ฉายา จักพรรดิดำ ดี.ทีช
- ทีช.!.หนวดดำ -
( BLACKBEARD TEACH)
ค่าหัว 2,247,000,000
อายุ 38 ปี
- เกิด 3 สิงหาคม
ส่วนสูง 344 cm.(11 ฟุต 2นิ้ว)
เรือ Blackbeard Pirates' raft
ตำแหน่ง 7 เทพโจรสลัด(Shichibukai) : ถูกปลดเพราะประกาศตัวเป็นศัตรูกับรัฐบาล
- กัปตันกลุ่มโจรสลัดหนวดดำ(Blackbeard Pirates)
ผลปีศาจ ยามิยามิ(YamiYami) สายโลเกีย/ปฏิปักษ์ในตำนาน
ผลความมืด : พลังดูดกลืนทุกสิ่งรวมถึงทำให้พลังของผลปีศาจอื่นสิ้นสภาพ
อายุ 38 ปี
- เกิด 3 สิงหาคม
ส่วนสูง 344 cm.(11 ฟุต 2นิ้ว)
เรือ Blackbeard Pirates' raft
ตำแหน่ง 7 เทพโจรสลัด(Shichibukai) : ถูกปลดเพราะประกาศตัวเป็นศัตรูกับรัฐบาล
- กัปตันกลุ่มโจรสลัดหนวดดำ(Blackbeard Pirates)
ผลปีศาจ ยามิยามิ(YamiYami) สายโลเกีย/ปฏิปักษ์ในตำนาน
ผลความมืด : พลังดูดกลืนทุกสิ่งรวมถึงทำให้พลังของผลปีศาจอื่นสิ้นสภาพ
อาวุธ ปืนสั้นหลายกระบอก
ลูกเรือ วอร์น
ออก้า (Van Auger) ,จีซัส บาเจส (Jesus Burgess) ,ด็อกเตอร์คิว(Doc Q)
,ราฟิต (Lafitte) ,ชิริว(Shiryuu) ,ซานจวน วูลฟ์ (San Juan Wolf) ,วาสโก้
ช็อต(Basco Shot) ,แคทาลีนา ดีวอน (Catarina Devon) ,อาบาโล่ ปิซาร์โร่
(Abalo Pizarro)
เผ่าพันธุ์ มนุษย์ผู้สืบสายเลือดแห่งดี
"ไม่ใช่ถูกหัวเราะเยาะหน่อยก็ตอบโต้ ......
การทะเละวิวาทบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องใช้กำปั้น..
ถ้าต้องการพบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าต้องรู้จักอดทน"
กล่าวโดย มาร์แชล ดี.ทีช
มาร์แชล ดี ทีช(Marshall D.Teach) เป็นชายวัยกลางที่มีรูปร่างใหญ่โต แม้จะดูอ้วนแต่ก็แข็งแกร่งมาก โดยรวมเค้าดูอัปลักษณ์ในหลายๆส่วนเช่น ปากกว้าง ฟันหน้าหัก จมูกงอ มีขนหยิกขึ้นตามตัวและหน้าอก มีเคราดำสกปรกที่ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์แม้แต่นิสัยของเค้าก็ยังดูแปลกเป็นการผสมกันในหลายแบบทั้งกล้าหาญ มักใหญ่ใฝ่สูง อดทนอดกลั้นแต่ในบางครั้งก็เหมือนเสแสร้ง ขี้ขลาดโดยเค้ามีความชื่อในโชคชะตาเป็นอย่างมากโดยเฉพาะความเชื่อที่ว่าการที่เค้าเกิดมาในฐานะผู้สืบทอดปณิธานแห่ง ดี.นั้นก็เพื่อเป็นผู้ที่ถูกเลือกให้มาเป็นราชาโจรสลัดคนต่อไปเพื่อเปลี่ยนแปลงยุคสมัย
- 7 เทพโจรสลัดถูกกล่าวขวัญกันว่าเป็นดั่งอัศวินทั้ง 7 แห่งท้องทะเลหรืออีกนัยหนึ่งอาจถูกเปรืยบเป็นเงาของบาปทั้ง 7 ที่มีอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกคน
D.Teach ถูกเปรียบเป็น ตะกละ(gluttony) สัญลักษณ์ของตะกละคือหมูหรือกา สีประจำบาปคือสีส้ม : ความต้องการในรูปแบบต่างๆอย่างไม่มีสิ้นสุดทั้ง อาหาร เครื่องดื่ม เงิน ทอง อำนาจ ชื่อเสียง เป็นบาปที่สามารถชักจูงให้เกิดบาปอื่นๆตามมาอีกมากมาย
.....................................
【】 เปิดตำนานบาปแห่งการ เบียดเบียน ภายใต้บัญชาจากจอมมาร บาอัล Baell - จอมปีศาจแห่งการกินอย่างไม่สิ้นสุด 【】
【】 เปิดตำนานบาปแห่งการ เบียดเบียน ภายใต้บัญชาจากจอมมาร บาอัล Baell - จอมปีศาจแห่งการกินอย่างไม่สิ้นสุด 【】
แบล็คหรือทิชหนวดดำผู้สืบสายเลือดแห่งดีที่ชั่วช้าที่สุด โดยมีพลังผลปีศาจที่เลวร้ายไม่แพ้กันนั้นคือ พลังจากผลปีศาจที่เป็นปฏิปักษ์กับผลปีศาจทุกชนิด ผลปีศาจ โยมิ โยมิ YomiYomi : Darkness ผลความมืดด้านลบที่ดูดกลืนทุกสิ่ง โดยหลักพลังนี้คือพลังในการควบคุมสระสารความมืดที่ดูคร้ายควันดำที่เครื่อนตัวได้ เป็นพลังต้านแรงโน้มถ่วงของของโลก ดูดกลืนทุกสิ่งไม่ว่าจะอยู่ไหน ขึ้นหรือลง เข้าสู่หลุมดำไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิตเมื่อถูกดูดกลืนเข้าไปจะไร้ซึ่งทางออกจนกว่าทิชจะปลดปล่อยมันออกมา โดยการปลดปล่อยสิ่งที่ดูดเข้าไปออกมานั้นทุกสิ่งจะถูกบดขยี้ภายในห้วงมิติจนละเอียดและกระเด็นออกมาอย่างรุนแรง
การที่ผลความมืดเป็นปฏิปักษ์กับผลไม้ปีศาจชนิดอื่นและได้ชื่อว่าเป็นผลปีศาจที่อยู่เหนือกว่าชนิดอื่นและเป็นเพียงชนิดเดียวที่เป็นปฏิปักษ์กับผลปีศาจทุกชนิด นั่นเป็นเพราะพลังของมันจะดูดความสามารถพิเศษของผลปีศาจชนิดอื่นให้หายไปในพริบตา เมื่อสัมผัสถูกตัวผู้มีพลังผลปีศาจความสามารถของผู้นั้นจะกลายเป็น 0 และกลับกลายเป็นมนุษย์ธรรมดาสามัน
จุดอ่อน : โดยหลักพลังความมืดเป็นพลังที่ใช้รับการโจมตีระยะใกล้มีขอบเขตการโจมตีไม่กว้างไกลเหมือนสายโรเกียคนอื่นจึงง่ายแก่การถูกโจมตีระยะไกล
- ร่างกายผู้ใช้ที่ไม่สามารถสลายได้เหมือน สายโรเกียคนอื่น
- การลบพลังของผู้มีพลังจากผลไม้ปีศาจจำเป็นต้องแตะตัวผู้นั้นในระยะใกล้ซึ่งทำให้ถูกโจมตีจากอาวุธและของมีคมได้ง่าย และหากศัตรูออกห่างและไม่ถูกสัมผัสตัวพลังผลปีศาจก็จะกลับมาอย่างรวดเร็ว
มาร์แชล ดี.ทีช เคราดำ - Marshall D.Teach |
แต่มันจะพังพินาศด้วยน้ำมือ...ของคนที่เอาแต่มอง...
....แต่ไม่คิดที่จะทำอะไรเลยต่างหาก.!!!.."
มาแชล ดี.ทีชในอดีต แฝงตัวเข้ากลุ่มหนวดขาวมานานกว่า 20 ปีและทำตัวให้เงียบที่สุดไม่แสดงออกทั้งความสามารถและพลัง หรือแม้แต่ตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มกองรบที่ 2 ของโจรสลัดหนวดขาวเค้าก็ปฏิเสธที่จะรับมันเพื่อไม่ให้เป็นเป้าสายตาของพวกทหารเรือความสามารถของทิชนั้นในอดีตแสดงให้เห็นว่าเค้าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้อาวุธที่เรียกว่า กรงเล็บใบมีดที่มีลักษณะเป็นใบมีดแหลมคม4ใบติดอยู่ที่มือทั้งสองข้างโดยเค้าใช้มันในเหตุการณืที่กลุ่มโจรสลัดหนวดขาวเข้าคุ้มครองเกาะเงือกจากพวกค้าทาสเมื่อครั้งในอดีตซึ่งนั้นทำให้เราได้รู้ว่าแผลเป็นที่ทิชฝากไว้บนใบหน้าของแชงคูสเกิดขึ้นจากอาวุธชนิดนี้นั้นเอง
7 เทพผู้บ้าคลั่ง หนวดดำ(Black) |
ปรากฏตัวครั้งแรกโลกวันพีช บนเกาะ จายาซึ่งในขณะนั้นเค้ากำลังต้องการสร้างชื่อให้เร็วที่สุดโดยการจัดการโจรสลัดที่มีค่าหัวเกิน 100,000,000 เบรีโดยคิดว่าถ้ามาที่ๆมีโจรสลัดอยู่รวมกันมากๆอาจจะเจอก็ได้แต่ก็พบเพียงเบรามีและพวกที่มีค่าหัวสูงสุดเพียง 55,000,000 เบรีและเห็นว่าลูฟี่เป็นเพียงโจรสลัดที่มีค่าหัวเพียง 30,000,000เบรี ก่อนจะรู้ความจริงในใบประกาศค่าหัวใหม่ของลูฟี่ที่มีค่าหัวสูงถึง 100,000,000 เบรี่มันก็สายเสียแล้วเพราะพวกลูฟี่เดินทางสู่เกาะแห่งท้องฟ้าเสียแล้ว
.........................
【】นอกเรื่องวันพีชความรู้รอบตัว【】
เปิดตำนานบาปร้ายแรงของการเบียดเบียนภายใต้บัญชาจากจอมมาร บาอัล Baell - จอมปีศาจแห่งความตะกละ
บาป 7 ประการ เป็นหลักคำสอนของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิคใน อดีตกาล ให้มนุษย์ไม่ทำตามสัญชาตญาณของตนมากจนเกินไป ทางศาสนาคริสต์ได้แบ่งบาปออกเป็น 2 ประเภทคือ แบบที่สามารถยกโทษให้ได้ และ แบบรุนแรง ในต้นศตวรรษที่ 14 หลักคำสอนนี้เป็นที่นิยมในหมู่ศิลปิน (หรือแม้กระทั่งในปัจจุบัน) ผลงานศิลปะมากมายที่สื่อถึงบาป 7 ประการแพร่ไปทั่ววัฒนธรรมต่างๆทั่วโลก
2/ ตะกละ (ภาษาละติน: gula กูลา ; ภาษาอังกฤษ: gluttony)
การ สนองความต้องการโดยไม่ยั้งคิด มุ่งร้ายเอาของคนอื่น บริโภคสิ่งต่างๆจนขาดการการไตร่ตรอง บริโภคจนมากเกินไป มากจนเกินความจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาหาร รวมถึงการบริโภคสิ่งๆ ต่างๆ โดยไม่คำนึงสนใจ หรือเห็นใจคนอื่น ทำให้เวลาสรรเสริญพระเจ้าน้อยลง และยังเป็นบาปที่สามารถชักจูงให้ทำบาปอื่นๆ ได้ เช่น ปรารถนาในความหิว (ราคะ) ฆ่าเพราะความหิว (โทสะ) เป็นต้น "บาอัล " เจ้าชายแห่งนรก หรือเจ้าแห่งหมู่แมลงวัน เป็นปีศาจประจำบาปข้อนี้ สัญลักษณ์ของตะกละคือหมูหรือกา สีประจำบาปคือสีส้ม บทลงโทษของผู้ที่ตะกละในนรกคือการที่ถูกกินทั้งเป็นโดยหนู คางคก และงู ตะกละสามารถแบ่งออกเป็น
Praepropere - กินเร็วเกินไป
Laute - กินแพงเกินไป
Nimis - กินมากเกินไป
Ardenter - กินอย่างกระตือรือร้นเกินไป
Studiose - กินอย่างประณีตเกินไป
Forente - กินอย่างแรงกล้าเกินไป
Ψ ผู้หลงในบาปข้อนี้จะถูกจองจำในนรกขุมที่ 3 (Third Circle : Gluttony) นรกแห่งความสกปรกโสโครกเหมือนดั่งอยู่ในน้ำย่อยที่เหนียวเหนะเกิดจากการกินใช้อย่าง สุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือย ไม่พอเพียง ไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ก็เหมือนการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่นโดยไม่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นคนไม่มีอันจะกินหรือสัตว์อื่นที่เราเบียดเบียนนำมาทำเป็นอาหาร ก็ตาม นรกขุมนี้จะมีฝนฝุ่นผงสีเทาตกทั้งวันทั้งคืน เป็นลักษณะของขยะมูลฝอยที่คนเหล่านั้นทำให้โลกสกปรกโสโครกจากการกินใช้ของเขาเหล่านั้น จมอยู่ในโคลนที่เน่าเหม็นและฝนใบมีดน้ำแข็งที่ทุ่มแทงร่างกายตลอดเวลาซ้ำยังมี หมาสามหัวเซอเบรัชเฝ้าไม่ให้หนีไปไหนได้
Ψ ผู้หลงในบาปข้อนี้จะถูกจองจำในนรกขุมที่ 3 (Third Circle : Gluttony) นรกแห่งความสกปรกโสโครกเหมือนดั่งอยู่ในน้ำย่อยที่เหนียวเหนะเกิดจากการกินใช้อย่าง สุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือย ไม่พอเพียง ไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ก็เหมือนการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่นโดยไม่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นคนไม่มีอันจะกินหรือสัตว์อื่นที่เราเบียดเบียนนำมาทำเป็นอาหาร ก็ตาม นรกขุมนี้จะมีฝนฝุ่นผงสีเทาตกทั้งวันทั้งคืน เป็นลักษณะของขยะมูลฝอยที่คนเหล่านั้นทำให้โลกสกปรกโสโครกจากการกินใช้ของเขาเหล่านั้น จมอยู่ในโคลนที่เน่าเหม็นและฝนใบมีดน้ำแข็งที่ทุ่มแทงร่างกายตลอดเวลาซ้ำยังมี หมาสามหัวเซอเบรัชเฝ้าไม่ให้หนีไปไหนได้
ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดตะกละคือ ความพอดี การยับยั้งชั่งใจ
"ข้าคือจอมปีศาจประจำเดือน กรกฏาคม
ผู้บูชาข้าจะได้รับซึ่ง การค้าขายที่รุ่งเรือง"
บาอัล(Baell)หรือเบลเซบับ (Beelzebub) จอมปีศาจแห่งความตะกละ มหาบาปข้อที่ 5 :หนึ่ง ในเทวทูตผู้ถูกขับจากสรวงสวรรค์ อดีตมหาเทพชั้นเซราฟิม, และกลับกลายเป็นจอมปิศาจผู้ยิ่งใหญ่อีกตนหนึ่งแห่งขุมนรก ผู้เป็นรองแค่ซาตานเท่านั้น. ตามที่ John Milton, ผู้ประพันธ์ Paradise Lost (ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ 1667), กล่าวไว้ว่า "than whom, Satan except, none higher sat." หรือ "ยกเว้นแต่ซาตานเท่านั้น, ไม่มีผู้ใดอยู่เหนือกว่าเบลเซบัฟ"
เซบาสเตียน ไมเคิลลิส (Sebastian Michaelis), ผู้ชำนาญในการขับไล่ผีร้ายแห่งศตวรรษที่ 17, ได้จัดเบลเซบัฟ เป็น 1 ใน 3 ของเทวทูตผู้ทรงอำนาจ (อีก 2 คือ ลูซิเฟอร์และลิเวียธัน). ต่อมามีงานเขียนสองชิ้นในศตวรรษที่ 18 กำหนดว่า "Unholy Trinity" ประกอบไปด้วย ลูซิเฟอร์, เบลเซบัฟ, และแอสตารอส. (จะเห็นว่าลูซิเฟอร์กับเบลเซบัฟมีความยิ่งใหญ่แทบไม่ต่างกัน)
ชื่อเบลเซบัฟเป็นที่รู้จักกันดี ไม่ได้น้อยไปกว่าลูซิเฟอร์เนื่องจากในภาพยนตร์, การ์ตูน, โดยเฉพาะเกมส์ต่างๆ มักจะมีพูดถึงอยู่บ่อยๆ. มีชื่อเรียกมากมาย แต่มักจะคล้ายๆ กัน เช่น Belzebud, Belzaboul, Beelzeboul, Baalsebul, Beelzebus, และ Beelzebuth.
เกม/การ์ตูนที่มีการกล่าวถึงเบลเซบัฟ เช่น Final Fantasy, โจ มาไคมูระ (เบลเซบัฟเป็น Boss เฝ้าหน้าประตูเข้าไปหาลูซิเฟอร์), เซนต์เซย่า (เบลเซบัฟเป็นบริวารมือขวาของลูซิเฟอร์), Summoner, Devil Summoner, Godcyder (เบลเซบัฟเป็นรองจากลูซิเฟอร์และมีบทบาทถึง 1 ใน 4 ของเรื่อง), หรือภาพยนตร์ Bedazzled, Lord of the flies, etc ....
ชื่อ "เบลเซบัฟ" ว่ากันว่าเพี้ยนมาจากคำว่า Baalzebul ซึ่งแปลว่า "จ้าวแห่งสวรรค์ - Lord of Heaven" กลายเป็น เบลเซบัฟ (Beelzebub) หรือ "จ้าวแห่งแมลงวัน - Lord of Flies". แต่เดิมนั้นเบลเซบัฟ เป็นเทพเจ้าของซีเรียน (Syrian God), เป็นเทพเจ้าแห่งเอครอน (Ekron) แห่ง ฟิริสเทีย (Philistia). เมื่อกษัตริย์ Ahaziah หารือกับเหล่านักปราชญ์ว่า หายนะที่จะเกิดขึ้นกับบ้านเมือง เป็นเพราะเหตุอันใด. นักบวชได้กล่าวว่า "เมื่อใดที่ Ank (Beelzebub) มาเยือน, เมืองนี้จะมีโรคร้ายระบาดไปทั่ว ผู้คนจะล้มตาย ซากศพจะกองสูงเหนือหลังคาบ้าน" และนับแต่นั้นเป็นต้นมา เบลเซบัฟก็กลายเป็นปิศาจแห่งความตาย.
ปรากฎใน The New Testament ว่าเป็นผู้ปกครองเหล่าปิศาจ เจ้าชายแห่งเหล่าปิศาจ (Matthew 12:24). ทว่าเบลเซบัฟนั้นต่างจากซาตาน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งของพลังเวทย์ การกระทำ หรืออะไรทั้งหมด ไม่ได้ใช้หรือขอยืมพลังจากซาตานเลย. ใน Gospel of Nicodemus, พระเยซูคริสต์เดินทางเยือนนรก 3 วัน และให้เบลเซบัฟ มีอำนาจในการปกครองนรก (อย่างเป็นทางการ) และให้มีอำนาจเหนือซาตาน (กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ได้รับเลือกให้คุมนรกอย่างถูกต้องโดยพระคริสต์) แลกกับการยอมรับในพระองค์ เพราะว่าซาตานนั้นไม่ยอมรับในตัวพระเยซูคริสต์. (นี่เป็นความเชื่อของฝ่ายที่ว่าเบลเซบัฟอยู่เหนือกว่าซาตาน)
เกม/การ์ตูนที่มีการกล่าวถึงเบลเซบัฟ เช่น Final Fantasy, โจ มาไคมูระ (เบลเซบัฟเป็น Boss เฝ้าหน้าประตูเข้าไปหาลูซิเฟอร์), เซนต์เซย่า (เบลเซบัฟเป็นบริวารมือขวาของลูซิเฟอร์), Summoner, Devil Summoner, Godcyder (เบลเซบัฟเป็นรองจากลูซิเฟอร์และมีบทบาทถึง 1 ใน 4 ของเรื่อง), หรือภาพยนตร์ Bedazzled, Lord of the flies, etc ....
ตราเวทอัญเชิญจอมมาร Baell |
ร่างจริงของจอมมาร บาอัล |
ชื่อ "เบลเซบัฟ" ว่ากันว่าเพี้ยนมาจากคำว่า Baalzebul ซึ่งแปลว่า "จ้าวแห่งสวรรค์ - Lord of Heaven" กลายเป็น เบลเซบัฟ (Beelzebub) หรือ "จ้าวแห่งแมลงวัน - Lord of Flies". แต่เดิมนั้นเบลเซบัฟ เป็นเทพเจ้าของซีเรียน (Syrian God), เป็นเทพเจ้าแห่งเอครอน (Ekron) แห่ง ฟิริสเทีย (Philistia). เมื่อกษัตริย์ Ahaziah หารือกับเหล่านักปราชญ์ว่า หายนะที่จะเกิดขึ้นกับบ้านเมือง เป็นเพราะเหตุอันใด. นักบวชได้กล่าวว่า "เมื่อใดที่ Ank (Beelzebub) มาเยือน, เมืองนี้จะมีโรคร้ายระบาดไปทั่ว ผู้คนจะล้มตาย ซากศพจะกองสูงเหนือหลังคาบ้าน" และนับแต่นั้นเป็นต้นมา เบลเซบัฟก็กลายเป็นปิศาจแห่งความตาย.
ปรากฎใน The New Testament ว่าเป็นผู้ปกครองเหล่าปิศาจ เจ้าชายแห่งเหล่าปิศาจ (Matthew 12:24). ทว่าเบลเซบัฟนั้นต่างจากซาตาน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งของพลังเวทย์ การกระทำ หรืออะไรทั้งหมด ไม่ได้ใช้หรือขอยืมพลังจากซาตานเลย. ใน Gospel of Nicodemus, พระเยซูคริสต์เดินทางเยือนนรก 3 วัน และให้เบลเซบัฟ มีอำนาจในการปกครองนรก (อย่างเป็นทางการ) และให้มีอำนาจเหนือซาตาน (กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ได้รับเลือกให้คุมนรกอย่างถูกต้องโดยพระคริสต์) แลกกับการยอมรับในพระองค์ เพราะว่าซาตานนั้นไม่ยอมรับในตัวพระเยซูคริสต์. (นี่เป็นความเชื่อของฝ่ายที่ว่าเบลเซบัฟอยู่เหนือกว่าซาตาน)
...............................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น