วันพีช Kaido Pirate_แจ็คเดอะแมมมอส_Jack The Drought ★ジャック

WANTED Onepiece Jack
http://pirateonepiece.blogspot.com/2015/12/kaido-piratejack-drought.html
http://pirateonepiece.blogspot.com/search/label/Yonkou%20Lord%20Kaidoฉายา แจ็คความตาย
- JACK THE DEAD -
ค่าหัววันพีช  NEW
1,000,000,000 เบรี
อายุ 28 ปี
-  เกิด 28 กันยายน
ส่วนสูง 830 cm กรุ๊ปเลือด F
ตำแหน่ง 1 ใน 3 อสูรภัยพิบัติแห่งกลุ่มสัตว์อสูรไคโด(BEAST KAIDO PIRATE)
 ★★ แจ็คแห่งมหาพิบัติภัยแล้ง ★★
         -  JACK THE DROUGHT  -
อาวุธ ดาบสบั้นคอ/วงเสี้ยว(SHOTEL)
ผลปีศาจ โซล โซล : โมเดล ช้างแมมมอส (Zou Zou : Model Mammoth)สายโซออน/สัตว์โบราณยุคน้ำแข็ง
ผลช้างสายพันธ์แมมมอ : มีร่างกายแข็งแกร่งใหญ่โตต้านทานทุกการโจมตีที่จะเข้ามา ขนหนาป้องกันทุกสภาพอากาศที่จะต้องเจอ งวงยาวทรงพลังฟาดฟันศัตรู
สมาชิกกลุ่ม หัวหน้าจักรพรรดิคโดแห่งร้อยอสูร((Yonko Kaido) , หัวหน้าหน่วยเดร็กเดอะทีเร็ก(X-DRAKE)
เผ่าพันธุ์ มนุษย์เงือก/ฟิชแมน (Fishman-Merman)
- สายพันธ์ ปลาเก๋าเสือยักษ์(Giant Grouper)

      ประวัติ.แจ็คภัยแล้ง((Jack The Drought) ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน3 ภัยพิบัติที่ผู้คนโดยทั่วไปไม่อยากพบเจอเพราะนั่นอาจหมายถึงความซวยที่ยากจะ จินตนาการได้กำลังจะเกิดขึ้น แจ็คมีร่างกายที่ใหญ่โตกว่าคนปกติมากมายหลายเท่าและมักสวมขากรรไกรเหล็กปก ปิดใบหน้าไว้ตลอดนั่นยิ่งทำให้เค้าดูน่าเกรงขามจากผู้ที่ได้พบเห็นในครั้ง แรกอยู่เสมอและด้วยนิสัยที่ดูแปลกประหลาดชอบทรมาณศัตรูให้ตายอย่างช้าๆและ คอยเฝ้ามองต่อชะตากรรมของศัตรูที่ไม่อาจหลีกหนีเงื้อมมือของเค้าได้พ้น นั่นยิ่งทำให้แจ็คยิ่งดูเป็นคนเหี้ยมโหด ไร้ปราณี ไม่ว่าจะเป็นใครศัตรูหรือพวกเดียวกันหากมาขวาง เค้าก็จะไม่รังเลที่จะเหยืยบให้เละไปต่อหน้าจนใครๆต่างรู้กันดีว่า แจ็คโผล่ที่ไหนมีแต่เละ
 ......................
http://pirateonepiece.blogspot.com/2015/12/4-yonkoujack-drought.html เปิดตำนานยักษ์ใหญ่ในยุคน้ำแข็ง ราชาแห่งทุ่งกว้างช้างแมมมอธ( Mammoth)







              แจ็คเดอะเดร้าส์แห่งกลุ่มโจรสลัดสัตว์อสูรไคโด เป็นผู้มีพลังจาก ผลปีศาจโซล โซลโมเดลแมมมอส : Zou Zou Model: Mammoth สายโซออนโบราณ(Ancient Zoan) ผลช้างแมมมอธ ความสามารถโดยหลักของพลังสายโซออนคือการกลายร่างเป็นสัตว์โดยในรายของแจ็คด้วยร่างกายที่ใหญ่โตกว่ามนุษย์หลายเท่านั่นยิ่งทำให้ผลแมมมอสที่ดูทรงพลังอยู่แล้วยิ่งทรงพลังมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัวโดยเฉพาะพลังในการทำลายล้างไม่ว่าจะเป็น แรงกะทืบหรือแรงฟาดจากงวงก็ล้วนรุนแรงจนสิ่งที่มาขวางหน้าแหลกเละไม่มีชิ้นดี
       จุดอ่อน : ตามธรรมชาติช้างมีความกลัวไฟเป็นสัญชาติญาณอยู่แล้วแต่สำหรับแมมมอสมันยิ่งกว่าเพราะเพียงแค่อากาศร้อนก็ทำให้ช้างแมมมอสต้องสูญสิ้นเผ่าพันธ์มาแล้วในอดีต

...................................


 【】 นอกเรื่องวันพีชความรู้รอบตัว 【】
         เปิดตำนานยักษ์ใหญ่ในยุคน้ำแข็ง ราชาแห่งทุ่งกว้างช้างแมมมอธ

                ช้างแมมมอธ หรือ แมมมอธ (Mammoth) โดยคำว่า "แมมมอธ" นั้นมาจากคำว่า "Mammal" หรือ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แมมมอธเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตระกูลช้างที่อาศัยอยู่ในยุคน้ำแข็งเมื่อกว่า 20,000 ปีก่อน จัดอยู่ในวงศ์ Elephantidae เช่นเดียวกับช้างที่ยังดำรงเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน โดยอยู่ในสกุล Mammuthus จำแนกออกได้ทั้งหมด 9 ชนิดแมมมอธแอฟริกา ,แมมมอธโคลัมเบียน,แมมมอธแคระ ,แมมมอธเจฟเฟอร์โซเนีย,แมมมอธทุ่งหญ้าสเตปป์ ,แมมมอธแอฟริกาใต้, แมมมอธขนดก ,แมมมอธแคระซาร์ดิเนียน 
             แมมมอธ กระจายพันธุ์อยู่ทั่วโลก โดยเฉพาะทวีปยุโรปและเอเชียเหนือ เช่น ไซบีเรีย ยกเว้นออสเตรเลียและอเมริกาใต้ เป็นช้างที่มีลำตัวและงาใหญ่กว่าช้างในยุคปัจจุบันมาก ปัจจุบันจะค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของแมมมอธได้ในยุคไพลสโตซีน 


            แมมมอธ กำเนิดขึ้นมาเมื่อราว 2.6 ล้านปีก่อน ในยุคไพลโอซีนตอนต้น และสูญพันธุ์อย่างสิ้นเชิง เมื่อ 11,700 ปีที่ผ่านมา (แมมมอธตัวสุดท้ายที่สูญพันธุ์ คือ แมมมอธแคระ ที่อาศัยบนเกาะแรงเกล ในทะเลอาร์กติก เมื่อราว 3,700 ปีก่อน
           แมมมอธมีขนาดโดยเฉลี่ย 4 เมตร (14 ฟุต) ตั้งแต่เท้าจนถึงหัวไหล่ มีสีขนที่หลากหลายตั้งแต่น้ำตาล หรือน้ำตาลออกเหลือง ความยาวตั้งแต่ 2.5 เซนติเมตร (1 นิ้ว) จนถึง 50 เซนติเมตร (20 นิ้ว) ภายใต้ผิวหนังหนาและมีชั้นไขมันเป็นฉนวนกันความหนาว 8 เซนติเมตร (3 นิ้ว) มีส่วนหัวที่กลม ใบหูเล็กกว่าช้างในยุคปัจจุบันมาก มีโหนกไขมันอยู่บริเวณส่วนหลัง มีงายาวโค้งได้ถึง 13 ฟุต (4 เมตร) มีฟันกรามเป็นสัน ทั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเหมาะแก่การอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่ความหนาวในยุคน้ำแข็ง เพื่อรักษาความอบอุ่นในร่างกาย 
            แมมมอธ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อมนุษย์ในยุคหินเก่า ด้วยการล่าเอาเนื้อเป็นอาหาร หนังและไขมันเป็นเครื่องสร้างความอบอุ่น จนมีภาพเขียนสีบนผนังถ้ำหลายแห่งที่ปรากฏภาพ การล่าแมมมอธด้วยอาวุธที่ทำจากหินในยุคนั้น 


            แมมมอธ จำแนกออกได้เป็นทั้งหมด 9 ชนิด แต่ละชนิดมีลักษณะ รูปร่าง แตกต่างกันออกไป โดยชนิดที่เป็นที่รู้จักดีที่สุด คือ แมมมอธขนดก (Mammuthus primigenius) ที่มีขนปกคลุมอยู่ทั้งตัว เชื่อว่า แมมมอธสูญพันธุ์ไปเพราะถูกล่าโดยมนุษย์จนหมด แต่จากการศึกษาด้านพันธุกรรมศาสตร์และดีเอ็นเอพบว่า แมมมอธนั้นมีสายสัมพันธ์ใกล้เคียงกับ Elephas หรือช้างเอเชียที่ยังดำรงเผ่าพันธุ์มาจนปัจจุบัน จึงมีความพยายามจากนักวิทยาศาสตร์ที่จะโคลนนิงตัวอ่อนของแมมมอธให้เกิดขึ้นมาให้ได้ โดยให้แม่ช้างเอเชียเป็นฝ่ายอุ้มท้อง จากการสกลัดนิวเคลียสจากซากดึกดำบรรพ์ของลูกแมมมอธที่ค่อนข้างสมบูรณ์ เพราะถูกแช่แข็งในน้ำแข็ง จากไขกระดูกบริเวณต้นขาและจากหลักฐานใหม่ที่ได้ทำการศึกษาพบว่า แมมอธสูญพันธุ์ไปเพราะสาเหตุการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมากกว่า โดยประชากรในยุโรปเกือบสูญพันธุ์ไปก่อนหน้านั้นเมื่อ 20,000-30,000 ปีก่อน จากนั้นเมื่อ 14,000 ปีก่อน โลกเริ่มมีอุณหภูมิที่อุ่นขึ้น จึงพากันสูญพันธุ์ เนื่องจากสภาพร่างกายที่ใหญ่และมีขนยาวปกคลุมลำตัว 
               ในปลายเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2012 มีการค้นพบซากลูกแมมมอธอายุราว 30,000 ปี ที่สมบูรณ์มากตัวหนึ่งที่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือห่างจากกรุงมอสโคราว 3,500 กิโลเมตร โดยเด็กชายวัย 11 ขวบคนหนึ่ง นับเป็นการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ที่สมบูรณ์มากซากหนึ่งในรอบนับร้อยปี เชื่อว่า ลูกแมมมอธตัวดังกล่าวตายลงเมื่อมีอายุได้ 16 ปี มีความสูงได้ 2 เมตร 
.........................

2 ความคิดเห็น: