ONEPIECE Yonkou_แชงคูสผมแดง RedHaired Shank ★ 赤髪のシャンクス"

WANTED YONKO RED HAIRED SHANK

ฉายา ผมแดง แชงคูส 
   ( REDHAIRED )
  - จักรพรรดิ แดง - 
    ( RED YONKOU )

ค่าหัว 4,048,900,000

อายุ  37 ปี / เกิด 9 มีนาคม
กรุ๊ปเลือด XF

เรือ เรด ฟอร์ส(Red Force)

ตำแหน่ง จักรพรรดิผมแดง/SHANKS 
- ราชันต์แห่งกองทัพแดง (FOUR EMPERRORS)
    〄 THE KING OF REDHAIRED ARMY 〄
- กัปตันกลุ่มโจรสลัดผมแดง (CAPTION OF REDHAIRED PIRATE)

ผลไม้ปีศาจ  -- 

อาวุธ ดาบแชงครูส ( Shank'Sword )
 -  ฮาคิจิตแห่งราชันย์ผู้พิชิตฮาโอโชคุฮาคิ  (HAOSHOKU HAKI)  
ลูกเรือ เพื่อน เบน แบ็คแมน(Benn Beckman) ,ลัคกี้ โล(Lucky Roo) ,ยาซป (Yasopp) ,ร็อคสตาร์(Rockstar) 
เผ่าพันธุ์ มนุษย์ 

"คนที่ได้ลิ้มรสทั้งชัยชนะและความพ่ายแพ้เท่านั้น...

ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นลูกผู้ชายที่แท้จริง.......

ถึงแม้จะหมายถึงการวิ่งหนีและการเสีย น้ำตาก็ตาม.!!.."

กล่าวโดย ลูกผู้ชายชื่อ แชงครูส 

               ประวัติ.จักรพรรดิแดงแชงครูส (Shanks Le Roux) หรือที่รู้จักในชื่อจักรพรรดิแดง โดดเด่นที่ผมสีแดงสดมาตั้งแต่ยังเด็ก รอยแผลเป็นที่ตาซ้าย หน้าตาหลอเหลารูปร่างสูงโปร่งโดยรวมเท่โครต สวมใส่ชุดที่แตกต่างจากโจรสลัดคนอื่นที่มีตำแหน่งสูงซึ่งมักแต่งตัวเต็มยศในแบบกัปตันแต่สำหรับแชงคูสเค้าชอบที่จะแต่งกายในแบบสบายๆ เสื้อเชิ๊ตตัวใหญ่สีขาว กางเกงขายาวสีน้ำตาล สวมเสื้อคลุมสีดำปกปิดแขนซ้ายที่ขาดของเค้าแต่ จะโชแขนขวาและดาบประจำตัวให้เห็นอย่างเด่นชัด นิสัยของเค้าดูซับซ้อนหลายแง่มุม บางครั้งเป็นคนสนุกสนานไม่มีรัศมีแห่งความสูงส่งหรือความมักใหญ่ใฝ่สูง แต่ในบางครั้งกลับดูจริงจังจนน่ากลัวพร้อมที่ฆ่าศัตรูทุกคนที่เข้ามาใกล้  แต่ก็เป็นที่รักของคนทั่วไปทั้งกับพวกพ้องเดียวกันและชาวบ้านทั่วไป 
   - ฉายาของแชงครูสมาจากชื่อของโจรสลัดในตำนานชาว ไวกิ้งนาม อิลิคเดอะเรสมีอายุอยู่ในช่วง ค.ศ.950-ค.ศ.1003
..........................................

►เปิดตำนานสัตว์ศักดิ์สิทธิ์จากสรวงสวรรค์ มหาเทพศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ ผู้ปกครองจตุรทิศแห่งจักรพรรดิ/ FOUR SYMBOLS◄

 

                 ราชันย์แชงคูส จักรพรรดิผมแดงแห่งกองทัพแดง - Akagami Shankusu มีตำแหน่งเป็น 1 ใน 4 จักรพร รดิแห่งท้องทะเล  สี่จักรพรรดิ(Four Emperors, Sea Lord) ซึ่งตำแหน่งนี้เป็นโจรสลัด 4 คนที่ปกครองครึ่งหลังของแกรนไลน์หรือ"โลกใหม่" เป็นหนึ่งในขั้วอำนาจทั้งสามของโลก คานอำนาจกับ กองทัพเรือ และ เจ็ดเทพโจรสลัด ซึ่งกลุ่มสี่จักรพรรดินี้ได้ชื่อว่าเป็นโจรสลัดที่มีฝีมือน่ากลัวและมีชื่อ เสียงน่าเกรงขามไปทั่วโลก โดยการมีอยู่ของสี่จักรพรรดิ์นี้ ต่างจากเจ็ดเทพโจรสลัดตรงที่ไม่ได้มีความเป็นเอกภาพหรือร่วมมือกัน แต่ว่าต่างคนต่างอยู่และเป็นอิสระต่อกัน และมักจะปะทะกันอยู่เสมอนั่นอาจเป็นเพราะว่า สมาชิกของเหล่าจักรพรรดิล้วนเป็นคนมีฝีมือและมีจำนวนมากจึงไม่มีใครยอมใครและมักมองว่านายของตนเหนือกว่าคนอื่นนำมาซึ่งการต่อต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิด้วยกันเองและทุกครั้งที่ปะทะกันมักเป็นข่าวใหญ่ระดับโลก แม้ว่าดินแดนโลกใหม่จะอยู่ใกล้จุดสูงสุดของแกรนต์ไลและใกล้วันพีชที่สุดแต่ก็ไม่มีจักรพรรดิคนใดไปถึงได้นั้นอาจเป็นเพราะเส้นทางเดินเรือของทั้ง 4 คนขัดกันอยู่ต่างคนต่างอยู่ในที่ตั้งของตนไม่กล้าที่จะขยับออกนอกเขตปกครองเพราะนั้นอาจหมายถึงการท้าทายที่จะนำมาสู่สงครามครั้งใหญ่และอาจบาดเจ็บสาหัสจนจักรพรรดิที่เหลืออาจฉวยโอกาศโจมตีซ้ำจนกลุ่มต้องแตกไปนำมาซึ่งการเสียสมาดุลครั้งใหญ่

จักรพรรดิแชงคูส ราชันต์ผมแดง /RED EMPERRORS

"ชีวิตคนเรา..ก็เหมือนเปลวเพลิงที่ลุกโชน..!!..

อนาคตนั้น.ยากแก่การควบคุมและมีแต่จะร้อนแรงมากขึ้น

ส่วนอดีต..ก็ปล่อยให้มันลุกไหม้ไป.อย่าเอามาใส่ใจ

เพราะรังแต่.!!...จะเผาผลาญตัวเองให้มอดใหม้..."

            แชงคูสในอดีตเกิดที่ทะเลตะวันตก ซึ่ง เป็นที่ๆมีช่อเสียงที่สุดในโลกในเรื่องของเหล้าชั้นเลิศหลังจากกลุ่มราชาโจร สลัดแตกแชงครูสเริ่มต้นออกเดินทางครั้งใหม่ด้วยการรวบรวมพรรคพวกที่มีอุด ทการณ์เดียวกันเพื่อตั้งขึ้นเป็นกลุ่มโจรสลัดที่มีน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับ เค้าในช่วงนี้เองแชงคูสกลับไปบ้านเกิดที่ทะเลเวสต์บลูและเดินทางไปอีกหลายๆ ที่จนเมื่ออายุได้ 27 ปีแชงคูสได้ข่าวเกี่ยวกับนักแม่นปืน ยาซปแห่งทะเลอิสต์บลู ที่ว่ากันว่า 100 ฟุตยิงขามดไม่มีพลาด  เค้าจึงดั้นด้นเดินทางมาที่อิสต์บลูเพื่อขอให้ยาซปเข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกของ กลุ่มซึ่งก็ไม่ผิดหวัง ในขณะกลับออกมาจากอิสต์บลูเพื่อเข้าสู่แกรนต์ไลกลุ่มของแชงครูสหยุดพักที่ เกาะแห่งหนึ่งเพื่อจัดปาตี้เล็กๆให้กับสมาชิกใหม่ ทุกครั้งที่เรือของแชงคูสเทียบท่าที่เกาะจะมีเด็กชื่อว่า มังกี้ ดี.ลูฟี่ ออก มาต้อนรับและรบเร้าขอให้รับเป็นลูกเรือโจรสลัดเพื่อออกไปพจญภัย แชงคูสก็ตอบไปทุกครั้งว่ายังเด็กเกินไปไปหัดว่ายน้ำให้เก่งก่อนแล้วค่อยมา ว่ากัน  
       หลังจากนั้นเกิดเหตุการณ์ที่แชงคูสใช้ ตัวเข้าขวางการโจมตีของสัตว์จ้าวถิ่นที่จะเข้ามาทำร้ายลูฟี่ทำให้เค้าต้อง สูญเสียแขนซ้ายไปแม้มันจะเป็นการสูญเสียที่ใหญ่หลวงแต่สำหรับแชงคูสการสูญ เสียครั้งนี้มันคือการเดิมพันครั้งใหญ่ที่เค้าหวังว่าผลของมันจะมีค่าถึง ขนาดเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบได้เลยทีเดียว

                 แชงครูสจัดเป็นบุรุษแห่งประวัติศาสตร์ที่มีทั้งพลัง ฮาโอโชคุ ฮาคิ หรือที่เรียกกันว่า ฮาคิราชันที่ จัดเป็นฮาคิชั้นสูงที่อยู่เหนือ ฮาคิที่พวกพลโททั้งหลายมี จึงจัดเป็นศัตรูที่ร้ายกาจของพวกโจรสลัดที่ต้องการตำแหน่งที่เค้ายืนอยู่ใน ปัจจุบันมาครอบครองซึ่งหลังจากหมดยุค หนวดขาว กลุ่มโจรสลัดผมแดงก็ยิ่งเข้าใกล้คำว่าราชาโจรสลัดเข้าไปทุกที แต่ทว่าในใจของแชงครูสคิดอะไรอยู่ไม่มีใครรู้เค้าไม่เคยกล่าวว่าต้องการเป็น ราชาโจรสลัดและต้องการครองโลก แม้สักครั้งทำให้พวกทหารเรือไม่กล้าลงมือกับพวกผมแดงและ ให้ความยำเกรง  ไม่กล้าเปิดศึกกับเค้าแต่ถึงกระนั้นความแข็งแกร่งของเค้ากับยิ่งชักพาเหล่า โจรสลัดมากมายที่ฝีมือร้ายกาจเข้ามาร่วมกลุ่มและพร้อมสนับสนุนเค้าขึ้นเป็น ราชาโจรสลัดได้ทุกเมื่อ

                  ในเหตุการณ์ที่มารนฟอร์ด (Marine Ford) แชงครูสปรากฏตัวออกมาในตอนท้ายหลังจาก หนวดขาวเสียชีวิตแล้วซึ่งอาจมองได้ว่า แชงครูสเคารพในศักดิ์ศรีของหนวดขาวไม่ต้องการยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยวกับ เรื่องในครอบครัวและหากเข้ามาช่วยอาจต้องกลายเป็นศัตรูกับหนวดขาวไปด้วย จึงรอจนกระทั่งบทสรุปของสงครามมาถึงและเห็นว่าสงครามควรจบลงได้แล้วในเมื่อ สิ่งที่ ทหารเรือต้องการได้บรรลุผลแล้วหากปล่อยไว้ก็ยิ่งจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มมาก ขึ้นจึงใช้ ศักดิ์ศรีของ 4 จักรพรรดิและพลพรรคเต็มอัตราศึก เข้าหยุดการต่อสู้ของทุกฝ่ายลง ทั้งพวกทหารเรือ พวกหนวดขาวและพวกหนวดดำ ซึ่งในขณะนั้นฝ่ายทหารเรือกำลังได้เปรียบจึงต้องการ กำจัดพวกหนวดขาวให้สิ้นซากแต่ด้วยคำสั่งของจอมพล เซ็นโกคุที่เห็นว่าทหารเรือก็สูญเสียมากเหมือนกันหากต้องต่อสู้ต่อไปกับพวก ผมแดงและหนวดดำ ก็มีแต่เสียมากกว่าได้จึงสั่งยุติการต่อสู้และเข้าช่วยเหลือคนเจ็บ

 กลุ่มโจรสลัดแชงคูส ผมแดง(Red-Haired Pirates)

                 กลุ่มโจรสลัดผมแดงที่ปรากฏตัวที่มารีนฟอร์ด มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนมากมาย แต่ก็ยังคงเป็นปริศนาเหมือนเช่นเคย มีเพียง 3 ทหารเสือของแชงครูส ที่ปรากฏตัวและถูกประกาศจับตั้งแต่ยังหนุ่มปัจจุบันในเวอร์ชั่น อนิเมะ เริ่มจะแก่ซะแล้วนั้นหมายความว่าค่าหัวคงเพิ่มมากขึ้นมากมายนัก   กลุ่มของแชงครูสยังคงเป็นกลุ่มที่ไม่มีผู้ใดแสดงความสามารถของผลปีศาจออกมา ใช้เพียงการต่อสู้ขั้นพื้นฐานเท่านั้นซึ้งตำแหน่งจักรพรรดิของแชงครูสจำเป็น ต้องมีผู้คำ้จุนที่เก่งกาจคอยสนันสนุนเพื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งจ้าวแห่งโจร สลัด  ระดับหัวหน้าจึงน่าจะมีพลังไม่แพ้หัวหน้าหน่วยของหนวดขาวอย่างแน่นอน

     Yasopp (Yasoppu - ヤソップ ) เป็นสมาชิกคนสุดท้ายของ3เสนาธิการที่ถูกคัดเลือกโดยแชงครูสโดยเข้าร่วมกลุ่ม เมื่อ 20 ปีที่แล้วโดยต้องทิ้งลูกชายและภรรยาไว้เบี้องหลัง มีความสามารถในการยิงปืนในระยะไกลที่แม่นยำสูงโดยใช้ปืน คาบศิลา(Flintlock Pistol)เป็นอาวุธ

     Lucky Roux(Ruu Rakki - ルウルウラッキー) เป็นสมาชิดดั้งเดิมของกลุ่มผมแดงและเป็น 1ใน3 เสนาธิการสูงสุด ความสามารถของเค้าจัดเป็นปริศนาและลึกลับมากที่สุดเพราะถ้าดูจากชื่อของตัว ละครที่ผ่านมามักมีที่มา และของลักกี้ โลเองก็มี ชื่อของเค้ามาจากการ์ตูนคาวบอยที่มีฉายาว่า "เร็วกว่ากระสุน"ซึ่งถ้าดูจากการที่เค้าจัดการลูกน้องของ ฮิกุมะได้รวดเร็วจนศัตรูยังไม่รู้สึกตัวเค้าอาจเป็นชายที่มีความเร็วเป็น หนึ่งด้วยพลังจากผลปีศาจแต่ด้วยร่างกายที่อ้วนถ้าเป็นจริงก็คงเป็นตัวละคร ที่สุดจะจินตนาการเลยทีเดียว

     Benn Beckman (Ben Bekkuman - ベンベックマン) เป็นรองกัปตันที่มีความเชื่อมั่นในตัวกัปตันแชงครูสมากโดยเชื่อว่า ทุกสิ่งที่แชงครูสทำและคิดล้วนคือสิ่งที่สมควร มีความสามารถโด่ดเด่นในด้านความฉลาดที่เป็นหนึ่งในอิสต์บลูและพลังฮาคิที่ ร้ายกาจแบบสูงสุด โดยจัดเป็น ฮาคิแบบเกราะและการทลวง บุโซโชคุ ฮาคิ(Busoshoku Haki)หากฝึกฝนขั้นสูงจะสามารถถ่ายทอดพลังไปยังอาวุธเพื่อใช้ทลวงร่างกายของผู้มีพลังผลปีศาจได้โดยตรง

.............................

【】 นอกเรื่องวันพีชความรู้รอบตัว 【】 

       เปิดตำนานตำนานสัตว์เทวะ The Four Symbols

               อสูรทั้ง 4 ตามเทพนิยายจีนทำหน้าที่ปกครองทิศทั้ง 4 บนสวรรค์ และเทพอสูรแต่ละองค์จะประกอบด้วยกลุ่มดาว 7 กลุ่ม นอกจากนั้นเทพทั้ง 4 ยังเป็นตัวแทนธาตุหลักตามตำราจีนด้วย ซึ่งนำเอาใช้ในตำราแพทย์ของจีน รวมถึงศิลปะการต่อสู้อีกด้วย   บริวารของโอรสสวรรค์  อูลซา (มังกรเขียว) พองแบ๊ค (พยัคฆ์ขาว) โอซา (เต่านิล) เซอู (วิหคเพลิง)  นับ แต่โบราณกาล ชาวจีนได้มอบน่านฟ้าทั้งสี่ทิศไว้ภายใต้การคุ้มครองของสัตว์เทพทั้งสี่ อันได้แก่ มังกรเขียว เสือขาว หงส์แดง และเต่าดำ  ดังคำกล่าวที่ว่า
    “ซ้ายมังกรเขียว ขวาเสือขาวครอง หงส์แดงนำหน้า เต่าดำสถิตยังเบื้องหลัง”  
       พัฒนาการของแนวคิดความเชื่อดังกล่าว มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับศาสตร์พยากรณ์และคติความเชื่อในลัทธิเต๋าของ ชาวจีนที่สืบทอดมานานนับพันปี

         ชาวจีนโบราณแบ่งท้องฟ้าออกเป็น 4 ส่วน คือ ตะวันออก ตะวันตก เหนือและใต้ จากการสังเกตหมู่ดาวบนท้องฟ้า จับกลุ่มทิศทางการเรียงตัวของหมู่ดาวเทียบเข้ากับลักษณะของคน สัตว์หรือรูปลักษณ์ในตำนานตามความเชื่อของตน โดย ให้ทิศตะวันออกแทนกลุ่มดาวมังกรเขียว (จากตำนานการปรากฏขึ้นของจักรพรรดิเหลืองทางทิศตะวันออก) ตะวันตกแทนกลุ่มดาวเสือขาว ทิศใต้แทนกลุ่มดาวหงส์แดงและทิศเหนือแทนกลุ่มดาวเต่าดำ แต่ละทิศครองดาว 7 ดวง (รวม 28 ดวง)

          ภายในสุสานยุคจั้นกั๋ว(ราว 433 ปีก่อนคริสตศักราช) แห่งหนึ่งในมณฑลหูเป่ย ได้มีการขุดพบภาพวาดของหมู่ดาว 28 ดวงกับมังกรเขียวและเสือขาวบนฝาของภาชนะเคลือบใบหนึ่ง ซึ่งบอกเราว่า การกำหนดเรียกหมู่ดาวบนท้องฟ้า ได้เกิดขึ้นก่อนหน้าเวลานี้อีกนานนักสัตว์เทพทั้งสี่ต่างยึดครองน่านฟ้าทั้ง สี่ทิศ กลายเป็นตัวแทนของทิศทั้งสี่ จนกระทั่งการศึกษาว่าด้วยศาสตร์แห่งธาตุทั้งห้า และภูมิพยากรณ์ (ฮวงจุ้ย หยินหยาง เป็นต้น) เป็นที่แพร่หลาย สัตว์เทพทั้งสี่และดวงดาวทั้ง 28 เป็นที่รู้จักในฐานะของ “เทพเจ้าผู้พิทักษ์” ตำหนักและสิ่งปลูกสร้างในวังหลวง ได้รับการประดับตกแต่งเป็นลวดลายของสัตว์เทพทั้งสี่ ส่วน ประตูทางทิศเหนือของวังหลวงมักได้ชื่อว่า ประตูเสวียนอู่(เต่าดำ) เนื่องจาก หงส์แดง แทนสัญลักษณ์ของไฟ ขณะที่สถาปัตยกรรมโบราณของจีนล้วนแต่สร้างด้วยไม้ จึงมักไม่ปรากฏรูป แต่จะปรากฏในเชิงสัญลักษณ์อยู่บนกำแพง (ทาสีแดง)แทน

          เมื่อถึงสมัยฉินและฮั่น สัตว์เทพทั้งสี่ก็เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปในฐานะตัวแทนของฤดูกาลและสีสันทั้ง สี่ ในช่วงเวลาดังกล่าว สัตว์เทพทั้งสี่ได้ปรากฏในศาสตร์วิทยาการของจีนหลากหลายสาขา อาทิ ดาราศาสตร์ และภูมิศาสตร์ และการทหาร ดังเช่น ในตำราพิชัยสงครามบทหนึ่ง ได้กล่าวถึงการกำหนดทิศทางเดินทัพไว้ว่า
     “การเคลื่อนทัพนั้น ซ้ายเป็นมังกรเขียว ขวาเสือขาว ทัพหน้าคือหงส์แดงและเต่าดำคุมหลัง บัญชาการจากเบื้องบน นำปฏิบัติสู่เบื้องล่าง”  
      เนื่องจากผู้คนในสมัยนั้นต่างคุ้นเคยกับตำแหน่งของสัตว์เทพทั้งสี่เป็นอย่างดี ภายหลังจึงได้รับการประยุกต์ให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของธงนำทัพไป

          ต่อมาเมื่อศาสนาเต๋ารุ่งเรืองขึ้น มังกรเขียว เสือขาว หงส์แดงและเต่าดำในฐานะเทพเจ้าผู้คุ้มครองมนุษย์ ต่างมีความสำคัญขึ้น ถูกยกให้มีความเป็นมนุษย์ยิ่งขึ้น ต่างมีชื่อเรียกเป็นมนุษย์ และต่อมาอีกไม่นาน  เทพเสวียนอู่หรือเต่าดำ ก็โดดเด่นขึ้นในฐานะของ “เจินอู่” ปรมาจารย์เต๋าผู้สำเร็จมรรคผล ส่วนหงส์แดงเป็นเทพที่มีบทบาทแยกออกมาเป็นเอกเทศ ขณะที่มังกรเขียวและเสือขาวกลายเป็นเทพทวารบาลผู้รักษาประตูทางเข้าสู่มรรคา แห่งเต๋า

มังกรเขียว ประจำทิศตะวันออก สีเขียว:ธาตุไม้ ฤดูใบไม้ผลิ

    

เซริว - มังกรเขียว

                     ชาว จีนโบราณ ถือว่ามังกรเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจกษัตริย์ และเป็นสัตว์มงคลชนิดหนึ่ง นับตั้งแต่ยุคของจักรพรรดิเหลืองเป็นต้นมา มังกรก็กลายเป็นตัวแทนของผู้มีเชื้อสายจีนทั้งมวล โดยเฉพาะเมื่อถึงสมัยราชวงศ์ฮั่น ปรากฏภาพวาดและตำนานเกี่ยวกับหวงตี้หรือจักรพรรดิเหลืองที่ทรงมังกรเป็น พาหนะเหินบินสู่ฟ้า มังกรจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิผู้ยิ่งยงอีกด้วย 
      ตำนานกล่าวว่า มังกรเขียว มีลำตัวเป็นงู หัวเป็นกิเลน หางเป็นปลา มีเครายาว มีเขา เท้าคล้ายกรงเล็บ รูปลักษณ์เป็นมังกรเหิน เปี่ยมด้วยพลังอำนาจ เนื่องจากประจำทิศตะวันออก ธาตุไม้ มีสีเขียว จึงเป็นมังกรเขียว

เสือขาว ประจำทิศตะวันตก สีขาว:ธาตุลม ฤดูใบไม้ร่วง

เปี๊ยกโคะ - พยัคฆ์ขาว

                   เสือเป็นเจ้าแห่งสัตว์ป่าทั้งมวล เนื่องจากประจำทิศตะวันตก ธาตุทอง มีสีขาว จึงกลายเป็น เสือขาว เป็นตัวแทนของอำนาจบารมี ความเคารพยำเกรงและการทหาร เนื่องจากเสือเป็นนักล่า กินเนื้อ ดังนั้น จึงมีภาพลักษณ์เป็นเทพเจ้าแห่งศึกสงครามและการล่าสังหารอีกด้วย 
       สถานที่หรือชัยภูมิในสมัยโบราณหากมีชื่อของเสือขาว จึงมักมีนัยสำคัญทางทหาร นอกจากนี้ ยังใช้ในการตั้งชื่อหน่วยกำลังรบ และใช้เป็นตราสัญลักษณ์ในการบัญชาการเคลื่อนทัพ หรือสลักเป็นลวดลายคู่กับมังกรเขียวบนบานประตูทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้าย

หงส์แดง ทิศใต้  สีแดง:ธาตุไฟ ฤดูร้อน

ซูซาคุ - หงส์แดง

                   หงส์ เป็นเจ้าแห่งปักษา และเป็นสัตว์มงคลชนิดหนึ่งของจีนมาแต่โบราณ มีรูปลักษณ์เดิมมาจากนกหลากหลายชนิด อาทิ ไก่ฟ้า ห่านฟ้า นกกระจอก เหยี่ยวนกกระจอก นกนางแอ่นฯลฯ ในตำนานกล่าวว่า หงส์มีรูปคล้ายไก่ฟ้า มีสีขนสลับลายเป็นประกาย มีนิสัยรักสะอาด ช่างเลือก (มีความละเอียดอ่อนประณีต) 
        เนื่องจากรูปลักษณ์เป็นนก ประจำทิศใต้ ธาตุไฟ สีแดง จึงได้ชื่อว่า หงส์แดง ภายหลังได้รับอิทธิพลจากความเชื่อลัทธิเต๋า จากสัตว์เทพค่อยวิวัฒนาการเป็นรูปลักษณ์ของครึ่งคนครึ่งสัตว์ จากนั้นกลายเป็นเทพที่มีรูปเป็นหญิง

เต่าดำ ประจำทิศเหนือ สีดำ:ธาตุน้ำ ฤดูหนาว

เกมบุ – เต่าดำ

                เต่าดำหรือเสวียนอู่ มีรูปลักษณ์เป็นเต่าแสดงถึงความมั่นคง อุดมสมบูรณ์ แต่มีเกล็ดคล้ายงู มีลักษณะร่วมกันของ เต่าและงู บ้างใช้สัญลักษณ์เป็นรูปเต่าที่มีงูพันรัดกลางลำตัว แต่เดิมมาจากการใช้กระดองเต่าในการทำนายทายทัก ซึ่งหมายถึงการให้เต่านำคำถามลงไปสู่โลกแห่งวิญญาณเพื่อนำคำตอบกลับมายังโลก มนุษย์ 
        อีกทั้งกระดองเต่ามีสีดำ จึงปรากฏในรูปเต่าดำ ภายหลังได้มีการขยายความออกไป โดยเห็นว่าเต่าอาศัยอยู่กับน้ำ ทั้งแม่น้ำลำคลองน้อยใหญ่จนถึงท้องทะเลกว้าง จึงได้รับการขนานนามให้เป็นเทพเจ้าแห่งน้ำ อีกทั้ง เต่ามีอายุยืนนาน จึงเป็นสัญลักษณ์แทนการมีอายุวัฒนะ

ขอบคุณเวป pantip

..........................