One Piece วันพีช บ็อบบี้และโปโก Bobby ★ ボビー - Pōgo ★ポーゴ

ฉายา คนยักษ์
- ยักษ์เคราเขียว โป็ป
- ยักษ์เคราแดง บ็อบบี้

ค่าหัวร่วม 150 ล้านเบรี

อายุ โปโก 145/บ็อบบี้ 165
ส่วนสูง ...... cm.
เรือ ฟิชแมนคิลเลอร์
ผลปีศาจ ------
อาวุธ ดาบและขวานด้ามยาว (Sword/ Dane Axe)
ไม้ตาย แขนคู่ร่วมประสาน
ตำแหน่ กัปตันโจรสลัดชาวประมงคนยักษ์ (GIANTS FISHMAN PIRATE)
เผ่าพันธุ์ คนยักษ์ชาวประมง
ปรากฏตัวใน  One Piece The movie 4 - Dead End Adventure 
- การผจญภัยเกาะโจรสลัดที่เดธเอนด์ 
- ออกฉาย  มีนาคม 2003

             โปโกและบ็อบบี้หรือโบบิ(Pogo -Bobby Bobi )เป็นคู่หูคนยักษ์ที่ปรากฏตัวในภาคเดอะมูวี่ในการแข่งขัน เดดเอนต์ที่เริ่มต้นจากน้ำตกขนาดใหญ่ใจกลางเกาะโดยกว่าครึ่งของผู้เข้าแข่งขันจะถูกทำลายจากโจรสลัดคู่แข่งก่อนออกจากเกาะซะด้วยซ้ำซึ่ง กลุ่มโจรสลัดชาวประมงคนยักษ์ โปโกและบ็อบบี้ก็เป็น หนึ่งในนั้นซึ่งเรือของพวกเค้าสามารถทำลายเรือของกลุ่มโจรสลัดอื่นได้หลายลำก่อนจะแหกโค้งเพื่อใช้ทางลัดไปสู่ทะเลแต่ด้วยน้ำหนักตัวที่หนักมากทำให้เรือไปไม่ได้ไกลก็ตกลงในเมือง...เรือพังในที่สุดออกจากการแข่งขัน


【】 นอกเรื่องวันพีชความรู้รอบตัว 【】  
         เปิดตำนานยักษ์ใหญ่จากนิทานพื้นบ้านจีน ยักษ์ใหญ่ผู้กำเนิดมาพร้อมกับโลก ผานกู่(PANGU)

             ผานกู่ (Pangu - 盤古 -  盘古) หมายถึง "แผ่นโลกโบราณ") คือสิ่งมีชีวิตชนิดแรกสุดของโลก เป็นผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง ตามความเชื่อเรื่องการสร้างโลกของจีนตำนานผานกู่  นักเขียนคนแรกที่บันทึกปกรณัมผานกู่คือ สวีเจิ่ง (徐整) ในระหว่างยุคสามก๊ก

ยักษ์ผานกู่ - Pangu - 盤古
          เมื่อแรกเริ่มไม่มีสิ่งใดในจักรวาลเลยนอกจากความสับสนวุ่นวาย ต่อมาความวุ่นวายนั้นรวมตัวกันเข้าเป็นไข่จักรวาลใบหนึ่งเป็นเวลา 18,000 ปี ภายในนั้นคือหยินและหยางที่สมบูรณ์แบบและสมดุล ผานกู่ถือกำเนิดในไข่ใบนั้น คำพรรณนาถึงผานกู่มักว่าเป็นยักษ์มีขนดก มีเขาอยู่บนศีรษะ ร่างคลุมไปด้วยขน ผานกู่เริ่มต้นสร้างโลกโดยแยกหยินและหยางออกโดยการจามด้วยขวานยักษ์ของเขา หยินกลายเป็นโลก และหยางกลายเป็นท้องฟ้า เพื่อให้ทั้งสองแยกกันตลอดไป ผานกู่จึงยืนขวางระหว่างทั้งสองส่วนไว้แล้วดันท้องฟ้าขึ้นไป ขั้นตอนนี้ใช้เวลา 18,000 ปี แต่ละวันท้องฟ้าสูงขึ้น 10 เชียะ (3 เมตร) และโลกก็กว้างขึ้น 10 เชียะ ผานกู่ก็สูงขึ้น 10 เชียะ เรื่องเล่าบางแห่งบอกว่าในระหว่างการสร้างโลกนี้มีสัตว์ใหญ่ 4 ชนิดมาช่วย คือ เต่า, กิเลน, หงส์ และมังกร
           หลังผ่านไป 18,000 ปี ผานกู่เหน็ดเหนื่อยมาก จึงล้มลงขาดใจตาย ลมหายใจกลายเป็นสายลม เสียงกลายเป็นสายฟ้า ตาซ้ายเป็นดวงอาทิตย์ ตาขวาเป็นดวงจันทร์ ร่างกายกลายเป็นเทือกเขาและที่ราบสูงส่วนใหญ่ของโลก เลือดกลายเป็นแม่น้ำ กล้ามเนื้อเป็นผืนดินอันอุดมสมบูรณ์ หนวดเคราเป็นดวงดาวและทางช้างเผือก ขนเป็นพุ่มไม้และป่าไม้ กระดูกเป็นแร่ธาตุมีค่า ไขกระดูกเป็นเพชร เหงื่อกลายเป็นฝน และเหลือบไรบนขนตามร่างกายกายไปเป็นปลาและสัตว์ต่างๆ บนแผ่นดิน ทุกสิ่งของผานกู่ได้กลายเป็นสิ่งต่างๆบนโลกหมด จากนั้น เมื่อผ่านไปเนิ่นนาน เทพธิดาหนี่ว์วา แห่งดวงจันทร์ได้ลงเยี่ยมชมโลก นางได้เอาดินโคลนมาปั้นเป็นรูปมนุษย์ มนุษย์เหล่านี้ฉลาดหลักแหลมเพราะถูกประดิษฐ์ขึ้นทีละคน แต่ต่อมาหนี่ว์วาเหน็ดเหนื่อยในการสร้างทีละคน นางจึงเอาเชือกมาจุ่มน้ำโคลนและสะบัดออกไป โคลนเหล่านี้กลายเป็นมนุษย์อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่ฉลาดเหมือนกลุ่มแรก
.............................


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น