One Piece Blackbeard จีซัส บาเจส _Jesus Burgess ★ ジーザス･バージェス

WANTED Jesus Burgess

ฉายา บาเจสแห่งกลุ่มหนวดดำ
- แชมเปี้ยน บาเจส -
   ( THE CHAMPION )

ค่าหัววันพีช ประมาณ  
   240,000,000 เบรี

อายุ ---/เกิด 25 ธันวาคม

- ในแกรนต์ไล

เรือ  Blackbeard Pirates' raft

ตำแหน่ง คนคุมหางเสือเรือกลุ่มโจรสลัดหนวดดำ
( HELMSMAN OF BLACKBEARD PIRATE )

ผลปีศาจ  ---

อาวุธ พละกำลังและหมัดเอลโบล

สมาชิกกลุ่ม มาร์แชล ดี ทีช(Marshall D.Teach) ,ด็อกเตอร์ คิว(Doc Q)   ,วอร์น ออร์กา(Van Oga) ,ราฟิต (Lafitte) ,ชิริว(Shiryuu)  ,ซานจวน วูลฟ์ (San Juan Wolf) ,วาสโก้ ช็อต(Basco Shot) ,แคทาลีนา ดีวอน (Catarina Devon)  ,อาบาโล่ ปิซาร์โร่ (Abalo Pizarro)

เผ่าพันธุ์ มนุษย์ 

            จีซัส บาเจส(Jesus Burgess - Jizasu Bajesu)เป็นชายที่มีรูปร่างใหญ่โดยเฉพาะช่วงแขนและอกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแรง มีผมยาวหยักสีม่วงและสวมหน้ากากที่ดูคร้ายนักมวยปล้ำอยู่ตลอดสวมใส่เสื้อสีน้ำตาลกางเกงสีขาวโดยมีจุดเด่นที่สำคัญอยู่ที่เข็มขัน แชมเปี้ยนอันน่าภาคภูมิใจคาดที่เอวอยู่ตลอดแม้เวลาต่อสู้ มีนิสัยขี้คุยและพูดเสียงดังชอบอวดตัวว่าเป็นแชมเปี้ยน และบังคับให้ทุกคนต้องยอมรับแม้ต้องใช้กำลังบังคับก็ตาม

       -  ชื่อของจีซัส บาเจส มาจากโจรสลัดชื่อดังในอดีตในชื่อ Samuel Burgess เป็นโจรสลัดที่ชอบค้าขายเกี่ยวกับทาสในแถบมาดากัสก้ามีชีวิตอยู่ในช่วงปีค.ศ.1690-1716
        -  ลูกเรือหลักของกลุ่มหนวดดำมีความเชื่อในโชคชะตาจนถูกนำไปเชื่อมโยงกับเทวทูตทั้ง 4 ในพระคัมภีร์โดย บาเจส เป็นตัวแทนของ "สงคราม เทวทูตร่างกำยำ  ผู้ขี่อาชาโลหิต" ใช้ดาบใหญ่ทรงกำลังเป็นอาวุธ
 ......................
 【】 เปิดตำนานโจรสลัด กับตันซามูเอล เบอเจส หนึ่งในสมาชิกลูกเรือกัปตัน วิลเลี่ยม คิดส์ ในตำนาน (Samuel Burgess) 【】 

แชมเปี้ยน จีซัส บาเจส/The Champion  Burgess

             จีซัส บาเจส แห่งกลุ่มโจรสลัดหนวดดำเป็นพลแม่นปืนระยะไกลมือหนึ่งที่ได้รับฉายาแชมเปี้ยน บาเจส(The Champion)เป็นลูกเรือที่มีความสามารถในด้านพละกำลังเป็นหลักโดยการต่อสู้ในแต่ละครั้งจะใช้เพียงหมัดเท่านั้นในการต่อสู้
        ปรากฏตัวครั้งแรกในโลกวันพีชพร้อมกับลูกทีมคนอื่นบนเกาะจายาโดยเค้าออกไปสู้กับพวกลูกน้องของ โรชิโอที่ไม่เชื่อว่าเค้าเป็นแชมเปี้ยนทำให้ต้องบังคับให้เชื่อด้วยกำลังและยังตะโกนไปทั่วทั้งเมืองว่า"ข้าคือแชมเปี้ยน"ทำให้ลูฟี่และโซโลที่อยู่ในเมืองนั้นพอดีเกิดความไม่พอใจแต่โชคดีที่ นามิสั่งห้ามไม่ให้มีเรื่องจึงไม่เกิดการต่อสู้กันขึ้นหลังจากนั้นปรากฏตัวในอีกหลายที่ทั้งที่ เกาะบานาโร่ในการเป็นสักขีพยานในความพ่ายแพ้ของเอส และยังมีส่วนร่วมในศึกที่มารีนฟอร์ดพร้อมกับพรรคพวกโดยเค้าเข้าโจมตีปลิดลมหายใจของหนวดขาวด้วยหมัดอันทรงพลังก่อนจะหยุด จอมพลเซนโกคุใช้หมัดโพธิสัตว์ซัดกระเด็น

...............................

【】นอกเรื่องวันพีชความรู้รอบตัว【】
         เปิดตำนานโจรสลัด กับตันซามูเอล บาเจส หนึ่งในสมาชิกลูกเรือของกัปตัน วิลเลี่ยม คิดส์ ใน ค.ศ. 1690

                ซามูเอล บาเจส(Samuel Burgess)เป็นโจรสลัดที่เคยมีชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรษที่16-17 มีอาณาเขตการเดินเรืออยู่ในแถบมหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรอินเดีย ช่วงปี 1689 เค้าเข้าร่วมกับกลุ่มของโจรสลัดกัปตัน คิดส์ (Captain William Kidd)ในการออกปล้นในแถบหมู่เกาะอินเดียตะวันตก  ช่วงหนึ่งของการเดินทางหลังจากกัปตันคิดส์ประกาศสละตำแหน่งกัปตันทำให้กัปตัน โคดส์(Edward Coates)เข้ายึดอำนาจและขึ้นเป็นกัปตันคนใหม่แทนที่

ซามูเอล เบอร์เจส(Burgess)

               ในปี 1693   หลังจากที่เอ็ดเวิร์ด โคตส์ ขึ้นเป็นกัปตันเรือคนใหม่ทำให้เบอร์เจสตัดสินใจที่จะเดินทางไป นิวยอร์ค ประเทศอเมริกาเพื่อไปเป็นตัวกลางในการค้าขายบนฝั่ง  ในช่วงที่เรือของเบอร์เจสจอดอยู่ที่ลองไอแลนต์ โคดส์(Cp.Coates)ส่งคนไปหาผุ้ว่าการรัฐนิวยอร์คพันเอกเบนจามิน แฟล็ตเชอ(Benjamin Fletcher)เพื่อติดสินบนด้วยเงิน 800 ปอนต์สเตอร์ลิงให้ช่วยเหลือในด้านสิทธิพิเศษในการค้าและการเดินเรือ 
              ในช่วงเดือนเมษายน บาเจสได้ใช้เงินจำนวนมากในการซื้อบ้านในนิวยอร์คและใช้เงินที่เหลือหมดไปกับธุรกิจค้าของเถื่อนที่ร่วมทุนกับเศรษฐีผู้มั่งคั่ง เฟรเดอริ ฟิลลิป (Frederick Phillips)โดยเป็นคนกลางส่งมอบปืน หรือสินค้าทุกชนิดที่พวกโจรสลัดต้องการเพื่อแลกกับทองคำและทาส
             กันยายน ค.ศ.1699   บาเจสพร้อมด้วยลูกเรือมาการ์เร็ต เดินทางไปยังเกาะเซนต์แมรี่ เพื่อรับหนังสืออภัยโทษสำหรับคดีความอันเกิดจากประพฤติตนเป็นโจรสลัด ของทั้งตัวบาเจสเองและบรรดาลูกเรือเบอร์  เมื่อลูกเรือทั้งหมดได้รับการอภัยโทษเรียบร้อยแล้ว บาเจสก็ได้ส่งตัวลูกเรือของเขาขึ้นเรือเพื่อกลับไปยังบ้านเกิดของพวกเขา หลังจากนั้นบาเจสก็ได้แล่นเรือไปยังเมืองเคปทาวน์ ณ ประเทศแอฟริกาใต้ ระหว่างทางก่อนถึงจุดหมายปลายทาง  บาเจส ได้พบเรือตรวจการของกัปตันเรือ กัปตันแมทธิว(Captain Matthew Lauza)และถูกเข้าจับกุมด้วยข้อหาให้การช่วยเหลือโจรสลัด ค้าขายและส่งมอบอาวุธให้ฝ่ายที่เป็นอริกับรัฐบาลอังกฏษ  นอกจากนี้ยังพบว่ามีลูกเรือบางคนเป็นโจรสลัดที่เคยเป็นลูกเรือเก่าของกัปตันคิดส์มาก่อน จึงถูกตั้งข้อหาหลายกะทงแล้วจึงทำการยึดเรือมากาเร็ต รวมทั้ง ทรัพย์สมบัติ และ ทาส ทั้งหมด ก่อนจะนำตัวเขาส่งไปยังเมืองบอมเบย์ ประเทศอินเดีย  และส่งตัวต่อไปยังลอนดอน ประเทศอังกฏษ
             ในปี ค.ศ 1701 จากคำเบิกความกับถูกกล่าวหาว่าเป็นลูกเรือของกัปตันคิดส์ทำการอันเป็นโจรสลัดปล้นสะดมในทะเล โดยการให้ปากคำของกัปตัน โรเบริต คูริฟอร์ด  บาเจสได้รับการพิสูจน์ว่าเค้าได้กระทำความผิดนั้นจริงๆ แต่.....นั่นก็เป็นเรื่องเก่าและเค้าได้รับการอภัยโทษแล้ว....คำกล่าวหาจึงตกไปเหลือเพียงข้อหาให้การช่วยเหลือโจรสลัดซึ่งเป็นข้อหาเล็กน้อย เค้าจึงประกันตัวด้วยทรัพย์สินที่มี ในสุดท้าย บาเจสถูกปล่อยตัวหลังจากนั้นเค้าเดินทางไปยัง ยังเซนต์ มาเรีย หมู่เกาะมาดากัสก้า และเริ่มธุรกิจค้าขายกับโจรสลัดอีกครั้ง

             ในปี 1703 บาเจสได้รับการว่าจ้างให้เป็นลูกเรือ ฮันนาน(Hannah)เรือขนาดใหญ่ติด ปืนใหญ่ 26 กระบอก แต่ก็เกิดผิดใจกับกัปตันเรือจนคิดวางแผนการใหญ่ร่วมกับจอร์น เฮลซี่ (John Halsey) ในการบุกยึดเรือเรือ และปล้นเอาสินค้ามาเป็นของตน โดยแกล้งทำเป็นเรือล่มแล้วเข้าช่วยเหลือจนในที่สุดแผนการก็สำเร็จสามารถยึดเรือมาเป็นของตนได้แล้วจึงเปลี่ยนชื่อเรือใหม่เป็น เนปจูน(Neptune)
             ในปี 1708 บาเจสมียังคงอาศัยอยู่ในแถบบนหมู่เกาะมาดากัสการ์ โดยมีธุรกิจหลักเป็นการค้าทาสและค้าเหล้าเถื่อนที่รับมากจากพวกโจรสลัด แต่แล้วธุรกิจของเค้าก็เกิดสะดุด และเริ่มประสบปัญหามีการโต้เถียงบ่อยครั้งกับ หุ้นส่วนทางธุรกิจ เดวิด วิลเลียมส์ (David Williams)เกี่ยวกับส่วนแบ่งที่ได้รับ หลังจากนั้นไม่นานบ้านของเค้าก็ถูกวางเพลิง พยานกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าบาเจสนั้นเมาจนทำบ้านตัวเองใหม้แต่ในความเป็นจริงเค้าถูกวางเพลิงเพื่อล้างหนี้โชคดีที่เค้าขุดดินใต้พื้นบ้านหลบหนีออกมาได้และหนีไปอยู่ที่เกาะทางตะวันตกของมาดากัสก้า
             ช่วงวาระสุดท้าย ในปี 1716 บาเจสป่วยด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง ช่วงใกล้หมดลมหายมี โจรสลัดเคียงข้างเพียง 3คนคือ  Zachary, Ian and Nick Pro Douvom. กัปตันเฮนรี่ เป็นสักขีพยานต่อการตายของเค้า

..........................