท้ายแห่งแคริบเบี้ยน  / THE BLACKBEARD 【】 
 
 

 

       ชื่อของ ทีช หรือ มาร์แชล ดี ทีช รู้จักในนามสมาชิกคนหนึ่งของกลุ่ม โจรสลัดหนวดขาว เป็นลูกน้องในหน่วยที่สองของ โปรโตกัส ดี.เอซ และลือกันว่าเป็นคนที่มีฝีมือสูงมากแต่ไม่มีค่าหัวว่ากันว่าทีช ไม่ต้องการความโด่งดังจึงเก็บซ่อนความเก่งกาจของตนเองไว้เบื้องหลังชัยชนะ และรอวันแห่งโชคชะตาที่จะมาถึง..เค้าเก็บตัวเงียบมากว่า 20 ปีและทำตัวให้เงียบที่สุดเพื่อจุดมุ่งหมายถูกวางไว้เป็นลำดับขั้น.. 

         ขั้นที่หนึ่ง - รอคอยและค้นหาพลังของผลปีศาจที่ร้ายกาจที่สุดเพียง1 เดียวของโลก ซึ่งหลังจากได้ข่าวว่าซัจ(Thatch)หัวหน้าหน่วยที่ 4 ของกลุ่มมีผลปีศาจในตำนานที่กำลังตามหาอยู่ในครอบครองลำดับขั้นแห่งชะตา กรรมจึงได้เริ่มขึ้นโดยการฆ่าพวกพ้องของตนเพื่อแย่งชิง ผลความมืด สาย โลเกียมาเป็นของตนซึ้งเป็นผลปีศาจสายโลเกียแบบพิเศษ ที่สามารถโจมตีโดนร่างจริงได้แต่จะได้ความสามารถพิเศษอย่างอื่นที่ทรงอำอาจ มากที่สุดมาแทนและจึงแยกตัวออกจากกลุ่มโจรสลัดหนวดขาว มาก่อตั้งกลุ่มโจรสลัดหนวดดำ ในทันที

หนวดดำ มาร์แชล ดี ทีช(Marshall D.Teach)

"ฆ่าทุกคนที่เข้ามาขวางทางและช่วงชิงสมบัติมาเป็นของตน

ใครๆก็ว่าฉันมันเลว ชั่วช้า สกปรก และโกหก...

ก็แล้วยังงัย นี่แหละโจรสลัดในแบบของฉัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า..."

       ขั้นที่สอง - เสนอตัวเข้าเป็นเจ็ดเทพโจรสลัด ในช่วงหลังของเนื้อเรื่องเพื่อแทน ตำแหน่งที่ว่างลงของ เดอะครอคโคไดล์ โดยเร่งสร้างผลงานให้รัฐบาลโลกเห็น โดยคิดจะจัดการโจรสลัดค่าหัวเกิน 100ล้านให้ได้ แต่ต้องพบกับเอสที่ตามมาทันโดยสามารถเอาชนะเอสหมัดอัคคีได้ และนำตัวเอสส่งให้กับรัฐบาล จึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ็ดเทพโจรสลัด

        ขั้นที่สาม -  รวบรวมพักพวกที่เก่งกาจและชั่วร้ายที่สุด หลังจากได้เป็น 7เทพโจรสลัดทำให้มีอภิสิทธิ์เข้าออกในเขตพื้นที่หวงห้ามทางการทหารของทหารเรือได้รวมถึง "คุกนรกใต้สมุทร"ด้วยสิ่งที่ต้องการจากคุกนรกคือ พรรคพวกที่แข็งแกร่งและร้ายกาจที่สุดในประวัติศาสตร์จากชั้นที่ 6โดยให้นักโทษในชั้นที่6สู้กันจนกว่าจะตายผู้เหลือรอดคือสมาชิกคนใหม่ของกลุ่ม

        ขั้นที่สี่ - ครอบครองพลังที่ทำลายโลกได้แม้แต่ทหารเรือยังต้องยำเกรง ต้องการพลังที่ร้ายกาจที่สุดในบรรดาผลปีศาจโดยใช้พลังในการดูดซับพลังของผู้อื่นได้ เป้าหมายคือพลัง ผลปีศาจ กุระ กุระของหนวดขาวนั้นเองจึงไปที่ มารีนฟอร์ดพร้อมกับพรรคพวกและเข้าโจมตี เอ็ดวาด นิวเก็ตหนวดขาวในทันทีและเป็นผู้ลงดาบสุดท้ายในการปลิดชีพหนวดขาวและกลืนพลังที่ร้ายกาจของหนวดขาวมาเป็นของตน

        ขั้นที่ห้า -  ทำให้สิ้นหวังและปกครองด้วยความกลัว หลังจากได้ทั้งพลังที่เหนือกว่าผลไม้ปีศาจทั้งปวงและอำนาจจากพรรคพวกร้ายกาจที่สุดมาแล้วจึงได้ประกาศออกจากการเป็น 7เทพโจรสลัดและจะเป็นปฏิปักษ์กับ รัฐบาลโลกและเหล่าโจรสลัดทั้งโลกในทันทีเพื่อก้าวขึ้นเป็น  

 "ราชาโจรสลัดแห่งยุคสมัยที่ปกครองด้วยความกลัว"

เดอะ แบล็ค(The BLACK)

               ทิชเป็นกัปตันกลุ่มโจร สลัดหนวดดำ ที่รวบรวมเอาพวกโจรสลัดที่มีฝีมือร้ายกาจ และชั่วร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ไว้ด้วยกัน ทำให้การควบคุมเพื่อให้พรรคพวกเหล่านั้นทำในสิ่งที่ต้องการนั้นช่างเป็นไป ได้ยากแต่ปญหานี้สำหรับทิชแล้วไม่ใช่ปัญหาเพียงแค่เค้ามีฝีมือที่เหนือกว่า เจ้าพวกนั้น ความกลัวตายจะบังคับให้อยู่ในกฏเอง  ซึ่งทิชในปัจจุบันนั้นจัดว่ามีความแข็งแกร่งระดับไม่แพ้ 4 จักรพรรดิคนไหนเลยทีเดียว โดยมีทั้งพลังกายที่แข็งแกร่งเกินกว่ามนุษย์ปกติจะมีได้ สามารถรับการโจมตีทุกรูปแบบได้ดี ซึ่งทำให้เค้าจัดเป็นบุคคลเดียวในประวัติศาสตร์ที่สามารถใช้พลังได้ถึง 2ชนิดในร่างเดียวกัน     

           ซึ่งในภายหลังด้วยความสามารถของการดูดกลืนทุกสิ่งทำให้เค้าพัฒนาถึงขั้นดูด พลังของผู้อื่นได้ด้วยซึ่งก็คือ การดึงพลังคลื่นแผ่นดินไหวจากหนวดขาวมาเป็นของตน 

..........................

【】นอกเรื่องวันพีชความรู้รอบตัว【】 

     เปิดตำนานโจรสลัด เอ็ดเวิร์ด ทีช  โจรสลัดเคราดำ แบล็คเบียร์ดแห่งนิวโพรมิเด้น (EDWARD TEACH)

Joolly Roger Edward Teach/ธงประจำตัว ทีช

          เอ็ด เวิร์ด ทีช (EDWARD TEACH)ฉายาเคราดำ The Blackbeard ซึ่งฉายาของเค้ามาจากหนวดเคราสีดำที่ดูยุ่งเหยิงของเค้า เป็นโจรสลัดที่จัดว่ามีชื่อเสียงในระดับต้นๆของโลกด้วย ชื่อเสียงในด้านความโหดร้าย ปริ้นปรอน ทรยศหักหลังพวกเดียวกันเอง สมกับชื่อโจรสลัด เคราดำผู้โหดเหี้ยมมีอายุอยู่ในช่วงหลังของยุคทองของโจรสลัดโดยมีชีวิตอยู่ ในช่วงปี ค.ศ. 1680-1718 โดยมีช่วงเวลาในการเป็นโจรสลัดช่วงสั้นๆแต่มีสีสรรค์เป็นอย่างมากเพียง 3 ปีคือปี ค.ศ. 1716 - 1718
          เอ็ดเวิร์ด  ทีช เกิดปี 1680 ในบริตอล(Bristol)ประเทศ อังกฏษ  โดยมีชื่อเต็มๆว่า เอ็ดวาด ทีช ซึ่งชื่อของเค้านั้น ถูกสะกดในหลายแบบเช่น Thach ,Thache ,Thack ,Thatche ,Theach แต่มัก ให้ทุกคนเรียกชื่อของเค้าว่า แบล็ค(Black) มากกว่าและอาจเป็นไปได้ว่าสกุล เอ็ดเวิร์ดของเค้านั้นเป็นสกุลปลอมที่มักถูกตั้งขึ้นมาหลอกตาพวกทหารเรือ 
         ในช่วงปี 1716 เข้าร่วมเป็นลูกเรือของ กัปตันเบนจามิน ฮอร์นิโกลด์(Benjamin Hornigoldซึ่งมีคำกล่าวกันว่าชายผู้นี้รู้ที่ซ่อนสมบัติมหาศาลของกัปตัน คิดส์ )และในปีเดียวกันนั้นเอง ฮอร์นิโกลด์ ก็แต่งตั้งให้ ทีช เป็นผู้บัญชาการเรือ sloop อีกลำหนึ่งของเขา 
         ในช่วงต้นปี 1717  ฮอร์นิโกลด์ และ เอ็ดเวิร์ด  ทีช ซึ่งเป็นผู้บัญชาการเรือ sloop คนละลำกัน ก็เริ่มออกเดินทางออกจากแผ่นดินใหญ่ และเริ่มทำการปล้นเรือขนสินค้ามากมาย

เอ็ดเวิร์ด ทีช / TEACH

          29 กันยายน  เอ็ดเวิร์ด  ทีช(Thatch) ออกเดินเรือไปกับ Hornigold นั้นถูกเปิดเผยมาก่อนที่ประวัติก่อนหน้านี้ของเขาจะถูกค้นพบเสียอีก อย่างเช่นที่มีบันทึกว่า เขาเป็นโจรสลัดที่มีลูกเรือที่อยู่ภายใต้บัญชาการของเขาเป็นจำนวนมาก และมีรายงานจาก Cpt. Mathew Munthe หน่วยราดตระเวณต่อต้านการกระทำผิดกฏหมายแห่ง North Carolina ได้บรรยายไว้ว่า “Thatch มีลูกเรือในบัญชาการเพิ่มขึ้นประมาณ 70 คน” 
          ในเดือนกันยายน Edward Thatch และ Benjamin Hornigold ก็ได้พบกับ Stede Bonnet เจ้าของที่ดินและนายทหารผู้มาจากตระกูลร่ำรวยที่ผันตัวเองมาเป็นโจรสลัด ลูกเรือกว่า 70 ชีวิตของ Bonnet ไม่ต้องการอยู่ภายใต้บัญชาการของเขาอีกต่อไปแล้ว และด้วยคำยินยอมของ Bonnet เขาจึงให้ Thatch มาบัญชาการเรือ Revenge แทน ดังนั้นกองเรือโจรสลัดของ Thatch จึงประกอบไปด้วยเรือ 3 ลำแล้วได้แก่ เรือ Revenge จาก Bonnet เรือ sloop ลำเก่าของ Thatch และเรือ sloop ที่ชื่อว่า Ranger ของ Hornigold ในเดือนตุลาคมพวกเขาก็ยึดเรือได้เพิ่มอีก โดยมีเรือ 2 ลำคือเรือ Robert จาก Philadelphia และ Good Intent จาก Dublin ซึ่งทั้งสองลำถูกยึดในวันที่ 22 ตุลาคม 1717
        ในปลายปี 1717 Hornigold จึงถูกปลดจากตำแหน่งกัปตันเรือจากเหตุที่เค้าเป็นชาวอังกฤษมาก่อน  จึงเลือกจะโจมตีเฉพาะเรือที่เป็นศัตรูกับอังกฤษเท่านั้น ทำให้ลูกเรือของไม่พอใจ ทำให้ต้องแยกตัวออกไป ส่วน ทีช ก็ไปกับเรือ Revenge และเรือ sloop ลำอื่นอีกหนึ่งลำ แล้วทั้งสองก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย จนกระทั่งสารพระราชทานอภัยโทษก็มาถึง Hornigold จึงยอมรับสารนั้นกับผู้ว่าการ Woodes Rogers ในเดือนมิถุนายนปีถัดมา และออกตามล่าสหายเก่าของเขาเอง
        28 พฤศจิกายน ทีช(Thatch) ใช้เรือของเขาทั้ง 2 ลำเข้าโจมตีเรือสินค้าสัญชาติฝรั่งเศสนอกชายฝั่ง Saint Vincent เรือทั้งสองลำยิงปืนใหญ่โจมตีจากด้านข้าง ลูกเรือจำนวนมากถูกฆ่าตาย ทำให้กัปตันของเรือต้องยอมจำนน  เมื่อยึดเรือ La Concored มาได้ เอ็ดเวิร์ด  ทีช ทำการเปลี่ยนชื่อเรือลำที่ 3 ของเค้าเป็น Queen Anne’s Revenge ทันที และปรับให้เรือมีปืนใหญ่ถึง 40 กระบอก ช่วงหนึ่งใกล้ ๆ กับชายฝั่ง Saint Vincent เขาก็เข้าโจมตีเรือ Great Allen หลังการต่อสู้ที่ยืดเยื้อ เขาก็บังคับให้เรือสินค้าลำนี้ยอมจำนนเสีย เขาบังคับให้เรือไปจอดใกล้ ๆ กับฝั่ง และให้ลูกเรือลำนี้สละเรือและทำการขนของออกจากคลังสินค้าเรือไปจนเกลี้ยงหลังจากนั้นก็เผาและจมเรือลำนี้ทิ้ง 

          5 ธันวาคม 1717  เอ็ดเวิร์ด  ทีช ได้ยึดเรือสินค้าลำหนึ่งชื่อว่าเรือ Magaret นอกชายฝั่งเกาะ Crab ใกล้ ๆ กับประเทศแองกัวล่า กัปตันของเรือนามว่า Henry Bostock และลูกเรือถูกจับเป็นตัวประกันนาน 8 ชั่วโมง ก่อนขจะถูกปล่อยตัวกลับไปโดยไม่ได้รับอันตรายใด ๆ จากรายงานของกัปตันผู้นี้ ทีชมีลูกเรือ 300 คน โดยเชื่อว่าบนเรือน่าจะมีของมีค่าอย่างเช่น ทองคำ เครื่องเงิน อยู่มากมายและยังแอบได้ยินทีชกล่าว่า กำลังจะเดินเรือไปยัง ฮิสพานีโอล่า เพื่อรอให้มีเรือรบสเปนแล่นผ่านมาสักลำ คาดว่าเรือนั่นน่าจะมีเงินจำนวนมากเพื่อให้ใช้จ่ายได้อย่างสำราญ
          มีนาคม 1718 เอ็ดเวิร์ด  ทีชและบอนเน็ต ทั้งสองได้มาพบกับเรือ Adventure ที่ลอยลำอยู่ในแถบ Jamaica กัปตันของเรือ David Harriot จึงถูกชักชวนให้เข้าร่วมเป็นโจรสลัด ซีึ่ง Harriot และลูกเรือตอบตกลง พวกเขาจึงล่องเรือต่อไปยังอ่าวฮอนดูรัส ที่ซึ่งทำให้พวกเขาได้เรือมาร่วมในกองเรืออีก 4 ลำ 
         9 เมษายน 1718 ทีช ได้ออกปล้นเรือ Protestant Caesar และเผาเรือทิ้ง หลังจากที่ได้รางวัลมามากมายตลอดการเดินเรือในแถบ Caribbean เขาก็เดินเรือต่อไปยังตอนเหนือในฤดูใบไม้ผลิปี 1718 เขาก็มีเรือภายใต้บัญชาการมากมาย เรือ 4 ลำ ปืนใหญ่มากกว่า 60 กระบอกลูกเรืออีกกว่า 400 ชีวิต
        พฏษภาคม 1718 ทีชแต่งตั้งตัวเองเป็นนายพลเรือจัตวา และบันชาการให้ปิดล้อมเมืองชาร์ลสตัน(Charleston) เมืองที่รวยที่สุดในบรรดาเมืองประเทศราชในเวลานั้น เขาก็เกิดคิดการใหญ่ขึ้นมาว่า เขาต้องการจะล้อมเมืองทั้งเมือง เมื่อคิดจึงต้องลงมือทำ ภายใน 1 สัปดาห์เขาสามารถปล้นเรือที่พยายามจะเข้าออกท่าเรือได้ถึง 9 ลำ  เมื่อเมืองตกอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว คำสั่งเดียวที่เขาสั่งออกไปคือ เขาต้องการหีบยา 1 หีบเพียงเท่านั้น
 

          ช่วงเดียวกันมีการอภัยโทษครั้งใหญ่จากราชสำนักโดยมีผู้ว่าการ Woodes Rogers นำสารพระราชทานอภัยโทษมาให้กับเหล่าโจรสลัดที่คิดกลับใจ ลูกเรือของทีชหลายคนจึงขอแยกตัวเพื่อไปรับสารแต่โชคร้ายเรือ 2 ลำติดสันทราย เดินทางต่อไม่ได้ มีเพียงเรือของ Stede Bonnet ที่ไม่เป็นอะไร ไอ้เคราดำ จึงวางแผนหว่านล้อมให้ บอนเน็ต พาพวกที่เหลือไปขอรับสารพระราชทานอภัยโทษที่กำลังจะมาถึง ก่อนวันที่ 5 กันยายน 1718 บอนเน็ต เองก็ต้องการอยู่แล้วจึงทิ้งเรือและสมบัติไว้แล้วเร่งเดินทางต่อเมื่อสำเร็จได้รับสารมาแล้วจึงกลับมาที่อ่าว โบฟอร์ต อีกครั้งเพื่อเอาสมบัติของตนคืนแต่แล้วเขาก็ได้รู้ว่านี่เป็นกลอุบายของ ไอ้เคราดำ ที่ขโมยเรือและสมบัติไปจนหมดแม้จะพยายามออกตามล่าเพื่อแก้แค้น แต่ไม่ว่าจะพยายามตามหานานเพียงใดเขาก็ไม่ได้พบกับ ไอ้เคราดำ อีกเลยเมื่อไม่มีสมบัติไม่นานก็กลับไปปล้นอีกก่อนจะถูกจับได้และถูกประหารชีวิตที่ เมืองชาร์ลสตัน (Charleston)
            หลังจากนั้น ไอ้เคราดำ พาลูกเรือที่เหลือเดินเรือต่อไปทางเหนือ และลงหลักตั้งรกรากอยู่ที่ เกาะโอคราโค้ก (Ocracoke) พักหนึ่งโดยแต่งงานกับลูกสาวเจ้าของไร่แห่งหนึ่งที่นั่น แต่ว่าไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม เขาก็ออกเรืออีกครั้ง  อีกเดือนต่อมาเขาสามารถยึดเรือฝรั่งเศสได้ 2 ลำ และนำเรือที่มีสมบัติกลับไปยัง เกาะโอคราโค้ก ไม่นาน เค้าได้พบสหายใหม่รวม ชาร์ลส์ เวน(Charles Vane) โจรสลัดชาวอังกฤษอีกคนหนึ่ง ทีช และเวน ใช้เวลาคุยกันอยู่หลายคืนโดยมีผู้ร่วมประชุมคือ อิสราเอล แฮนต์ , โรเบิร์ต เดล และ คาริโก้ แจ็ค  
         ข่าวการพบกันของสองโจรสลัดผู้น่าเกรงขาม แพร่กระจายออกไปยังเมืองอาณานิคมที่อยู่ใกล้เคียงกัน สร้างความไม่สบายใจให้กับผู้ว่าการเมืองต่างๆที่อยู่ใกล้เคียงเป็นอันมากโดยเฉพาะผู้ว่าการ อเล็กซานเดอ สป็อตวูส(Spotswood) ที่รู้ดีว่าหัวโจ็กในการก่อการครั้งนี้คือ ไอ้เคราดำ จึงพยายามสืบหาข่าวทุกวิถีทางจนในที่สุด ก็รู้ที่อยู่อาศัยของ ไอ้เคราดำมาได้ จึงวางแผนสั่งการไปยังกัปตันเรือหลวงสองลำคือ เรือหลวง HMS Pearl บัญชาการโดย Cpt. Gordon และ HMS Lyme บัญชาการโดย Cpt. Brand ให้มุ่งหน้าไปยัง Bath และให้เรือเอกเมย์นาร์ด(Robert Maynard) บัญชาการเรือเพิ่มอีก 2 ลำ เพื่อเข้าร่วมปฏบัติการในการจับกุมครั้งนี้ด้วย

Edward TEACH - The Blackbeard

      22 พฤศจิกายน 1718 เรือเอกเมย์นาร์ด และลูกเรือพบ ไอ้เคราดำ ที่ด้านในของอ่าว Ocracoke เมื่อ เอ็ดเวิร์ด ทีช เห็นพวกทหารเรือ ก็สั่งการให้ยิงโจมตีทันที ทำให้มีทหารเสียชีวิตหลายนายและเรือเสียหายหนักเหลือเพียงเรือ Jane เท่านั้นที่เข้าเทียบประชิดกับเรือ Adventure ของ ไอ้เคราดำ ได้แจนเกิดการรบบนดาดฟ้าเรือ ไอ้เคราดำ ถูกเรือเอกเมย์นาร์ด ยิงถึงสองนัดทำให้ได้รับบาดเจ็บ แต่โจรสลัดผู้ยิ่งใหญ่ก็หาได้ยอมจำนนไม่ สองมือของเขายังคงจับดาบแกว่งไกวต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรี จน Blackbeard เกือบจะฆ่า Maynard ได้สำเร็จ แต่แล้วก็มีทหารคนหนึ่งพุ่งตรงมาตัดคอไอ้เคราดำ..หัวกระเด็นออกจากร่าง ในทันที 
        ภายหลัง  เรือเอกเมย์นาร์ด รายงานว่า เขาพบว่าที่ร่างของ Thatch มีรูกระสุนไม่ต่ำกว่า 5 รูและมีร่องรอยถูกฟันไม่ต่ำกว่า 20 แผล เมื่อสูญสิ้นผู้นำเหล่าโจรสลัดที่เหลือจึงต้องยอมจำนน มีทหารและโจรสลัดเสียชีวิตจากการสู้รบครั้งนี้ฝั่งละไม่ต่ำกว่า 10 ราย เรือเอกเมย์นาร์ดจึงเดินทางกลับ Virginia พร้อมกับชัยชนะและหัวของ Blackbeard ซึ่งถูกผูกไว้กับหัวเสากระโดงเรือของเรือเอกเมย์นาร์ด

" การตายของ เอ็ดวาด ทีช หนวดดำเป็นเหตุการณ์นองเลือดที่สุดในยุคทองของโจรสลัดและเป็นการสิ้นสุดยุคทองของโจรสลัดในโลกใหม่อีกด้วย"

 ขอขอบคุณที่มาKrezeegamer
.....................................