One Piece Marineford เซนโทมารุ_Sentoumaru ★ 戦桃丸 (せんとうまる)

MARINE Captain Sentoumaru
ฉายา ผู้คุ้มกันหมายเลข 1 (world-class guard)
- ชายที่ปากแข็งที่สุดในโลก
สังกัด กองทัพเรือรัฐบาลโลก (Marines)
-หน่วยจู่โจมกอง วิทยาศาสตร์
อายุ ประมาณ 28 ปี 
ส่วนสูง 167 cm.
ตำแหน่ง  ทหารเรือ ยศนาวาเอก(Captain)
- บอดี้การ์ดของ Dr.เบกาพังค์
ผลปีศาจ ---
อาวุธ ขวานเหล็กขนาดใหญ่(broadaxe)
- Busoshoku Haki - บุโซโชคุฮาคิ พลังแห่งความตั้งใจหรือจิตแห่งอาวุธ
ลูกน้อง  แปซิฟิสต้า(Pacifista)

              ผู้นำกลุ่ม แปซิฟิสต้า(Pacifista) จากรัฐบาลโลก เซนโทมารุ(Sentoumaru) มีตำแหน่งเป็นทหารเรือยศนาวาเอกชั่วคราวประจำหน่วยวิทยาศาสตร์ค้นคว้าทางทะเล  มีความซื่อตรงต่อหน้าที่สูงและมีความมุ่งหวังสูงสุดในการสร้างผลงานเพื่อพิสูทธิ์ฝีมือให้กองบัญชาการใหญ่ได้เห็นเพื่อให้รับการคัดเลือกเป็นทหารเรืออย่างเต็มตัว ซึ่งเค้าเองก็สามารถทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดี
    -  ชื่อของเซนโทมารุแปลตามตัวได้ตามนี้คือSEN -戦  แปลว่า  พละกำลัง การรบ Momo หรือTou -桃 แปลว่า ลูกท้อส่วนคำอื่นMARU -  ปลว่า  เป็นคำต่อท้ายเด็กผู้ชายแปลว่า วงกลม
     - ลักษณะของเซนโทมารุมีที่มามาจาก Sakata Kintoki-Kintaro ฮีโร่ในตำนานญี่ปุ่นผู้ถือขวานใหญ่ปราบปีศา 
     -  คำว่าแปซิฟิต้าในภาษาอิตาลีแปลว่า ความสงบซึ่งเป็นคำแสลงอาจมีความหมายว่า จงอยู่ในความสงบหรือความสงบหลังจากการฆ่าให้เรียบ
【】 เปิดตำนานนิทานการพจญภัย คินทาโร่ จอมพลัง - Kintaro ภาค2 【】
 
http://pirateonepiece.blogspot.com/2010/03/captain-hina.html 











              ในเหตุการที่เกิดขึ้นที่มารีนฟอร์ดเซนโทมารุและเหล่าแปซิฟิต้าถูกเรียกให้มาสู้ศึกในครั้งนี้ด้วย โดยปรากฏตัวออกมาจากด้านหลังของศูนย์บัญชาการใหญ่มารีนฟอร์ดโดยถูกเซนโกคุวางให้เป็นหมากตัวสำคัญตัวหนึ่งที่จะคอยปิดทางหนีและกำจัดโจรสลัดที่ถูกขังอยู่ในกำแพงเหล็กซึ่งในจำนวนศัตรูอันมากมายซึ่งส่วนใหญ่เป็นโจรสลัดจากโลกใหม่ถูก เลเซอร์ของแปซิฟิต้าระดมยิงทำให้ต้องตายไปไม่น้อยแต่ในขณะที่กำลังกวาดล้างอยู่นั้นลูฟี่หลุดออกมาถึงแนวป้องกันที่เซนโทมารุประจำอยู่เหล่าแปซิฟิต้่าจึงมุ่งเป้าหมายมาที่ลูฟี่แทนแต่โชคดีที่ โบอา แฮนค็อกเข้ามาขัดขวางและเข้าโจมตีแปซิฟิต้าในทันทีทำให้เซนโทมารุมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าทำมัยถึงหันมาโจมตีฝ่ายเดียวกันแต่กับได้รับคำตอบว่า ความรักดั่งเฮอริเคน ถึงแม้ว่าเซนโทมารุและเหล่าแปซิฟิต้าจะพยายามต่อสู้อย่างสุดกับแฮนค็อก แต่ก็ดูเหมือนจะไม่สามารถต่อกรกับราชินีแฮนค็อกได้ซ้ำยังเสียแปซิฟิต้าไปอีกหลายตัวจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย

กองทัพแปซิฟิต้าแห่งรัฐบาลโลก - Pacifista Army



          แปซิฟิต้า (Pacifista - Pashifisuta) ถูกพัฒนาโดยด็อกเตอร์ เวก้าฟั้งแห่งกองวิทยาศาสตร์ทางทะเลทหารเรือโดยมีต้นแบบมาจาก บาโซโลมิวคุมะเป็นรูปแบบที่เรียกว่า มนุษย์อาวุธ( Ningen - heiki)โดยโครงการนี้รัฐบาลโลกและกองทัพเรือทุ่มเทเงินทองมหาศาลเทียบกับแปซิฟิต้า 1ตัวมีค่าเท่ากับเรือรบเต็มอัตราศึก 1ลำเลยทีเดียว 
        กลไกภายนอกและภายในของแปซิฟิต้าประกอบด้วย โลหะคุณภาพดีที่มีความแข็งแกร่งกว่าเหล็ก10เท่าและยังมีความพิเศษอื่นๆอีก
    -  ความสามารถในการแสกนตัวตนของอาชญากรซึ่งถูกติดไว้ที่ดวงตาทั้งสองข้างโดยถูกครอบด้วยเลนส์ชนิดพิเศษอีกชั้นนึง
    -  ความสามารถในการพูดและออกเสียงเพียงเล็กน้อยในการแจ้งถึงตัวตนโจรสลัดดที่กำลังจะเข้าจับกุม
    -  ความสามารถในด้านพละกำลังมากมายมหาศาลมากจากเตาพลังงานพิเศษติดตั้งอยู่ที่ไหล่ทั้งสองข้าง
................................


【】 นอกเรื่องวันพีชความรู้รอบตัว【】 
      เปิดตำนานนิทาน คินทาโร่จอมพลัง - Kintaro ภาค 2

               และเมื่องานฉลองวันเกิดให้กับแม่นั้นเสร็จลงแล้ว พวกสัตว์ป่าต่าง ๆ ก็แยกย้ายกันกลับไปหลับนอนตามที่อยู่ อาศัยต่าง ๆ ของพวกมันกันตามปกติ ในเวลาต่อมานั้นก็เป็นยามค่ำคืนที่เงียบสงัดเข้ามาอีกวาระ แต่แล้วในขณะ ที่ คินตาโร่กับแม่กำลังจะเตรียมตัวเพื่อที่จะเข้านอนกันอยู่นั้น...ก็ได้มีเจ้าลิงตัวที่เป็นบริวารตัวสำคัญได้มา เคาะประตูบ้านด้วยเสียงอันดัง แล้วตะโกนบอกกับคินตาโร่ว่า " ไฟไหม้..เกิดไฟป่าไหม้ขึ้นแล้ว.." แต่ทุกอย่างก็ช้า ไปเสียแล้ว เพราะไฟป่านั้นได้ลุกโฮมหนักมาก จนเห็นแสงของไฟนั้นลุกวูปวาปมาทางบ้านของคินตาโร่เสียแล้ว....

จอมพลังคินทาโร่ - Kintaro
                 " แม่..แม่..หนีกันเถอะ พวกเราไม่มีทางที่จะดับมันได้แล้วหละ..หนีแม่ " คินตาโร่พูดรีบเร่งแม่เป็นการใหญ่แล้วได้ พาแม่กับพวกบริวารต่าง ๆ หนีไฟกันมาถึงที่สะพานข้ามหน้าผาใหญ่แห่งหนึ่ง...แต่ตัวสะพานข้ามหน้าผาอันนั้นได้ ถูกไฟเผาไหม้จนเหลือเพียงแต่ตอ เรียกว่าจนมองไม่เห็นเป็นรูปร่างของสะพานให้เห็นเสียแล้ว...การที่จะข้ามไปฝั่ง ตรงข้ามนั้นจึงเป็นการยากอย่างแน่นอน แล้วเจ้าไฟป่าที่ลุกไหม้ตามมาอยู่นั้นก็ไม่เห็นมีท่าว่าจะสงบลงให้เลยแต่ อย่างใดด้วยกลับเป็นเหมือนกับจะไล่ตามกวด และบีบเข้ามา..บีบเข้ามา อย่างไม่ลดละเลย ก็ไม่ปาน....

           " อ๋อ..ใช่แล้วถ้าอย่างนั้น ก็ล้มต้นไม้สักต้นแล้วเอามาเป็นทำสะพาน เพื่อข้ามไปฝั่งกระโน้น ดีกว่า " เมื่อคิดได้ดัง นั้นแล้ว...คินตาโร่จึงเดินไปตรงที่ใกล้ ๆ กันนั้น แล้วโค่นต้นไม้ต้นใหญ่ต้นหนึ่งด้วยมือปล่าว ๆ ของเขา ซึ่งด้วยพลัง ช้างสารที่ไม่มีใครจะมาเท่าเทียมได้นั้น ต้นไม้ต้นใหญ่โดนสั่นคลอนอยู่สักพัก ก็ล้มลงมาแบบถอนรากถอนโคนเลย ทีเดียว...และจากนั้นคินตาโร่ก็เดินแบกต้นไม้ที่ล้มได้นั้นมาพาดลงไปที่หน้าผา แล้วเขาก็ได้เข้าไปจับมือของแม่และ ได้จูงแม่เดินข้ามสะพานต้นไม้อันนั้นเดินนำหน้ามาเรื่อย ๆ บริวารพวกพ้องก็เดินตามกันมาเป็นแถว ตามกันมา ติด ๆ..แต่เมื่อกำลังเดินกันมาถึงตรงกลางสะพานเข้าเท่านั้น เจ้าลูกหมีทานุคิด้วยเดินข้ามมาด้วยความหวาดกลัวอย่างมาก เข้าอย่างนั้น มันจึงเกิดเดินพลาดและเสียหลักจนต้องลื่นและตกลงไปสู่ด้านล่างของหน้าผาเสียแล้ว...แม่หมีทานุคิ ร้องจนเสียงหลงเลยทีเดียว " อ๊ะ..ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยลูกของฉันด้วย...ฮือ ๆๆ " และด้วยความไวคินตาโร่ที่กำลัง เดินจูงแม่อยู่ข้างหน้านั้นก็กระโดดตามลูกหมีทานุคิลงไปสู่ด้านล่างของหน้าผาทันทีเหมือนกัน...แต่ด้วยกระแสน้ำ นั้นปั่นป่วนและไหลแรงอย่างมาก ลูกหมีทานุคิจึงต้องลอยตามกระแสน้ำไปอย่างเร็วรี่..ไม่ยอมหยุด .

                 แต่ก็ไม่พ้นไปจากความพยายามของคินตาโร่ได้หรอก เพราะเขาได้รวบรวมพลังและว่ายตามมาจนทันแล้วได้จับลูก หมีเอาไว้ได้ทัน แต่แล้วอย่างกระทันหันที่คินตาโร่ ได้มารู้ตัวว่ากำลังจะตกลงไปในน้ำตกที่อยู่ปลายน้ำนั้นเสียแล้ว และด้วยเขานั้นได้กอดลูกหมีทานุคิเอาไว้อย่างนั้น จึงหมดหนทางที่จะว่ายน้ำหนีและต่อสู่กับแรงน้ำไหลนั้นได้เลย สักนิด " โอ้ย..แย่แล้ว จะทำยังไงดี " คินตาโร่ได้แต่ร้องอย่างตกใจเพราะหมดท่าเสียแล้ว ร่างของเขาจึงจ้องตกลง ไปตามสายน้ำตกที่ไหลมาจากยอดหน้าผานั้น ไหลตามน้ำลงไปเรื่อย ๆ แล้วในทันทีนั้นที่เหตุการณ์กำลังเลวร้ายอยู่ ในขณะนั้น..ก็ได้มีเจ้าปลาโค้ยยักษ์ตัวที่มาโขมยปลาฮุนะไปกินตัวนั้นได้โผล่หัวของมันออกมา มันได้ตรงเข้าช่วย และให้คินตาโร่กับลูกหมีขึ้นนั่งบนหลังของมัน แล้วว่ายทวนน้ำตกที่ไหลอย่างแรงนั้นขึ้นสู่ด้านบนได้ทันท่วงทันที" คินตาโร่ ซัง..เกือบแย่เลยนะ โชคดีที่เราได้ว่ายผ่านมาแถวนั้นเข้าพอดี และได้มีโอกาสที่ได้ช่วยท่านไว้ได้อย่าง ปลอดภัย " เจ้าปลาโค้ยพูดขึ้นเมื่อได้มาส่งคินตาโร่กับลูกหมีทานุคิขึ้นฝั่งเรียบร้อยแล้ว " ขอบคุณท่านอย่างมาก ที่ได้ช่วยชีวิตไว้ครั้งนี้ เราจะไม่มีวันลืมบุญคุญนี้เป็นอันขาดเลยทีเดียว ท่านปลาโค้ย " และด้วยการเป็นเช่นนี้ คินตาโร่และพวกพ้องพร้อมทั้งบริวารจึงปลอดภัยรอดพ้นจากการถูกเผาตายด้วยไฟป่าไปได้อย่างปลอดภัยกันทุก คนและทุกตัวเลยทีเดียว และในท่ามกลางความโกลาหลที่ผ่านมาเมื่อครู่นี้นั้น ตอนนั้นก็เกิดพอดีกับได้มีขุนนาง ซามูไรท่านหนึ่งของท่านโชกุนผู้หนึ่ง ได้เดินทางผ่านมาทางนั้นเข้าพอดี และได้เห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ทั้งหมดนั้น เสียด้วย... 

                 " ช่างเป็นเด็กที่กล้าหาญชาญชัย และมีกำลังมหาศาลอะไรจะปานนั้น ขนาดล้มต้นไม้ได้ทั้งต้นด้วยมือปล่าว ๆเสีย ด้วย นี่แหละบุคคลที่เรากำลังตามหาอยู่ เลยหละ " ท่านขุนนางซามูไรผู้นี้เป็นบริวารของท่านโชกุนผู้มีนามว่า " มินาโมโต้ โนะ โยริมิซึ " เป็นขุนนางหรือซามูไรคนโปรดประจำราชวังของโชกุนเลยทีเดียว ที่มีความจำเป็นจะ ต้องออกเดินทางไปตามแหว่นแคว้นต่าง ๆ รอบ ๆ จนทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น จุดมุ่งหมายนั้นก็เพื่อตามหาผู้ที่มีพลังอัน แข็งกล้า และจะต้องเป็นผู้ที่กล้าหาญเสียด้วยตามคำสั่งที่ได้รับบัญชามาจากท่านโชกุนผู้ครองนคร...แล้วในไม่ช้า หลังจากนั้นฝนก็ได้ตกเทลงมา จึงเป็นผลที่ทำให้ไฟป่าที่ลุกไหม้อย่างบ้าคั่งนั้นสงบและดับลงอย่างสนิท คินตาโร่จึง ได้พาแม่และพวกพ้องบริวารย้อนกลับมาที่บ้านที่อยู่อาศัยอีกครั้ง และเมื่อมาถึงที่บ้านแล้ว ขณะที่คินตาโร่กับแม่ก็ได้กำลังช่วยกันทำบาดแผลให้กับพวกสัตว์ต่าง ๆที่ได้รับบาดเจ็บให้ อยู่ตรงนั้น

               ท่านขุนนางซามูไรของท่านโชกุนก็ตามมาทัน และได้บอกขอร้องกับแม่ของคินตาโร่ว่า " เด็กคนนี้ ลูก ชายของท่านช่างมีพลังและมีความกล้าหาญชาญชัยเป็นอย่างมาก ยกให้กับเราเถิด เราจะนำไปถวายท่านโชกุน โยริมิซึ เพื่อจะได้ทำหน้าที่เป็นขุนนางหรือซามูไร รักษาเมืองในอนาคตข้างหน้า "แม่เมื่อได้ฟังดังนั้นก็ให้เป็นปลื้มปิติเป็นอย่างมาก จึงตกลงใจมอบคินตาโร่ให้กับท่านขุนนางซามูไรผู้นั้นด้วยความ เต็มใจ และก่อนที่คินตาโร่จะเดินทางจากไป ก็ได้พูดบอกกับแม่ว่า " แม่ไม่ต้องกลัวนะ เมื่อไหร่ที่ข้าได้เป็นซามูไร และขุนนางที่ใหญ่โตแล้วจะมารับแม่ไปอยู่ด้วย..ข้าสัญญา " แล้วคินตาโร่ก็เดินทางจากไป เพื่อความเป็นใหญ่เป็น โตในอนาคต..ตั้งแต่บัดนั้น และเมื่อเดินทางไปถึงที่ในพระราชวังแล้ว " คินตาโร่ " ก็ได้รับนามใหม่ว่า " ซากาตะ โนะคิน " 
                ในเวลาต่อมา วันหนึ่งพระธิดาคนสำคัญของท่านโชกุน " โยริมิซึ " ได้โดนยักษ์ร้ายชื่อ " จูเท็นโด " แอบมาโขมยเอาไปซ่อนไว้ที่ภูเขา " โอเอยาม่า " ดังนั้นซามูไรประจำราชสำนัก 5 ท่านจึงถูกโดนเลือกขึ้น และแน่นอนในจำนวนนั้นก็ได้มี " คินตาโร่ " รวมอยู่ด้วย ทั้งหมด แฝงตัวปลอมเป็นบุคคลชาวป่าธรรมดา ๆ แล้วหาโอกาศเข้าไปคลุกคลีกับพวกยักษ์เหล่านั้น 

              จนเข้าไปถึงตัวเจ้ายักษ์ ตัวหัวหน้าคือ " จูเท็นโด " ได้สำเร็จ และเข้าทำการปราบปรามจนสำเร็จ แล้วได้ช่วยพระธิดาของท่านโชกุน " โยริมิซึ " ได้สำเร็จ" คินตาโร่ " จึงได้รับการยกย่องและถูกตั้งให้เป็นขุนนางทันทีหลังจากนั้น...แล้วต่อมาก็ ได้พบรักและแต่งงานกับพระ ธิดาของท่านโชกุน " โยริมิซึ " นางนั้นผู้ที่เขาได้เข้าไปช่วยให้พ้นจากเงื้อมือของยักษ์ร้าย " จูเท็นโด " อีกด้วย และเมื่อเขาได้เป็นใหญ่ เป็นโตสมกับความมุ่งหมายที่คาดคิดไว้ได้แล้ว ก็ได้ไปรับแม่ที่อยู่ที่ในป่าให้มาอยู่ด้วย และได้อาศัยอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ตลอดกาลนั้นเลยทีเดียว 

.....................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น