อิมเพลดาวน์ |
ฉายา ราชาแห่งทะเลทราย (King of The Desert)
- จ้าวแห่งหมู่มวลจระเข้ (KING CROCODILE)
ค่าหัววันพีช 81,000,000
อายุ 44 ปี/เกิด 5 กันยายน
ส่วนสูง 253 cm.(8ฟุต.3นิ้ว.)
เรือ เดอะ ฟูล(The Full)
ตำแหน่ง มิสเตอร์.ซีโร่ (Mr.0)
- บอสใหญ่องค์กรบาล็อกเวิร์ค (Baroque Works)
- 1 ใน 7 เทพโจรสลัด(Shichibukai)
ผลปีศาจ ซูนะซูน(Suna Suna)สายโลเกีย/ธรรมชาติ
ผลทราย : เปลี่ยนร่างกายเป็นทราย ดูดน้ำจากวัตถุและสิ่งมีชีวิตทุกชนิดได้
ธาตุปฏิปักษ์-จุดอ่อน แพ้น้ำหรือผลน้ำ(โทโร โทโร่)
อาวุธ ตะขอติดพิษแมงป่องทะเลทราย(HOOK-scorpion venom)
ลูกเรือ 1,000คน / ดาซู บอเนต (Mr.1),มิสเตอร์เบนแฮม-บอนเคร(Mr.2),มิสเตอร์เกลดิโน(Mr.3),มิสเตอร์โฟ(Mr.4),มิสเตอร์ไฟว์( Mr.5)
เผ่าพันธุ์ มนุษย์
สถานะปัจจุบัน นักโทษหลบหนีระดับเลเวล 6สูงสุด (LEVIL6-ชั้นนรกนิรันดิ์กาล-Eternal Hell)
เซ้อร์ ครอกโคไดล์(Sir. Crocodile) เป็นตัวละครที่มีลักษณะเหมือนดั่งเป็นตนแบบโจรสลัดในสมัยโบราณ หยิ่งทรนง มีมือที่เป็นตะขอ หน้าบากและสูบซิก้่า(ขาดเพียงตาบอดข้างเดียว) โหดเหี้ยม ปริ้นปรน ไม่มีความจริงใจให้ใคร มีลูกน้องมากมายที่พร้อมจะสละทิ้งได้ทุกเมื่อ ความแข็งแกร่งในฐานะ 1ใน11 ผู้ใช้ผลปีศาจสายโรเกีย(ในอนาคตอาจมีมากกว่านี้)จ้าวแห่งทะเลทรายไม่มีขอบ เขตในการใช้พลังสามารถฆ่าคนทั้งเมืองได้ในพริบตาเป็นพลังที่ ช่างร้ายกาจและมีท่าไม้ตายมากมายพร้อมต่อกรกับทุกคนในโลกไม่เว้นแม้แต่ระดับ นายพลรัฐบาลโลก
- จากคำกล่าวของ โอดะค่าหัวในปัจจุบันของคร็อกโคไดล์น่าจะเป็น 2เท่าของที่เป็นอยู่ในปัจจุบันคือ 162,000,000 เบรี
เซ้อร์ ครอกโคไดล์(Sir. Crocodile) เป็นตัวละครที่มีลักษณะเหมือนดั่งเป็นตนแบบโจรสลัดในสมัยโบราณ หยิ่งทรนง มีมือที่เป็นตะขอ หน้าบากและสูบซิก้่า(ขาดเพียงตาบอดข้างเดียว) โหดเหี้ยม ปริ้นปรน ไม่มีความจริงใจให้ใคร มีลูกน้องมากมายที่พร้อมจะสละทิ้งได้ทุกเมื่อ ความแข็งแกร่งในฐานะ 1ใน11 ผู้ใช้ผลปีศาจสายโรเกีย(ในอนาคตอาจมีมากกว่านี้)จ้าวแห่งทะเลทรายไม่มีขอบ เขตในการใช้พลังสามารถฆ่าคนทั้งเมืองได้ในพริบตาเป็นพลังที่ ช่างร้ายกาจและมีท่าไม้ตายมากมายพร้อมต่อกรกับทุกคนในโลกไม่เว้นแม้แต่ระดับ นายพลรัฐบาลโลก
- จากคำกล่าวของ โอดะค่าหัวในปัจจุบันของคร็อกโคไดล์น่าจะเป็น 2เท่าของที่เป็นอยู่ในปัจจุบันคือ 162,000,000 เบรี
...........................
【】 เปิดตำนานนักพจญภัยชื่อก้องโลก กัปตัน เจมส์ คุก (Captain James Cook) ผู้ค้นพบทวีปออสเตรเลียและ เขียนแผนที่โลกใบแรก (1728 – 1779 ) 【】
【】 เปิดตำนานนักพจญภัยชื่อก้องโลก กัปตัน เจมส์ คุก (Captain James Cook) ผู้ค้นพบทวีปออสเตรเลียและ เขียนแผนที่โลกใบแรก (1728 – 1779 ) 【】
ไม่มีใครขังหรือจับทรายได้ตลอด ซักวันฉันจะออกไปจากที่นี่.
และ.!!..จะไม่มีใคร....จับฉันได้อีก..!...."ชีวิตของคร็อกโคไดล์หลังจากพ่ายแพ้ ให้กับลูฟี่ที่อาราบัสต้า คร็อกโคไดล์และลูกน้องส่วนหนึ่งถูกจับและถูกนำไปขังคุกที่ คุกนรกอิมเพลดาวน์ โดยคร็อกโคไดล์นั้นเป็นผู้มีพลังจากผลปีศาจสายโรเกียอันร้ายกาจ ผลปีศาจ ซูนะซูนะ:SunsSuna ผลทรายมีความสามารถควบคุมทราย โดยแปลสภาพร่างกายของตนให้เป็นเม็ดทรายเพื่อใช้ในการหลบหลีกการโจมตีและ ใช้ในการเคลื่อนที่ไปตามกระแสลมและสามารถใช้ทรายที่ตัวเองสร้างขึ้นโจมตี ศัตรูด้วยการสร้างเป็นรูปแบบอาวุธหรือพายุทรายที่มีขนาดใหญ่นอกจากนี้ด้วย ร่างกายที่เป็นทรายทุกสิ่งที่เค้าสัมผ้ัสจะถูกดูดน้ำออกไปจากร่างกายทั้ง สิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตโดยจะเหลือไว้เพียงเศษซากที่สลายกลายเป็นผง แม้ความสามารถของเค้าจะร้ายกาจแต่ก็ไม่สามารถช่วยให้เค้าหนีออกจากชั้นที่ 6 ของคุกนรกไปได้ ซึ่งเป็นชั้นที่มีการคุ้มกันหนาแน่นที่สุดของคุกนรก เพราะคุมขังนักโทษที่ก่อคดีร้ายแรงถึงขั้นไม่สามารถปล่อยให้ออกไปใช้ชีวิตในโลกปกติได้อีกต่อไปเพราะอาจเป็นอันตรายต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์หรือไม่ก็เป็นนักโทษที่รอวันที่จะพิพากษาประหารชีวิต ซึ่งคร็อกโคไดล์เองก็รู้ดีว่าตนคงต้องถูกขังไปจนตลอดชีวิตจนกว่าจะตายในคุกแห่งนี้อย่างแน่นอน
Crocodile The Shichibukai |
................................
【】นอกเรื่องวันพีชความรู้รอบตัว【】
เปิด
ตำนาน กัปตัน เจมส์ คุก - captain james cook “เจมส์ คุก
ผู้เขียนแผนที่โลกใบแรก” (27 ตุลาคม 1728 – เสียชีวิต 14 กุมภาพันธ์ 1779 )
เจมส์
คุกยังได้ดินเรือไปยังทวีปต่ง ๆ
เพื่อสำรวจแนวชายทะเลจนทำเป็นแผนที่และพบแผ่นดินใหม่ ๆ ขึ้น
ซึ่งชาวยุโรปไม่เคยเดินทางไปมาก่อนเลย เขาเป็นทั้งนักสำรวจ
นักค้นพบแผ่นดินใหม่ๆ และนักทำแผนที่โลกคนแรกที่สามารถ วาดผังของแต่ละทวีป
แต่ละประเทศ แต่ละหมู่เกาะ
จนนำไปสู่การขยายอาณานิคมอย่างกว้างขวางให้กับอังกฤษ ในเวลาต่อมา
ทำให้อังกฤษได้เปรียบนักล่าอาณานิคมจากยุโรปรายอื่น ๆ
การมีแผนที่ของคนสมัยนั้นถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ช่วยสร้างความได้เปรียบใน
เชิงการทหารเป็นอย่างยิ่ง
ทำให้ง่ายต่อการวางแผนกองกำลังและการรบของแต่ละฝ่าย
และนั่นคือสาเหตุสำคัญของอังกฤษที่สามารถเข้าไปยึดครอง
ขยายอาณาจักรได้มากกว่าผู้อื่น
จนเรียกได้ว่ามีธงอังกฤษโบกสะบัดไปทั่วทุกแห่งของโลก
กลายเป็นประเทศที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน ผมมองว่าเจมส์
คุกผู้เขียนแผนที่โลกให้กับราชนาวีอังกฤษเป็นบุคคลที่มีส่วนสำคัญมากที่สุด
คนหนึ่ง
กัปตัน เจมส์ คุก - james cook |
ประวัติ เจมส์ คุก เป็นชาวอังกฤษ เกิดในครอบครัวที่มีฐานะต่ำต้อย
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 1728 ที่หมู่บ้านในเขตนอร์ทยอร์คเชียร์
เขาเป็นหนึ่งในบุตรห้าคน ของนายเจมส์ คุก ซีเนียร์ เชื้อสายสก็อต
และนางเกรซ คุก ซึ่งเป็นชาวบ้านในท้องถิ่นนั้น เขาเป็นทั้งนักสำรวจ
นักเดินเรือ และยังเป็นนักทำแผนที่อีกด้วย
งานสำรวจของเขาช่วยทำให้โลกเราได้ทราบสภาพของภูมิศาสตร์ของโลกภาคพื้น
มหาสมุทรแปซิฟิกมากขึ้น
เขาได้รับยกย่องว่าเป็นนักสำรวจคนสำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 18
นอกจากนี้เขายังเป็นผู้ช่วยให้จักรภพอังกฤษได้ครอบครองดินแดนออสเตรเลีย
เขาเดินทางรอบโลกและเดินทางไปครบทั้ง 7 ทวีปภายในช่วงเวลาที่เขามีชีวิตอยู่
ซึ่งน้อยคนนักในเวลานั้นที่จะสามารถเดินทางไกลและพบเห็นดินแดนและหมู่เกาะ
มากมายที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนเช่นเขา
ในปี ค.ศ. 1755 เขาก็สมัครเข้าทำงานในหน่วยราชนาวีอังกฤษ ค.ศ. 1755
ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ ได้ทำสงครามที่เรียกว่า “สงครามเจ็ดปี”
ระหว่างฝรั่งเศส ออสเตรีย รัสเซีย แซกโซนี สวีเดน และสเปน
ผลของสงครามครั้งนี้ทำให้อังกฤษกลายเป็นเจ้าอาณานิคมในครอบครองมากที่สุด
ในปีเดียวกันเขาได้เริ่มต้นตำแหน่งเป็นกะลาสีเรือชั้นหนึ่งเขาได้รับการ
เลื่อนขั้นอย่างรวดเร็วเป็นหัวหน้าผู้บังคับบัญชาการเรือ และราวปี ค.ศ.
1757 ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปีของการเข้าร่วมหน่วยราชนาวี
เขาผ่านการทดสอบให้สามารถควบคุมการเดินเรือและกองทัพเรือได้
ในระหว่างการทำสงครามเจ็ดปี เจมส์ คุก ในฐานะที่เป็นหัวหน้าเรือเพ็มโบรก
เขาได้มีส่วนร่วมในการยึดเมืองควิเบก ก่อนที่จะเกิดการสู้รบที่ทุ่งอับราฮัม
ในปี ค.ศ. 1759
ซึ่งเป็นการสู้รบระหว่างกองทัพบกและกองทัพเรือของอังกฤษกับกองทัพฝรั่งเศส
ที่ทุ่งราบภายนอกเมืองควิเบก เจมส์ คุก
ได้แสดงพรสวรรค์ออกมาในการสำรวจและการทำแผนที่
และรับผิดชอบการทำแผนที่ตรงทางเข้าแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์
ซึ่งผลจากการสำรวจและทำแผนที่ของเจมส์ คุก นี้ทำให้นายพลวอล์ฟ
สามารถทำการโจมตีและรบชนะกองทัพฝรั่งเศสในทุ่งอับราฮัมได้
ทำให้อังกฤษสามารถยึดครองดินแดนแถบนั้นเป็นอาณานิคมได้ในที่สุด
ด้วยความเชี่ยวชาญในการสำรวจของเขาได้ทำแผนที่ชายฝั่งอันขรุขระของนิ
วฟาวด์แลนด์ ซึ่งเป็นเกาะขนาดใหญ่นอกชายฝั่งตะวันออกของอเมริกาเหนือ
โดยทำเป็นแผนที่ชายฝั่งทะเลของเกาะที่มีความละเอียดสูงเป็นแผนที่แรก
และทำให้เขาได้รับความสนใจจากกระทรวงกองทัพเรืออังกฤษ และราชสมาคม
ที่จะให้เขาเป็นผู้นำในการเดินทางสำรวจดินแดนโพ้นทะเลอื่นๆ
ต่อมาเขาได้ล่องเรือต่อไปยังตะวันตกเฉียงใต้สู่นิวซีแลนด์
และใช้เวลาทำแผนที่ทั้งสองเกาะเป็นเวลา 6 เดือน
เขาได้ทำแผนที่ชายฝั่งนิวซีแลนด์ให้สมบูรณ์
เขาได้ค้นพบว่าเกาะนิวซีแลนด์ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนที่ยิ่งใหญ่ทาง
ตอนใต้ที่เขาค้นหาอยู่ แต่เป็นเกาะใหญ่ 2 เกาะใกล้กัน
เขาเดินทางมานิวซีแลนด์โดยมีหัวหน้าเรือชาวตาฮิติที่พูดกับชาวเมารีรู้
เรื่อง ทำให้คณะการเดินทางของเขาได้รับการต้อนรับอย่างดีจากชาวเมารี
และพบว่าชาวเมารีเป็นชนพื้นเมืองที่มีจิตใจเป็นนักรบและกล้าหาญ
ว่ากันว่าชาวตะวันตกรู้จักการสักเป็นครั้งแรกก็เพราะเจมส์ คุก
ชาวเกาะทะเลใต้หรือเมารีนั้นนิยมการสักกันมากและเรียกว่า “ทาทาอู”
ในบันทึกส่วนตัวของเขา
ผู้การเรืออาวุโส - Post Captain |
ในปี
ค.ศ. 1769 ได้เดินทางไปยังหมู่เกาะ Marquesas Islands
เขาได้พบเห็นการสักเหล่านี้และเขาได้เขียนบันทึกไว้ว่า
“พวกเขาทำสัญลักษณ์บนผิวหนังของคนและเรียกสิ่งนี้ว่าแทตโทว์”
เขาได้นำชาวพื้นเมืองเมารีที่เชี่ยวชาญการสักกลับไปอังกฤษด้วย
และการสักเกิดติดลมกลายเป็นแฟชั่นในหมู่คนชั้นสูง
เพราะคนมีเงินเท่านั้นจึงจะมีรอยสักได้เนื่องจากมีราคาแพง
หลังจากนั้นเขาจึงตัดสินใจกลับอังกฤษโดยแล่นเรือไปทางทิศตะวันตก
และไปถึงชายฝั่งทะเลทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปออสเตรเลียได้ในที่สุด
ปี ค.ศ. 1770
เขาเป็นชาวยุโรปพวกแรกที่เดินทางไปถึงและค้นพบชายฝั่งทะเลตะวันออกของทวีป
ออสเตรเลีย เขาบันทึกว่าเขาได้พบกับชาวพื้นเมืองที่ต่อมาถูกเรียกว่า
“อะบอริจิ้นส์” ที่เกาะบรัซ โดยบันทึกไว้ว่า “ชาวอินเดียน...สี่ถึงห้าคน...เปลือยกายและตัวดำมาก”
กระแสลมทำให้เรือของเขาได้ถูกพัดขึ้นไปทางเหนือเรื่อยๆ
และได้มาพักที่อ่าวใหญ่แห่งหนึ่ง
เขาและลูกเรือได้เดินทางเหยียบพื้นแผ่นดินใหญ่ของทวีปออสเตรเลียเป็นครั้ง
แรก โดยเขาได้ตั้งชื่อสถานที่แห่งนี้ว่า “โบทานีย์เบย์” (Botany Bay) นัก
พฤกศาสตร์ที่เดินทางไปด้วย ได้พบและเก็บตัวอย่างพืช นก และสัตว์ใหม่ๆ
จำนวนมากมาย ดังนั้นเจมส์ คุก จึงตั้งชื่อที่แห่งนี้ว่าโบตานีเบย์
(แปลว่าอ่าวแห่งต้นไม้) จากการพบพันธุ์ไม้ชนิดใหม่ๆ นั่นเอง
หลังจากนั้น เจมส์ คุก ก็ล่องเรือต่อไปทางเหนือมาเรื่อยๆ และก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นเมื่อเรือเอนเดฟเวอร์แล่นเรือเกยตื้นโขดหินไปชนแนว ปะการังขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งก็คือปะการังเกรตแบริเออร์รีฟที่อยู่ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของ ประเทศออสเตรเลีย เกรตแบริเออร์รีฟเป็นแนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลกคือยาว 2,600 กิโลเมตร กินพื้นที่ถึง 344,400 ตารางกิโลเมตร การชนปะการังทำให้เรือได้รับความเสียหายมาก และทำให้การเดินทางต้องล่าช้า เรือจอดซ่อมที่ชายหาดแห่งหนึ่ง ปัจจุบันคือ Cook Town ซึ่งสถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้ๆ กับปากแม่น้ำเอนเดฟเวอร์ ในขณะที่หยุดซ่อมแซมเรืออยู่นั้น เขาได้ออกสำรวจพร้อมด้วยลูกเรือบางคนของเขาเข้าไปภายในทวีป และได้พบจิงโจ้สัตว์ประหลาดที่มีถุงเลี้ยงลูกอยู่ที่ท้อง พวกเขาได้ถูกชาวพื้นเมืองรบกวนหลายทางจนถึงกับจุดไฟป่าไล่พวกเขาไป
หลังจากนั้น เจมส์ คุก ก็ล่องเรือต่อไปทางเหนือมาเรื่อยๆ และก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นเมื่อเรือเอนเดฟเวอร์แล่นเรือเกยตื้นโขดหินไปชนแนว ปะการังขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งก็คือปะการังเกรตแบริเออร์รีฟที่อยู่ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของ ประเทศออสเตรเลีย เกรตแบริเออร์รีฟเป็นแนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลกคือยาว 2,600 กิโลเมตร กินพื้นที่ถึง 344,400 ตารางกิโลเมตร การชนปะการังทำให้เรือได้รับความเสียหายมาก และทำให้การเดินทางต้องล่าช้า เรือจอดซ่อมที่ชายหาดแห่งหนึ่ง ปัจจุบันคือ Cook Town ซึ่งสถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้ๆ กับปากแม่น้ำเอนเดฟเวอร์ ในขณะที่หยุดซ่อมแซมเรืออยู่นั้น เขาได้ออกสำรวจพร้อมด้วยลูกเรือบางคนของเขาเข้าไปภายในทวีป และได้พบจิงโจ้สัตว์ประหลาดที่มีถุงเลี้ยงลูกอยู่ที่ท้อง พวกเขาได้ถูกชาวพื้นเมืองรบกวนหลายทางจนถึงกับจุดไฟป่าไล่พวกเขาไป
เมื่อซ่อมเรือเสร็จจึงออกเดินทางต่อ และล่องเรือผ่านแหลมยอร์ค
ทอร์เรสสเตรท ซึ่งอยู่ระหว่างออสเตรเลียและนิวกีนี
และก็ทอดสมอและลงเรือที่เกาะโพเซสชั่น เจมส์ คุกชักธงอังกฤษขึ้นที่นี่
และอ้างสิทธิ์ในแถวตะวันออกของทวีปทั้งหมดนี้ให้อยู่ภายใต้ชื่อ
"นิวเซาธ์เวลส์" แด่พระเจ้าจอร์จที่ 3 เขาเดินทางถึงอังกฤษ เมื่อวันที่ 12
กรกฎาคม ค.ศ. 1771
กรกฎาคม ค.ศ. 1775 เค้าเกษียณตัวเองไปทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล
Royal Hospital ในกรีนนิช แต่เขาก็ยังคงคิดถึงการเดินทาง
เขาจึงวางแผนเดินทางอีกเป็นครั้งที่สามซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับเขาได้
บังคับบัญชาเรือ HMS Resolution อีกครั้ง และมีเรืออีกลำคือ Discovery
เดินทางออกไป
18 มกราคม ปี ค.ศ. 1778
เขาแล่นเรือขึ้นทางเหนือและค้นพบหมู่เกาะฮาวายเป็นครั้งแรก โดยเขาได้ตั้งชื่อเกาะแห่งนี้ว่า
“หมู่เกาะแซนด์วิช” ตามชื่อของลอร์ดแซนด์วิช
ซึ่งเป็นเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ
ต่อมาหมู่เกาะนี้ได้ตั้งชื่อใหม่และเป็นที่รู้จักกันในปัจจุบันว่า
“หมู่เกาะฮาวาย”
เจมส์ คุก
ได้ทำแผนที่ส่วนใหญ่ของชายฝั่งทะเลของทวีปอเมริกาเหนือบนแผนที่โลกได้เป็น
ครั้งแรก เขาได้พยายามแล่นเรือข้ามช่องแคบแบริ่งหลายครั้ง แต่ก็ล้มเหลว
เขาจึงเริ่มที่จะทรมานจากอาการปวดท้อง เขากลับมายังฮาวายอีกครั้งในปี ค.ศ.
1779 และในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เขาถูกฆ่าตายโดยชาวเกาะฮาวาย โดยเรือ HMS
Resolution และเรือ Discovery ก็เดินทางกลับถึงอังกฤษเมื่อปี ค.ศ. 1780
...........................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น